#บันทึกแชมป์ประวัติศาสตร์ยุติการรอคอย 30 ปี ตอนที่ 13

Match Day 12  10 November  2019

Match Day 12  10 November  2019

Liverpool 3 Man City 1

Match Day 12  10 November  2019

เป็ป กวาดิโอล่าพูดถึงคลอปป์และลิเวอร์พูลก่อนเกมว่า “สำหรับผม การเป็นผู้จัดการทีม อย่างที่เคยบอกเมื่อปีที่แล้ว เราเป็นแชมป์ลีก นั่นคือความสำเร็จยิ่งใหญ่ที่สุดของผม เพราะเจอคู่ท้าชิงที่ดีที่สุด ตอนนี้ พวกเขาแข็งแกร่งที่สุดในโลก ผมรู้ว่า การเล่นในแอนฟิลด์มีความหมายกับพวกเขาและคู่แข่งอย่างไร เราต้องเล่นตามแผนที่วางไว้ แต่จะเล่นอย่างไร ขอตอบแบบอิตาเลี่ยนว่า ไม่มีความเห็น แต่ผมรู้ว่าจะพูดกับลูกทีมอย่างไร”

“เราเสมอพวกเขา 1 แพ้ 2 ใน 3 เกมล่าสุด” คลอปป์พูดถึงแมนฯ ซิตี้ “นี่คือความจริง แต่สำหรับเรา พัฒนาการของนักเตะเห็นได้ชัดเจน แต่ไม่เกี่ยวกับเกมวันอาทิตย์นี้ เราต้องเล่นเกมของเราให้ดีที่สุด ทุกคนในสนามต้องพร้อมที่สุดในชีวิต แม้แต่คนขายฮ็อตด็อกต้องพร้อมที่สุดเหมือนกัน ดีที่สุดตั้งแต่วินาทีแรก แฟนบอลมาให้เร็ว ด้านนอกไม่มีอะไรให้ทำ เข้าสนามให้เร็ว ต้อนรับนักเตะตั้งแต่วอร์ม นี่เป็นสิ่งที่ผมอยากให้เกิดขึ้น ก่อนที่เราจะได้อะไร เราต้องพร้อมเสียก่อน อารมณ์ทุกอย่างต้องได้ก่อนเกม เพื่อเล่นฟุตบอล”

ทั้งสองทีมลงเล่นกลางสัปดาห์ แมนฯ ซิตี้เสมออตาลันต้าในอิตาลี สิ่งสำคัญคือการบาดเจ็บของเอแดร์ซอน ส่วนลิเวอร์พูลชนะเก๊งค์ที่แอนฟิลด์ 2-1

นี่คือเกมแห่งความทรงจำอย่างแท้จริง สำหรับการลบความเคลืองแคลงทั้งหลาย ลิเวอร์พูลดีพอจะเป็นแขมป์ลีกครั้งแรกในรอบ 30 ปี ช่องว่างจาก 6 คะแนนเปลี่ยนเป็น 9 แมนฯ ซิตี้หล่นไปอยู่ที่สี่ เลสเตอร์แสดงให้โลกเห็นว่า พวกเขาเป็นอีกหนึ่งที่ขอลุ้นแชมป์ ยังตามลิเวอร์พูล 8 คะแนน เช่นเดียวกับเชลซี

ใช่ว่าซิตี้เล่นไม่ดี หรือไม่มีโอกาส ทีมของเป็ปมีโอกาสยิงทั้งเกม 18 ครั้ง เข้ากรอบแค่ 3 ครั้ง ขณะลิเวอร์พูลสร้างโอกาสยิงน้อยกว่า ได้ 12 ครั้งแต่คมกว่ากับการยิงเข้ากรอบ 5 ครั้งได้ 3 ประตู ทั้งเกมซิตี้ยังครองบอลมากกว่าลิเวอร์พูล ทั้งครึ่งแรกและครึ่งหลัง 45-55 นี่คือเกมเดียวที่ลิเวอร์พูลครองบอลน้อยกว่าคู่ต่อสู้ที่แอนฟิลด์

สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นโดยซิตี้ไม่มี กองหลังตัวสำคัญ อาเมอริค ลาปอร์ก และผู้รักษาประตูตัวจริง เอแดร์ซ่อน บ่งบอกคุณภาพของซิตี้ได้ชัดเจน เพียงแต่ไม่ดีพอสำหรับเกมนี้ ลิเวอร์พูลชนะ 11 เสมอ 1 จาก 12 เกม เท่าสถิติของฤดูกาล 89-90 ซึ่งพวกเขาได้แชมป์ดิวิชั่น 1

เรือใบสีฟ้าเสียกระบวนเพราะ 2 ประตูใน 7 นาที การโต้กลับที่เฉียบขาดของลิเวอร์พูล โดยเฉพาะลูกแรกพวกเขามัวแต่อารมณ์เสียกับการไม่ได้จุดโทษ

