ฟาน ไดค์มาตรฐานตกจริงหรือ

เวอร์จิล ฟาน ไดค์ โดนวิจารณ์หนักทีเดียว กับฤดูกาล 20-21

เวอร์จิล ฟาน ไดค์ โดนวิจารณ์หนักทีเดียว กับฤดูกาล 20-21

โดยเฉพาะมาตรฐานที่เขาสร้างไว้นับตั้งแต่ย้ายมาลิเวอร์พูล

เวอร์จิล ฟาน ไดค์ โดนวิจารณ์หนักทีเดียว กับฤดูกาล 20-21

ดีกรีนักเตะลุ้นรางวัลบัลลงก์ ดอร์ ซึ่งคว้าอันดับ 2 รองจากลิโอเนล เมสซี่เท่านั้น

ไม่มีใครหรอกที่จะอยู่ยงไปตลอด เวอร์จิล ฟาน ไดค์ยอดเยี่ยมแค่ไหนต้องมีวันโรยรา

ลิเวอร์พูลรคว้าแชมป์ยุโรป แชมป์ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ แชมป์ฟีฟ่า คลับ เวิร์ลด์ คัพ และแชมป์พรีเมียร์ ลีกครั้งแรกในรอบ 30 ปี โดยเวอร์จิล ฟาน ไดค์ทำสถิติเล่นทุกนัดทุกนาทีในลีกเพียงคนเดียวสำหรับเดอะ เร้ดส์ ชุดดังกล่าว

ทีมพัฒนาจากอันดับ 4 ฤดูกาลแรกของฟาน ไดค์ ซึ่งเยอร์เก้น คลอปป์พูดว่า คงมีแค่บิ๊กเวิร์จเท่านั้นที่ย้ายมาแล้วเล่นได้ดีทันที ไม่นับการทำประตูในนัดแรกที่ลงสนามกับฟุตบอลถ้วย

97 เป็น 99 นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของพรีเมียร์ ลีกและแชมป์พรีเมียร์ ลีกในอีก 12 เดือนต่อมา ไม่มีใครปฏิเสธว่า ฟาน ไดค์คือกองหลังดีที่สุดคนหนึ่งในอังกฤษ และอาจทรงอิทธิพลต่อผลงานของทีมมากที่สุดอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม เริ่มมีเสียงวิจารณ์ แกเบรียล อักบอนละฮอร์ ให้สัมกาษณ์กับทอล์คสปอร์ต วีคเอ็นด์ เบรคฟาสต์ หลังลิเวอร์พูลชนะลีดส์ 4-3 ในสัปดาห์แรกว่า

“ทุกคนรู้ว่า เวอร์จิล ฟาน ไดค์เป็นกองหลังที่เหลือเชื่อมาก เวลาได้บอล เขาทำอะไรก็ได้ เปลี่ยนทิศทาง เปิดตัดสนาม เวลาเล่นเกมรับ ไม่มีกองหน้าคนไหนอยากเผชิญหน้าเขา แต่ผลงานเมื่อวาน (เกมลีดส์) ผมรู้สึกว่า ฟาน ไดค์ยะโสโอหังมากเกินไป การแตะบอลจังหวะนั้น ทำให้ทีมเสียประตู แบบว่า แค่ลีดส์ ยูฯ เป็นเกมหมูๆ ผมเล่นอ่อยก็พอ”

อดีตกองหน้าแอสตัน วิลล่าบอกว่า อย่าเพิ่งเทียบฟาน ไดค์กับริโอ เฟอร์ดินาน แวงซองต์ คอมปานีหรือจอห์น เทอร์รี่ ที่จริงแล้วเกมกับลีดส์แนวรับลิเวอร์พูลยะโสกันทุกคน พวกเขาไม่คิดว่าลีดส์เป็นทีมดีแค่ไหน

