Joe Gomez 1 เดียวที่ยิงไม่ได้

“บางทีผมนึกฝันเอา เราได้ลูกเตะมุม แล้วผมทำประตูที่หน้าอัฒจันทร์เดอะ ค็อป เอ็นด์” โจ โกเมซ พูดถึงประตูแรกกับลิเวอร์พูล สำหรับนักเตะที่ผลงานโชกโชนกว่าอายถ 24 เกมกับชาร์ลตัน 32 นัดกับทีมเยาวชนอังกฤษ 8 นัดกับทีมชาติองกฤษชุดใหญ่ และอีก 100 นัดกับลิเวอร์พูล กองหลังผู้คนยังไม่สามารถเปิดบัญชีประตูแรกแม้แต่ลูกเดียว การเล่น 164 เกมในทุกระดับ เขาไม่เคยโดนเพื่อนร่วมทีมห้อมล้อมเพื่อฉลองการยิงประตู ยังไม่เคยมีการประกาศโดยโฆษกสนามไหน โดยเฉพาะที่แอนฟิลด์ว่า “ผู้ทำประตูคือ โจ โกเมซ”

ประตูของโกเมซมีความสำคัญมากกว่านั้น และบ่งบอกความสามารถของลิเวอร์พูลชุดปัจจุบีน โกเมซคือนักเตะคนเดียว ที่เป็น 11 ตัวจริงต่อเนื่องแต่ทำประตูไม่ได้ในฤดูกาลนี้ ถ้าไม่นับผู้รักษาประตู สถิติการทำประตูของลิเวอร์พูลยุคนี้ ถือว่าน่าประทับใจมาก 18 คน ไม่นับผู้รักษาประตู ลงเล่นในพรีเมียร์ ลีก มี 2 คน คือ โจ โกเมซและเดยัน ลอฟเร็น เท่านั้นที่ทำประตูไม่ได้  ขณะที่ผลงานโดยรวมเป็นของกองหน้าสามคน มิดฟิลด์ซี่งยิงประตูไม่ต่อเนื่อง มีนักเตะลิเวอร์พูล 16 คนสามารถทำประตูได้ และถือเป็นสถิติดีที่สุดสำหรับพรีเมียร์ ลีก

บ่อยครั้ง คนที่ไม่คาดหวังว่าจะยิงได้ กลับช่วยให้ทีมรอดพ้นจากความพ่ายแพ้ เช่นเกมเยือนโอลด์ แทรฟเฟิร์ดเมื่อตุลาคมปีที่แล้ว อดัม ลัลลาน่า ตีเสมอก่อนหมดเวลา 5 นาที ยิงประตูแรกของเขาในลีกหลังจากประตูล่าสุดของเขาเกิดขึ้นในเกมสุดท้ายของฤดูกาล 2016/17 แน่นอน คลอปป์พอใจที่ลิเวอร์พูลมีผู้ทำประตูหลายคน

“เป็นเรื่องราวที่ยอดเยี่ยมมากๆ” คลอปป์พูดถึงสถิติดังกล่าว “เขาไม่เครียด ทุกอย่างดีมาก ทั้งที่รู้ว่า การเล่นในสถานการณ์นั้นยากแค่ไหน แต่เขาผลงานการฝึกซ้อมดี และสมควรได้รับโอกาส เรามีเวลา 30 นาที และเขาส่งผลต่อเกม รวมถึงการยิงประตู จะให้พูดยังไง ว้าวเลย” คลอปป์รู้ซึ้งถึงความสำคัญของผู้เล่นที่ไม่ใช่ตัวหลัก แต่ลงมาแล้วสร้างผลงานโดดเด่น นั่นแสดงว่า ลิเวอร์พูลมีตัวเลือกมากพอ

อีกเกมหนึ่งของฤดูกาลที่แล้ว ไปเยือนวิลล่า พาร์ค เดือนพฤศจิกายน แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ชาร์จที่เสาสองตีเสมอให้ทีมนาที 87 ก่อน ซาดิโอ มาเน่ ยิงระตูชัยได้ก่อนหมดเวลา

นักเตะที่ไม่ใช่คนทำประตูต่อเนื่อง แต่ทำได้ในเกมใหญ่ เช่น เทรนต์ อเลกซานเดอร์-อาร์โนลด์กับเชลซี ฟาบินโญ่เกมชนะแมนฯ ซิตี้ โจเอล มาติปกับอาร์เซน่อล เชอร์ดาน ชาคีรี่ในดาร์บี้แม็ทช์กับเอฟเวอร์ตัน เจมส์ มิลเนอร์ ยิงได้สองประตูจากจุดโทษในเกมกับเลสเตอร์ซึ่งช่วงหนึ่งดูเหมือนว่า จะกดดันลิเวอร์พูลในการลุ้นแชมป์ ผู้เล่นทั้ง 16 คน ที่ทำประตูได้ ไม่ใช่แค่สถิติแค่หมายถึงการลุ้นแชมป์ของลิเวอร์พูล