จุดโทษความได้เปรียบสำคัญ ขนาดทีมเยือนหยุดเล่น โดยเฉพาะอาเกวโร่ที่อยู่ในเขตโทษของลิเวอร์พูล บอลโดนแขนเบอร์นาโด ซิลวา จากนั้นโดนแขนเทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ซี่งไม่แนบลำตัว ถ้าลิเวอร์พูลเสียแฮนด์บอล ซิตี้ก็ทำแฮนด์บอลก่อน คนสำคัญด้านการตัดสินคือ ไมเคิ่ล โอลิเวอร์พูลให้เกมดำเนินต่อ หลังเกม เป็ปบอกว่า หากเราได้จุดโทษ ใครจะรู้เกมจะเป็นเช่นไร

จังหวะต่อเนื่อง ซาดิโอ มาเน่ลากบอลขึ้นด้านซ้ายตามถนัด เปิดเข้าใน แต่บอลติดอันเจลิโน่ และอิลกาย กุนโดฮานเคลียร์ไม่ดีนัก ส่งบอลถึงฟาบินโญ่ จากระยะ 25 หลา นักเตะบราซิลจับบอลก่อนหวดเต็มแรง บอลผ่านการป้องกันของบราโว่ ลิเวอร์พูลนำ 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 6

ซิตี้ยังประท้วงต่อ แต่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ จากนั้นจังหวะสวนกลับอีกครั้ง อาร์โนลด์ครอสส์บอลจากขวา ข้ามมาซ้าย แอนดี้ โรเบิร์ตสันจับลงพื้น และจังหวะสองคือการเปิดเข้ากลาง บอลผ่านกองหลังแมนฯ ซิตี้ โดยเฉพาะแฟร์นันดินโญ่ที่พยายามสกัด โม ซาลาห์วิ่งแซงอันเจลิโน่โหม่งบอลย้อนมาเสาแรก 2-0 สำหรับลิเวอร์พูล น 13

โม ซาลาห์มีส่วนกับประตู 69 ลูกใน 60 เกมที่แอนฟิลด์ ยิง 51 แอสซิสต์ 18

ล้ำหน้าอีก ซิตี้ประท้วง แต่พอล เทียร์นี่ ผู้ตัดสิน VAR ยืนยันให้เป็นประตูของเจ้าถิ่น

เกมจบตั้งแต่ครึ่งแรก แชมป์เป็นของลิเวอร์พูลตั้งแต่ 12 เกม ใครจะประมาททีมของเป็ปได้ พวกเขามีโอกาสมากมาย แต่ยิงไม่เข้า ที่สำคัญเกมรับยังมีปัญหา

น 51 จอร์แดน เฮนเดอร์สันได้บอลด้านขวา แตะหนีกุนโดฮาน ก่อนอันเจลิโน่บล็อกได้ กัปตันเปิดจากเส้นหลังเลยมาเสาสอง มาเน่ทำให้ทุกอย่างชัดเจนขึ้น บราโว่น่าจะตัดบอลได้ แต่เขาพลาด ลิเวอร์พูลนำ 3-0 ซิตี้คงรู้สึกว่า ทุกอย่างที่แอนฟิลด์ตรงช้ามกับพวกเขา แม้แต่ผู้ตัดสิน อาร์โนลด์ผลักสเตอร์ลิงจากด้านหลัง แต่ผู้ตัดสินไม่ให้จุดโทษอีกครั้ง

มาเน่ยิง 22 ประตูในแอนฟิลด์ นับจากสิงหาคม 2018 มากที่สุดสำหรับนักเตะทุกคนที่ยิงได้ในสนามเดียว

สำหรับอาเกวโร่ แอนฟิลด์ช่างเป็นสนามที่เจ็บปวด 8 เกมที่นี่ แต่ยิงไม่ได้สักประตู ในที่สุดเขาโดนเปลี่ยนออก แกเบรียล เจซุสลงแทน น 71

ซิตี้พยายามกลับสู่เกม เริ่มจากประตูของเบอร์นาโด ซิลวา น 78 แต่นี่คือค่ำคืนที่น่าผิดหวัง หากดูจากโอกาสที่มี และช่วงท้ายลิเวอร์พูลเริ่มป่วนเหมือนกัน

ลิเวอร์พูลนำที่ 2 8 คะแนนเป็นการนำห่างที่สุดจาก 12 เกมแรกในพรีเมียร์ ลีกหลังจากแมนฯ ยูฯเคยนำห่างกว่านี้เมื่อปี 93-94 ห่างอันดับ 2  9 คะแนน เป็นการแพ้คลอปป์ครั้งที่ 8 สำหรับกวาดิโอล่า ไม่เคยมี ผจก คนไหนชนะเป็ปมากเท่านี้อีกแล้วตลอดการเป็น ผจก. ทีม