ฤดูกาล 17-18 อันเป็นปีแรกของฟาน ไดค์กับลิเวอร์พูล (ครึ่งฤดูกาลหลัง) ไม่มีเสียงวิจารณ์ไดเมื่อลิเวอร์พูลยอมจ่ายค่าตัว 75 ล้านปอนด์ ยิ่งกลายเป็นถูกหากเทียบกับแฮร์รี่ แม็คไกวร์ของแมนฯ ยูฯ ราคา 80 ล้านปอนด์ ซึ่งทิม เชอร์วู้ด กล่าวในรายการ The Analysis Show ของพรีเมียร์ ลีกว่า เป็นแค่กองหลังธรรมดาๆ Average Player เท่านั้น

ฟาน ไดค์ โดนวิจารณ์ตั้งแต่ทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก เมื่อมิถุนายน เร็วสุดเป็นสถิติ (เหลือ 7 เกมสุดท้าย) ไล่ตั้งแต่โดนแมนฯ ซิตี้ถลุงในเกมแรกที่ลงเล่นฐานะแชมเปี้ยน พลาดโอกาสเก็บชัยชนะทุกนัดในแอนฟิลด์ตลอดฤดูกาลกับเบิร์นลี่ย์ แพ้อาร์เซน่อลเพราะพลาดกันเอง

ฟาน ไดค์ทำให้อาร์เซน่อลกลับเข้าสู่เกมที่เอมิเรตส์ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ผ่านบอลให้อเล็กซองเดร ลากาแซ็ตต์ เมื่อโดนแซะโดนรีส์ เนลสันของอาร์เซน่อล เหมือนกับบิ๊กเวิร์จต้องการให้ผู้ตัดสินเป่าฟาวล์อาร์เซน่อล แต่ไม่มีเสียงนกหวีด และลากาแซ็ตต์หลุดเดี่ยวยิงผ่านอลิซงแบบง่าย

เกมเปิดฤดูกาล ฟาน ไดค์พลาดอีกครั้ง ลีดส์โยนบอลโด่ง ฟาน ไดค์ถึงบอลก่อนแพ็ททริค แบมเฟิร์ด กองหลังที่ไว้ใจได้ที่สุดในลีกพยายามแตะบอลแบบเหนือชั้นให้แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ซึ่งมีทางเลือกที่ง่ายกว่านี้ แน่นอนกว่านี้ แต่เขากลับทำอย่างที่เห็น ผลคือ แบมเฟิร์ดยิงตีเสมอให้ลีดส์ 2-2 ก่อนลิเวอร์พูลเก็บสามแต้มแรก ด้วยจุดโทษของโม ซาลาห์ นาที 88

เจมี่ คาร์ราเกอร์เป็นอีกคนที่บอกว่า บิ๊กเวิร์จ ยะโส แกรม ซูเนสส์บอกว่า เขาห่วย และวิล คีฟต์ อดีตนักเตะดัตช์ชุดแชมป์ยูโร 88 บอกว่า ขี้เกียจ

เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก คลอปป์บอกแบบนั้น แต่ก็ 2 ใน 4 เกมล่าสุดของลิเวอร์พูลนับจากกรกฎาคม มันไม่น่าเกิดขึ้นสำหรับกองหลังที่มุ่งมั่นและเด็ดขาดแบบนี้ ฟาน ไดค์มีทักษะลูกหนังขั้นยอดเยี่ยม เล่นแบบวิเคราะห์ความเสี่ยงของแต่ละจุดของเกม ขณะเดียวกันสามารถกดดันฝ่ายตรงข้ามได้ดี

เกมกับไบรท์ตันเมื่อ 9 กรกฎาคม ที่เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม ทีมนางนวลเปิดบอลยาวใส่แดนลิเวอร์พูล ฟาน ไดค์โหม่งบอลหลอก แอรอน คอนนอลลี่ แล้วเล่นต่อเองในจังหวะสอง เรียกว่าเหนือชั้นสุดๆ แต่ถ้าพลาดขึ้นมา คงโดนวิจารณ์เละเหมือนเกมอาร์เซน่อลและลีดส์

สถิติเกมกับไบรท์ตันของฟาน ไดค์ คือ ผ่านบอล 93 % 41/44 ครั้ง สร้างโอกาส 1 ครั้ง แย่งโหม่งสำเร็จ 7/10 ครั้ง ตัดบอล 2 ครั้ง เคลียร์บอล 8 ครั้ง เลี้ยง 1 ครั้ง เสียบสกัด 1 ครั้ง

