เวสต์ แฮมด่านหินสำหรับลิเวอร์พูล

เวสต์ แฮม อยู่ที่ 12 ในตารางจาก 6 นัดมี 8 คะแนน ไม่ใช่เรื่องแปลก

เวสต์ แฮม อยู่ที่ 12 ในตารางจาก 6 นัดมี 8 คะแนน ไม่ใช่เรื่องแปลก

แต่สิ่งที่พวกเขาทำได้ถือว่าไม่ธรรมดาเมื่อพิจารณาจากเกมที่ลงเล่นและวิธีการได้แต้ม

เวสต์ แฮม อยู่ที่ 12 ในตารางจาก 6 นัดมี 8 คะแนน ไม่ใช่เรื่องแปลก

คู่ต่อสู้ถือว่าเดวิด มอยส์พลิกสถานการณ์ของทีมได้อย่างยอดเยี่ยม

สองสัปดาห์ที่มอยส์ต้องโค้ชทีมผ่านจอโทรทัศน์เพราะผลการตรวจเชื้อโควิดเป็นโพซิทีฟเมื่อ 22 กันยายนหลังพ่ายแพ้อาร์เซน่อลยิ่งทำให้สถานการณ์ของทีมย่ำแย่กว่าเดิม

บางทีแฟนบอลเวสต์ แฮมอยากให้ปิดฤดูกาลเพราะโควิดอีกครั้ง เนื่องจากตลอดหน้าร้อนที่ผ่านมา ทีมไม่มีการปรับปรุงอะไร แถมยังเสียนักเตะดาวรุ่งเกรดี้ เดียงกาน่าให้เวสต์ บรอม จนมาร์ค โนเบิ้ลทวิตแสดงความไม่พอใจสโมสร

ทีมของเดวิด มอยส์เริ่มต้นฤดูกาลไม่ดีเลยแพ้นิวคาสเซิ่ลที่ลอนดอน สเตเดี้ยม 2-0 นั่นคือเกมเดียวในฤดูกาลที่เวสต์ แฮมมีเปอร์เซนต์ครองบอลเหนือคู่แข่ง 58.3 – 41.7

เกมพ่ายแพ้นิวคาสเซิ่ลยังเป็นเกมเดียวในฤดูกาลนี้ที่เวสต์ แฮมเล่นแบบ 4-2-3-1 ใช้โธมัส ซูเช็คกับดีแคลน ไรซ์เป็นมิดฟิลด์รับ สามารถสู้กับนิวคาสเซิ่ลได้เป็นอย่างดี ยกเว้นจำนวนประตู

เดวิด มอยส์ บอกว่า เขาพยายามเสริมทีม แต่นั่นไม่ใช่ข้อแก้ตัวเมื่อทีมแพ้ ทางเดียวที่เวสต์ แฮมจะกู้สถานการณ์ให้ได้คือเล่นให้ดีกว่าเดิม

เกมต่อมา เจออาร์เซน่อลซึ่งเครื่องร้อนเร็ว ชนะฟูแล่มและลิเวอร์พูลในคอมมิวนิตี้ ชิลด์ มอยส์ปรับให้ทีมเล่น 5-3-2 ให้เครสเวลล์ อ๊อกบอนน่าและดิอ๊อปเล่นเซนเตอร์ ไรอัน เฟรเดอริคและอาร์เธอร์ มาซูอากูเล่นแบ๊ค นั่นหมายถึงการดร็อปมาร์ค โนเบิ้ล กัปตันทีมเพื่อเปิดพื้นที่ให้กองหลัง

อาร์เซน่อลชนะเวสต์ แฮม 2-1 ด้วยประตูท้ายเกมของเอ๊ดดี้ เอ็นเคเทีย แต่นี่คือเกมที่อาร์เซน่อลต้องบอกว่าพวกเขาโชคดีที่ชนะ เพราะเวสต์ แฮมแม้จะครองบอลแค่ 37.4 % แต่สร้างโอกาสยิงมากกว่าอาร์เซน่อลที่ 14-7 ครั้ง

จบเกม มิเคล อาร์เตต้าบอกว่า เราโชคดีที่ชนะ ขณะที่มอยส์ต้องกล้ำกลืนความผิดหวังแพ้ 2  นัดรวด และบอกว่า เกมนี้อย่างเลวที่สุดเราควรได้ 1 คะแนน

