ไม่เสียไม่ต้องซ่อม ธิอาโก้-เฮนโด้

หากธิอาโก้ อัลคันท่าร่าคือความหวังของลิเวอร์พูล ในการสร้างสรรค์เกมรุก
ลักษณะการเล่น ตำแหน่ง

องค์ประกอบของทีมในเกมกับเซาแธมป์ตันคงไม่ช่วยให้ธิอาโก้และลิเวอร์พูลประส
บความสำเร็จตามที่ต้องการ

เปรียบเทียบเกมที่ธิอาโก้สร้างความฮือฮาในพรีเมียร์ ลีก เยือนเชลซีเมื่อ 20 กย ปีที่แล้ว
ลงแทนจอร์แดน เฮนเดอร์สัน นาที 46 กลางประกอบด้วย เคต้า และ ไวนัลดุม
ซึ่งมิดฟิลด์ดัตช์รับหน้าที่นัมเบอร์ 6 แทนเฮนโด้ บวกเชลซีเหลือ 10 คน
และกองหลังคือ ฟาน ไดค์กับฟาบินโญ่

สถิติของเขาคือ ผ่านบอลสำเร็จ 74 ครั้งจาก 82 ครั้ง
เป็นการผ่านบอลในแดนเชลซี 63 ครั้ง อันนี้สูงสุดในทีม
มากกว่าผู้เล่นทุกคนซึ่งเล่น 90 นาที

เกมเอฟเวอร์ตัน ธิอาโก้ เป็นตัวจริงให้ลิเวอร์พูลนัดแรก กลางคือ ธิอาโก้
เฮนโด้และฟาบินโญ่ ต่อฟาน
ไดค์เจ็บซึ่งโกเมซเปลี่ยนลงมาเล่นเซนเตอร์คู่กับมาติป

สถิติของธิอาโก้ในเกมเอฟเวอร์ตันคือ ผ่านบอลสำเร็จ 73 ครั้งจากทั้งหมด 79 ครั้ง
และผ่านบอลในแดนคู่ต่อสู้ 49 ครั้งมากกว่าทุกคนในทีม จากนั้นเขาบาดเจ็บ

จนคืนสนามได้ 30 ธค 2020 ตามเวลาอังกฤษ เยือนนิวคาสเซิ่ล เป็นตัวสำรอง
นาที 73 ลงแทนเจมส์ มิลเนอร์ และกลางคือ เฮนโด้เป็นตัวจริง
และไวนัลดุมลงแทนเคอร์ตีส โจนส์ ในนาที 68 เขาจ่ายบอลสำเร็จ 21
ครั้งจากทั้งหมด 23 ครั้ง และเป็นการจ่ายบอลในแดนของนิวคาสเซิ่ล 20 ครั้ง เป็น
17 นาที ที่ทำให้เดอะ ค็อปและลิเวอร์พูลมีความหวัง

เนื่องจากเกมรุกของลิเวอร์พูลสำหรับการเป็นทีมเยือนฤดูกาลนี้ย่ำแย่

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน เราควรตัดเกมแพ้แอสตัน วิลล่าและคริสตัล
พาเลซไปเพราะนี่คือสองเกมที่ผิดปกติ

ที่วิลล่า พาร์ค โดนยิงเมื่อไรก็เข้า และที่พาเลซยิงเมื่อไรก็เข้าเหมือนกัน
เมื่อลิเวอร์พูลยิงเข้ากรอบ 8 ครั้งได้ 7 ประตู

สิ่งสำคัญคือการสร้างโอกาส เกมนอกบ้านของลิเวอร์พูล
พวกเขาสร้างโอกาสจากโอเพ่น เพลย์ ได้ตามนี้ เชลซี 10 ครั้ง วิลล่า 11 ครั้ง
เอฟเวอร์ตัน 12 ครั้ง แมนฯ ซิตี้ 6 ครั้ง ไบรท์ตัน 3 ครั้ง ฟูแล่ม 6 ครั้ง พาเลซ 9
ครั้งและ นิวคาสเซิ่ล 4 ครั้ง ค่าเฉลี่ยจากฤดูกาลที่แล้วสำหรับเรื่องนี้คือ 10
ครั้งต่อเกม

ลิเวอร์พูลอาจยิงได้เยอะสุดในฤดูกาลนี้ก็จริง แต่เรื่องการสร้างโอกาส
นี่ไม่ใช่ฤดูกาลที่ดีของพวกเขา ลีดส์สร้างโอกาสได้มากสุด 11.1 ครั้ง แมนฯ ซิตี้
10.8 ครั้ง แมนฯ ยูฯ 10.1 ครั้ง แอสตัน วิลล่า 9.9 ครั้ง คริสตัล พาเลซ 9.1 ครั้ง
เชลซี 8.8 ครั้ง และลิเวอร์พูล 7.6 ครั้ง นี่คือค่าเฉลี่ยต่อเกมสำหรับการเป็นทีมเยือน

เอาตัวเลขสองย่อหน้ามาวิเคราะห์ หมายความว่า ตั้งแต่เกมกับแมนฯ ซิตี้เป็นต้นมา
ที่เกมรุกของลิเวอร์พูลมีปัญหา ในการหาบอลถูกจังหวะเวลาให้กองหน้ายิง

นั่นคือหน้าที่ของธิอาโก้

เขาเป็นตัวจริงในเกมเซาแธมป์ตัน มิดฟิลด์ 3 คนคือ ไวนัลดุมเล่นด้านซ้าย
ธิอาโก้เป็นนัมเบอร์ 6 และอ๊อกซ์เลดเชมเบอร์เลน เล่นด้านขวา

