ท่ามกลางสภาวะที่นักฟุตบอลต้องเก็บตัวอยู่บ้านเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด และติดเชื้อจากไวรัสโควิด-19
แต่ด้วยวิถีมืออาชีพทุกๆ คนก็ต้องดำเนินชีวิตไปตามหน้าที่ อย่างบรรดาผู้เล่นก็พยายามรักษาสภาพร่างกาย ตามโปรแกรมฝึกซ้อมที่สโมสรต้นสังกัดจัดมาให้ หรือพูดง่ายๆ ก็คือรับผิดชอบตัวเอง
ส่วน โอเล่ กุนนาร์ โซลชา แม้ไม่ได้ควบคุมดูแลลูกทีมแข่งขัน หรือฝึกซ้อม แต่ก็ต้องวางแผนกำหนดภาพรวมของทัพปีศาจแดง ในทุกสถานการณ์
ไม่ว่าจะเป็นตอนช่วงพักเบรก หรือช่วงเวลาที่ได้รับไฟเขียว สามารถคัมแบ็กฟาดแข้งอีกครั้ง ตลอดจนตอนปิดฤดูกาลมีอะไรต้องลงมือปฏิบัติบ้าง
ที่ผ่านมาหลายคนพูดถึงเป้าหมายเสริมแกร่ง โดยเฉพาะ เจดอน ซานโช่ ปีกทีมชาติอังกฤษวัย 20 ปี และ แมนฯ ยูไนเต็ด คือเต็งหนึ่งที่จะคว้ามาครอบครอง เนื่องพร้อมเปย์เต็มที่ทั้งค่าตัว และค่าเหนื่อย
ทว่ามันก็ขึ้นอยู่กับบทสรุปซีซั่นนี้ของ ผีแดง จะลงเอยอย่างไร หากพลาดตั๋วยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เท่ากับหายนะเลยทีเดียว เพราะนอกจากรายได้ผลประโยชน์ราคาแพงแล้ว ซานโช่ เองคงไม่แฮปปี้ที่จะมาร่วมงานด้วย
ปัจจุบัน เชลซี คือคู่แข่งที่พร้อมแย่งลายเซ็น ซานโช่ จากปีศาจแดง และคุณสมบัติเบื้องต้นที่จำเป็นต้องมีคือตั๋วยูซีแอล
หากใครวืดก็คงต้องซดแห้ว และสถานการณ์ของ สิงห์บลูส์ ดูได้เปรียบเล็กน้อยบนตารางพรีเมียร์ลีก โดยมีมากกว่า 3 แต้ม เมื่อเข้าช่วง 9 นัดสุดท้าย
นักเตะใหม่ก็ต้องเสริม แต่สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย คือการบริหารทรัพยากรในมืออย่างมีประสิทธิภาพ และขั้นตอนผ่องถ่ายส่วนเกินก็ถือว่ายากลำบากมากสุด
น่าสนใจว่า โซลชา จะหาทางออกอย่างไรให้พวกคนไม่จำเป็นอย่าง อเล็กซิส ซานเชซ, คริส สมอลลิ่ง, มาร์กอส โรโฮ ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม ยังมีจุดลงตัวที่กุนซือชาวนอร์เวย์ตัดสินใจอย่างสะเด็ดน้ำเรียบร้อยแล้วคือจะไม่คิดเรื่องหาแบ็กซ้ายคนใหม่ให้เสียเวลาอีกแล้ว
เหตุผลสำคัญเกิดจากผลงานน่าประทับใจ และจัดจ้านเกินวัย 19 ปีของ แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ ซึ่งก้าวมาเป็นนักเตะขาประจำในทีมผีแดงชุดใหญ่
ทั้งๆ ที่เมื่อย้อนกลับไป 1 ปีก่อน เขาเพิ่งได้รับโอกาสให้ร่วมทัพบินร่วมทริปโกงความตายพลิกนรกที่ปารีส โดยสเตตัส ณ วันนั้น เป็นแค่ตัวสแตนด์บาย แค่โดนหิ้วไปเผื่อเหลือเผื่อขาด
แตกต่างจากเพื่อนร่วมรุ่นอย่าง ทาฮิธ ชอง, เมสัน กรีนวู้ด, เจมส์ การ์เนอร์ และ แองเจล โกเมส ซึ่งมีชื่อสำรองในเกมเยือนเปแอสเช แถม 2 รายแรกยังได้ลงสนามช่วงท้ายเกมอีกด้วย
แต่ปัจจุบันโอกาสลงตัวจริงของ วิลเลี่ยมส์ เยอะกว่า 4 ชื่อในย่อหน้าที่แล้วเสียด้วยซ้ำ
จุดเด่นของ วิลเลี่ยมส์ อยู่ที่หัวจิตหัวใจ สู่ไม่ถอย ไม่เกรงกลัวใครๆ และกล้าตะลุยเติมเกมบุก แถมเล่นได้หมดทั้งแบ็กซ้าย และขวา
เช่นเดียวกับ ดีโอโก้ ดาโล่ต์ ทว่า วิลเลี่ยมส์ หนักแน่นครบเครื่อง และแกร่งกว่า โดยบทบาทของพวกเขาต่างเป็นสำรองของฟูลแบ็กตัวจริงอย่าง ลุค ชอว์ และ อารอน วาน-บิสซาก้า
ด้วยคุณภาพ และลูกห้าวของ วิลเลี่ยมส์ แสดงให้เห็นถึงอนาคตสดใสในวันข้างหน้า
แม้แต่แข้งกระดูกเปราะอย่าง ชอว์ ยังไม่กล้าเจ็บอีกเลย เพราะรู้ดีว่าคงเหนื่อยแน่
หากต้องเสียตำแหน่งตัวจริงให้กับรุ่นน้องที่กำลังดีวันดีคืน
* โรบิน *
อ่านข่าวฟุตบอลต่างประเทศ :: ข่าวฟุตบอลวันนี้
บทความก่อนหน้า :: บทความแมนยู