สถิติของลิเวอร์พูลเป็นอย่างไรหากเทียบกับอดีตแชมป์พรีเมียร์ ลีกทั้งหลาย ขึ้นอยู่กับเราจะมองมุมไหน

เบื้องต้นที่สุด จำนวนผู้เล่นที่เคยยิงให้ทีมแชมป์ แมนฯ ยูฯ มี 9 คน ในฤดูกาล 2002/03 ถือว่าน้อยมากเท่ากับเวสต์ แฮม  สำหรับฤดูกาลนี้ ทุกทีมในพรีเมียร์ ลีก ในมีนักเตะอย่างน้อย 9 คน ทำประตูได้ 10 ปีต่อมา แชมป์ครั้งสุดท้ายของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แมนฯ ยูฯ มีนักเตะ 20 คน ยิงกระตูได้ นี่คือสถิติสูงสุดของพรีเมียร์ ลีก แต่พวกเขายิงประตูได้แค่ 80 ประตู มากกว่า ฤดูกาล 2002/03 แค่ 8 ประตู (72 ประตูจากนักเตะ 9 คน)

ลิเวอร์พูลอาจไม่สามารถทำสถิติได้เท่าแมนฯ ยูฯ อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงหนึ่งคือ ลิเวอร์พูลใช่ผู้เล่นน้อยกว่า(18 คนไม่นับผู้รักษาประตู) ถ้านับเป็นเปอร์เซนต์ 16 คนที่ยิงได้ของลิเวอร์พูลถือเป็น 89 % นั่นคือสถิติดีที่สุดของพรีเมียร์ ลีก ถ้าเรานับนักเตะที่ลงเล่นเป็นประจำ

ทีมแชมป์หลายทีม มีจัดผู้เล่นลงสนามแค่นัดเดียวมากกว่า 1 คน และส่วนใหญ่ทำหลังจากได้แชมป์เรียบร้อย เป้าหมายคือ ให้เด็กหาประสบการณ์

SEASON CHAMPIONS REGULAR XI SCORERS STARTERS WHO SCORED 1000+ MIN SCORERS
1992-93 Man United 10 81% 85%
1993-94 Man United 9 68% 92%
1994-95 Blackburn 8 58% 69%
1995-96 Man United 9 76% 87%
1996-97 Man United 9 70% 88%
1997-98 Arsenal 8 59% 79%
1998-99 Man United 9 79% 86%
1999-2000 Man United 7 62% 73%
2000-01 Man United 9 65% 87%
2001-02 Arsenal 8 62% 73%
2002-03 Man United 6 53% 53%
2003-04 Arsenal 8 60% 75%
2004-05 Chelsea 9 57% 79%
2005-06 Chelsea 9 62% 80%
2006-07 Man United 9 77% 79%
2007-08 Man United 9 62% 79%
2008=09 Man United 7 62% 69%
2009-10 Chelsea 7 70% 79%
2010-11 Man United 7 58% 65%
2011-12 Man City 9 80% 87%
2012-13 Man United 10 86% 81%
2013-14 Man City 10 67% 79%
2014-15 Chelsea 9 57% 91%
2015-16 Leicester 8 68% 75%
2016-17 Chelsea 10 70% 100%
2017-18 Man City 9 65% 87%
2018-19 Man City 9 75% 80%
2019-2020* Liverpool 9 89% 91%

 

ถ้านับนักเตะที่เล่นประมาณ 1,000 นาที บวกลบนิดหน่อย หรือเท่ากับอย่างน้อย 11 เกม แมนฯ ยฯ ฤดูกาล 1993/94 ถือว่าสถิติดีมาก 11/12 คน ไม่นับผู้รักษาประตู คนเดียวที่ยิงไม่ได้คือพอล พาร์คเกอร์ แบ็คขวา และเชลซีฤดูกาล 2014/15 มี 10/11 คน คนเดียวที่ยิงไม่ได้คือ เซซาร์ อัซปลิคูเอต้า

ซึ่งเป็นชุดเดียวของเชลซี จาก 4 ครั้งที่ได้แชมป์ แล้วนักเตะที่เล่นอย่างน้อย 11 เกม ยิงไม่ได้ 1 คน แมนฯ ยูฯ ปี 1992/93 ทำได้ เช่นเดียวกับปี 2012/13 และแมนฯ ซิตี้ในปี 2013/14

สถิตินี้อาจเป็นไปได้สำหรบลิเวอร์พูล นักเตะที่เล่นเป็นประจำยิงได้ทุกคน แต่คลอปป์คงไม่เครียดกับเรื่องนี้ถึงกับต้องให้ทาคูมิ มินามิโนะ เคอร์ตีส โจนส์ และฮาร์วี่ย์ เอลเลียต์ ยิงให้ได้ ซึ่งคนเดียวที่ลิเวอร์พูลต้องการเพื่อทำสถิติยิงได้ทุกคนคือ โจ โกเมซ

ถามว่า โกเมซมีโอกาสยิงได้แค่ไหน คำตอบคือน้อยมาก เขาพูดถึงเรื่องดังกล่าวว่า บอลแฉลบเขาก่อนซาดิโอ มาเน่ยิงได้ในเกมกับเวสต์ แฮม นั่นคือโอกาสเดียวที่เขาได้ยิง ฟังดูตลก แต่นั่นคือเรื่องจริง