“เราอยากชนะ แต่ตอนนี้เราต้องพัก เตรียมตัวเจอเชลซีในเกมต่อไป เราเล่นได้ยอดเยี่ยมมาก ผมไม่รู้ว่ามีกี่ทีม ที่เล่นในแอนฟิลด์แล้วทำแบบที่เราทำ พวกเขานำจากโอกาสยิงครั้งแรกที่ได้ แต่เราเล่นดีมาก ตอนนี้ มี 3 ทีมที่มีโอกาสได้แชมป์ลีกมากกว่าเรา แต่เพิ่งพฤศจิกายน คอยดูกันต่อไปว่าจะลงเอยอย่างไร” เป็ปกล่าว

จบเกมเป็ปจับมือกับผู้ตัดสิน โดยเฉพาะไมเคิ่ล โอลิเวอร์พูล เหมือนจะพูดว่า ขอบคุณมาก แต่สื่อมองว่า เขาประชด โดยเฉพาะ น 82 เขาชู 2 นิ้วให้ไมค์ ดีนเหมือนบอกว่า ไม่ได้จุดโทษ 2 ครั้งแล้วนะ กรณีหลังเกม เป็ปปฏิเสธ บอกไม่ได้ประชด เขาขอบคุณผู้ตัดสินทุกครั้งและพูดเหมือนเดิม ส่วนประเด็นจุดโทษ ไม่ควรถามเขา คนที่ต้องตอบคือ ผู้ตัดสิน โดยเฉพาะ ไมค์ ไรลี่ย์ หัวหน้าผู้ตัดสินอาชีพ

“ยอดเยี่ยมที่สุด หากคุณต้องการชนะซิตี้ ก็ต้องทำอะไรพิเศษๆ แบบนี้ เราต้องเล่นให้ดุดัน ซิตี้เริ่มคุมเกมดีกว่าเราใน 15 นาทีสุดท้าย แน่นอน เราเครียด แต่คุณเห็นคุณภาพและสิ่งที่นักเตะผมทำได้ เด็กๆผมเล่นได้ยอดเยี่ยมมากใน 75 นาที” คลอปป์กล่าวอย่างพอใจ

“เราไม่รู้สึกถึงความกดดันอย่างใด สัตย์จริง 100 %ตอนนี้จะมีคนพูดอะไรมากมาย นำ 9 แต้มเป็นเรื่องที่ดี แต่หนทางอีกยาวไกล จะมีคนพูดว่า จากนี้ แชมป์หรือไม่ อยู่ที่ลิเวอร์พูลพลาดเองหรือเปล่า นั่นคิดในทางลบ คุณอาจมองแบบนี้ก็ได้ แต่บอกเลยว่า เราไม่สนใจ ผมยืนยันเลยว่า เราไม่สนใจ ใครจะพูดอะไร”

“เราสนใจแต่เกมนี้ ไม่ใช่ตาราง นำซิตี้กี่แต้ม มันบ้ามาก 9 แต้มเหนือซิตี้ คุณไม่มีทางคิดหรอกว่าจะเกิดเรื่องอย่างนี้ แต่มันไม่สำคัญ ใครอยากเป็นที่หนึ่งในเดือนพฤศจิกายน เราอยากเป็นที่หนึ่งในเดือนพฤษภาคม”

11 ตัวจริง อลิซง โรเบิร์ตสัน ฟาน ไดค์ ลอฟเร็น อาร์โนลด์ ไวนัลดุม ฟาบินโญ่ เฮนเดอร์สัน มาเน่ ฟีร์มีโน่และซาลาห์ (สำรอง มิลเนอร์แทนเฮนเดอร์สัน น 61 อ๊อกซ์แทนฟีร์มีโน่ น 79 โกเมซแทนซาลาห์ น 87)

ตารางคะแนนจาก 12 นัด

1 ลิเวอร์พูล เล่น12 ชนะ11 เสมอ1 แพ้- ได้28 เสีย10 34คะแนน

2 เลสเตอร์ เล่น12 ชนะ8 เสมอ2 แพ้2 ได้29 เสีย8  26คะแนน

3 เชลซี เล่น12 ชนะ8 เสมอ2 แพ้2 ได้27 เสีย17 26คะแนน

4 แมนฯซิตี้ เล่น12 ชนะ8 เสมอ1 แพ้3 ได้35 เสีย13 25คะแนน

แมนฯ ยูฯ อยู่ที่ 7 มี 16 คะแนน

 

 

บทความโดย  :: กิตติกร อุดมผล

อ่านข่าวฟุตบอลต่างประเทศ :: ข่าวฟุตบอลวันนี้

บทความฟุตบอล :: บทความฟุตบอลก่อนหน้านี้

เว็บดูบอลออนไลน์ :: ดูบอลออนไลน์ฟรี