แต่กระนั้น สถิติของธิอาโก้ยังดีอยู่ ผ่านบอลสำเร็จ 79 จาก 89 ครั้ง
ผ่านบอลในแดนคู่ต่อสู้ 53 ครั้ง แต่ไม่ใช่บอลที่สร้างโอกาสทำประตู

ด้วยตำแหน่งนัมเบอร์ 6
หากคลอปป์ถอยเฮนโด้เล่นเซนเตอร์ควรเป็นไวนัลดุมเหมือนทุกที
เพราะธิอาโก้เพิ่งเล่นนัดที่ 2 หลังหายเจ็บ
และเพื่อให้ใช้การจ่ายบอลแบบครีเอทีฟของเขามากกว่า
เป็นตัวพักบอลให้ไวนัลดุมหรืออ๊อกซ์ ซึ่งไม่สามารถสร้างสรรค์อะไรได้เลย

ภาระไปอยู่ที่โรเบิร์ตสันและเทรนต์ ซี่งฟอร์มหลุดมาก

โดยตำแหน่งส่วนใหญ่ของธิอาโก้ หากเทียบเกมอื่นที่เขาเล่น
เขาพยายามรับบทของเฮนโด้อย่างเต็มที่
ผิดกับเกมอื่นซึ่งเขาอยู่ในแดนฝ่ายตรงข้ามเป็นส่วนใหญ่

การเสียใบเหลืองตั้งแต่นาทีที่ 3 ทำให้เขาเล่นยากขึ้น
หากลิเวอร์พูลมีทางเลือกดีกว่านี้
คลอปป์อาจเปลี่ยนเขาออกเพื่อป้องกันการโดนใบแดง
แต่เผอิญว่าลิเวอร์พูลไม่มีทางเลือกที่ดีกว่า ชาคีรี่ลงมาก็ไม่อาจเปลี่ยนอะไรได้
เพราะส่วนหนึ่งในการเล่นของธิอาโก้ต้องพะวงเกมรับ

ธิอาโก้ อัลคันทาร่า ถ้าพูดถึงความสามารถ
หากไม่ดีจริงคลอปป์และลิเวอร์พูลคงไม่ฉีกกฏการซื้อนักเตะของสโมสรเรื่องอายุ
แต่ลิเวอร์พูลต้องสร้างสภาพแวดล้อมให้เหมาะกับอัลคันทาร่าในการเล่น

ถ้าไม่ซื้อเซนเตอร์ในเดือนมกราคม คลอปป์จะแสดงอาการหวาดกลัว
ไม่ให้โอกาสเนท ฟิลลิปส์ หรือรีหส์ วิลเลี่ยมส์ไม่ได้ จะให้เล่นคู่กันหรือสบับกับ
ฟาบินโญ่และมาติป ก็ต้องเล่น

เพราะการทำเช่นนี้ ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อเกมรับ แต่ยังส่งผลต่อเกมรุกด้วย

ผมเขื่อว่าเกมต่อไป จะเอฟเอ คัพหรือพรีเมียร์ ลีกกับแมนฯ ยูฯ
หากการแข่งขันดำเนินต่อไปได้ คลอปป์คงไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว เพราะอันดับแรก
คือต้องจัดคนให้ถูกกับงาน สร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานให้เหมาะสม

แต่ถ้าให้เล่นแบบเกมเซาแธมป์ตัน เราคงไม่ได้เห็นธิอาโก้
อัลคันทาร่าแบบที่เราคาดหวัง และคนอื่นที่เล่นกลางรุก
ไม่มีอะไรดีกว่าธิอาโก้ในแง่การเปิดบอลให้ถึงแดนหน้า

ถ้าจะต้องทิ้งเกมรับ แล้วให้เกมรุกทำหน้าที่ บางทีคลอปป์ต้องยอม
ให้ไวนัดลุมและเฮนโด้ไล่บอล แล้วดันธิอาโก้ไปอยู่ในจุดเชื่อมกับฟีร์มีโน่
เพิ่มมิติและกดดันเกมรับฝ่ายตรงข้ามมากยิ่งขึ้น

เฮนโด้เล่นนัมเบอร์ 6 ก็ดีอยู่แล้ว จะไปซ่อมของที่ไม่เสียทำไม

จุดที่เสียคือเกมรุกแบบเดิม ซี่งลิเวอร์พูลต้องพัฒนาเกมของตัวเอง
ฟูลแบ็คอย่าเล่นเออร์ลี่ ครอส แต่ควรพาบอลไปอยู่ในจุดที่อันตรายมากกว่านี้
กับเซาแธมป์ตัน ลิเวอร์พูลเปิดจากริมเส้น 28 ครั้ง ไม่เกิดประโยชน์โภชน์ผลอันได
แถมยังเลือกเล่นผิดอีก ได้ลูกเตะมุมทดเจ็บ แทนที่จะโยนเลย แต่เลือกเล่นสั้น
แล้วหมดเวลา

บทความโดย  :: กิตติกร อุดมผล

อ่านข่าวฟุตบอลต่างประเทศ :: ข่าวฟุตบอลวันนี้

บทความฟุตบอล :: บทความฟุตบอลก่อนหน้านี้

เว็บดูบอลออนไลน์ :: ดูบอลออนไลน์ฟรี