โกเมซเล่นให้ลิเวอร์พูล 1,277 นาทีในฤดูกาลนี้ นั่นถือเป็นครั้งเดียวที่เขาได้ยิง ถ้าจะนับว่าเป็นการยิง เทียบกับกองหลังด้วยกัน ฟิกาโย่ โทโมริของเชลซี เล่นน้อยกว่าโกเมซ 30 นาที มีโอกาสยิง 7  ครั้ง แกรนต์ แฮนลี่ย์ของนอริช ยิง 8  ครั้งฟิล บาร์ดส์ลี่ย์ของเบิร์นลี่ย์ ก็ 8 รั้ง แซม ไบรัม ของนอริช ได้ยิง 15 ครั้ง แต่ทั้งนี้เพราะ โกเมซไ ม่ขึ้นไปหน้าประตูเมื่อทีมได้เตะมุม ไม่เติมเกมรุกในจังหวะโอเพ่น เพลย์ เพราะฉะนั้นโอกาสที่เขาจะได้ยิงคือ เมื่อทีมได้ฟรีคิก และบอลกระดอนมาแถวๆหน้าเขตโทษฝ่ายตรงข้าม

มีเหมือนกันที่ทีมพยายามลุ้นให้นักเตะแบบโกเมซยิงได้ แมนฯ ยูฯ ฤดูกาล 92/93 นัดสุดท้ายที่แกรี่ พัลลิสเตอร์ ได้โอกาสยิงฟรีคิกหน้าเขตโทษ ซึ่งเขายิงได้ เรื่องนี้แม้แต่เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันยังประหลาดใจเหมือนกัน

“พักครึ่ง เพื่อนๆ แซมผมว่าเป็นนักเตะคนเดียวที่ยิงไม่ได้ ผมโดนล้อมานานแล้ว คิดว่าต้องมีโอกาสแก้ตัวบ้ง ผมบอกพวกเขาว่า หากเราได้ฟรีคิกในครึ่งหลัง ผมยิงเอง” พัลลิสเตอร์เล่า “ผมวางบอลลง เล็งช่องที่มุมประตู แล้วบอกตัวเองว่า ถ้ายิงผ่านตรงนั้นไป ผมน่าจะได้ประตู เมื่อได้จังหวะยิง ผมกดเรียดเต็มแรง บอลโดนกลังหลังก่อนพุ่งผ่านผู้รักษาประตู เหมือนที่เห็น ดูแล้วตอนนั้นผมยิ้มราวกับถูกล็อตเตอรี่

ปี 2005 มิดฟิลด์ตัวรับเชลซี โคล้ค มาเกเลเล่ ได้รับการคะยั้นคะยอจากเพื่อนร่วมทีมให้ยิงจุดโทษในเกมเจอชาร์ลตันที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ นั่นคือฤดูกาลที่เชลซีความแชมป์สมัยแรกกับโจเซ่ มูรินโญ่และแชมป์แรกของสโมสรในรอบ 50 ปี ลูกยิงของเขาไม่ผ่านการป้องกันของประตู แต่มาเกเลเล่ซ้ำจังหวะต่อมาได้

“ผมเขียนแผนผังให้นักเตะในวันก่อน จุดโทษ แลมพาร์ด ยิง “มูรินโญ่อธิบายหลังเกม “ผมบอกนักเตะว่า หากเราได้จุดโทษนาที 90 แล้วเรานำ 2-0 ให้โคลด มาเกเลเล่ ยิง แต่สถานการณ์จริง สกอร์ 0-0 มาเกเลเล่ยิงจุดโทษ วันซ้อมก่อนแข่ง มาเกเลเล่ซ้อมจุดโทษ 2 ลูก ไม่เข้าทั้งสองลูก”

แต่ไม่ได้หมายความว่า เชลซีชุดนั้นยิงได้ทุกคน เปาโล แฟร์เรร่า ยิงไม่ได้ตลอดฤดูกาล เช่นเดียวกับอีก 11 ฤดูกาลที่เขาเล่นในลีกสูงสุดของอังกฤษและโปรตุเกส

เดอะ ค็อปคงหวังว่า โกเมซ คงไม่ประสบโชคชะตาเหมือนแฟร์เรร่า เพื่อนร่วมทีมจะเปิดโอกาสให้เขายิงจุดโทษหรือไม่ เพราะปกติ เป็นเจมส์ มิลเนอร์และโม ซาลาห์ รับหน้าที่สังหาร ถ้าเป็นเกมท้ายๆของฤดูกาล ซึ่งไม่มีผลอะไรแล้ว อันนี้น่าสนใจมา

.

.

บทความโดย กิตติกร อุดมผล

Facebook fanpage: Captain No.12

อ่านข่าวฟุตบอลต่างประเทศ :: ข่าวฟุตบอลวันนี้

บทความก่อนหน้า :: บทความแมนยู