ฟาน ไดค์ผิดพลาดขนาดแฟนบอลฝ่ายตรงข้ามขุดข้อมูล มาโจมตีเขากระนั้นหรือ “นี่คือนักเตะที่ผิดพลาดและทำให้ทีมเสียประตูมากที่สุดนับจากปี 18-19” ข้อเท็จจริงคือ 3 ใน 77 เกม โดย 2 ครั้งเกิดขึ้นติดๆ กันมีนักเตะ 7 คนที่พลาดเท่ากับฟาน ไดค์ในช่วงเวลาดังกล่าว แต่มี 2 คนอยู่ในสนามน้อยกว่าฟาน ไดค์ 40 นาที นั่นคือแดนนี่ โรสและดาวิด รุยซ์

3 ครั้งที่ฟาน ไดค์พลาด ลิเวอร์พูลเสียประตูทั้งหมด ขณะที่วิลลี่ โบลี่ กองหลังวูล์ฟส์พลาดแบบนั้น 9 ครั้งแต่ไม่เสียประตู

การเล่น 3,600 นาที นับจากเกมแรกของฤดูกาลที่ผ่านมา ฟาน ไดค์พลาด 3 ครั้ง ที่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามได้โอกาสยิง เฉลี่ยแล้ว 1 ครั้งต่ 1,200 นาที หรือ 1 ใน 13.33 เกมเท่านั้น ผลงานของเขาสม่ำเสมอตลอดฤดูกาลที่แล้ว ทั้งช่วงปกติและหลังล็อค ดาวน์

มีบางอย่างที่ตัวเลขแย่ลง แต่ไม่มากนัก เช่น เปอร์เซนต์การผ่านบอลสำเร็จ การแย่งโหม่ง เทียบการเล่น ในเกมไบรท์ตันกับลีดส์ ดูเหมือนว่า บางที ความพยายามเก็บบอลไว้เล่นต่อ หรือเล่นแบบเสี่ยงเป็นส่วนหนึ่งในเกมของฟาน ไดค์ นั่นคือความแตกต่างของกองหลังที่มีคลาส หากเทียบกับกองหลังดาดๆแบบอังกฤษที่เตะทิ้งอย่างเดียว

ตัวเลขหนึ่งที่ลดลงคือ การเสียบสกัด ก่อนล็อคดาวน์ ตัวเลขอยู่ที่ 0.76 22 ครั้งจาก 29 เกม แต่หลังล็อคดาวน์ 1 ครั้งใน 11 เกม หรือ 0.09นั่นหมายความว่า ฟาน ไดค์เปลี่ยนวิธีการเล่นที่เน้น การยืนตำแหน่ง การตัดบอล มากกว่าการสกัดเมื่อมองถึงฝ่ายตรงช้าม

ใครจะว่าอย่างไรก็ตาม สถิติต่างๆ บอกว่า เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ยังเป็นบิ๊กเวิร์จคนเดิม เขาอาจโอหัง ห่วย ขี้เกียจ แต่ดูเหมือนว่า ไม่ส่งผลกระทบต่อเกมของเขาสักเท่าไร

ในเกมกับลีดส์ เขาผิดพลาดทำให้ทีมเสียประตู แต่ภาพรวมอื่นๆ ไม่มีอะไรเสียหาย เช่นเดียวกับเกมเชลซี ซึ่งฟาบินโญ่โชว์เป็นส่วนใหญ่ อาจเพราะเชลซีคิดว่า โจมตีตรงนั้นดีกว่าเจาะตรงฟาน ไดค์

 

 

บทความโดย  :: กิตติกร อุดมผล

อ่านข่าวฟุตบอลต่างประเทศ :: ข่าวฟุตบอลวันนี้

บทความฟุตบอล :: บทความฟุตบอลก่อนหน้านี้

เว็บดูบอลออนไลน์ :: ดูบอลออนไลน์ฟรี