 

สิ่งสำคัญคือเกมของมอยส์เริ่มผลิดอกออกผล หลายทีมเล่นกองหลัง 3 คน เนื่องจากไม่อยากเสียพลังในเกมรุก และต้องการคุมพื้นที่ตรงกลางด้วย เวสต์ แฮมเลือกที่จะรับให้แน่น แล้วรอจังหวะโต้กลับด้วยความเร็วของมิเคล อันโตนิโอ

เวสต์ แฮมมีโปรแกรมชุกต้นฤดูกาลเหมือนกันกับคาราบาว คัพ พวกเขาชนะชาร์ลตันก่อนเกมอาร์เซน่อล และชนะฮัลล์ ซิตี้ก่อนรับการมาเยือนของวูล์ฟส์ ซึ่งเดวิด มอยส์ ไม่สามารถจัดผู้เล่นแบบทีมใหญ่ นั่นคือสลับเอาเด็กลง แต่ชุดผู้เล่นชุดดีที่สุด เพราะนี่คือโอกาสที่เวสต์ แฮมพอจะประสบความสำเร็จบ้าง

22  กันยายน เดวิด มอยส์ต้องกักตัวเพราะพบเชื้อโควิด อลัน เออร์วีน ผู้ช่วยและสจ๊วร์ต เพียร์ซ โค้ชของทีมรับหน้าที่ข้างสนาม มีคนแซวบอกว่า ต่อไปนี้เวสต์ แฮมไม่ต้องมีมอยส์ดีกว่าเพราะทีมชนะ แต่ด้วยการถ่ายทอดสด ทำให้มอยส์คุมทีมบนโซฟาและหน้าจอทีวีได้

อลัน เออร์วีน ให้สัมภาษณ์หลังทีมชนะวูล์ฟส์ 4-0 ว่า “เราโทรศัพย์คุยกัน ส่งข้อความ สื่อสารกันตลอดทั้งเกม แม้แต่การเปลี่ยนตัวท้ายเกมก็ตามคำแนะนำของเดวิด”

นี่เป็นอีกเกมที่มาร์ค โนเบิ้ล กัปตันทีม โดนดร็อป และลงสนามในนาที 88 เพราะมอยส์เชื่อว่า โบเว่น ไรซ์ ซูเช็คและโฟร์นาล คือกลางที่ดีที่สุดของทีม ณ เวลานี้ เวสต์ แฮมครองบอล 36.9 % มีโอกาสยิง 15 เข้ากรอบ 7 ครั้งได้ 4 ประตู เป็น 3 แต้มแรกของฤดูกาลที่น่าภูมิใจยิ่ง

การชนะวูล์ฟส์ว่ายอดเยี่ยม เกมต่อมากับเลสเตอร์ที่ผลงานดีชนะรวดมาเหมือนกัน ไม่ทำให้งานของมอยส์ง่ายกว่าเดิม ที่สำคัญ เขายังต้องคุมทีมหน้าจอโทรทัศน์เหมือนเดิม

แบรนดัน ร็อดเจอร์สพยายามแสดงความเหนือชั้นทางแท็คติก ปรับเกมของเลสเตอร์มาเล่นกองหลัง 3 คนบ้าง (3-4-3) และอย่าลืมว่า นี่คือเลสเตอร์ที่ชนะแมนฯ ซิตี้ ถึงถิ่น 5-2 เพียงแต่วันนั้น ร็อดเจอร์สมองว่า ทีมของเขาเป็นรอง และเล่น 5-4-1 ซึ่งเขาคงไม่คิดว่า กำลังจะโดนแบบเดียวกันเพราะเวสต์ แฮม

เวสต์ แฮมครองบอล 30.5 % แต่ที่สำคัญคือเลสเตอร์ ไม่มีโอกาสยิงเข้ากรอบเวสต์ แฮมแม้แต่ครั้งเดียวตลอด 90 นาที ผิดกับเกมแมนฯ ซิตี้ เลสเตอร์ได้ยิง 7 ครั้ง เข้ากรอบ 7 ครั้งได้ 5 ประตู

เวสต์ แฮม ได้ยิง 14 ครั้ง เข้ากรอบ 6 ครั้ง ได้ 3 ประตู เกมนี้ เวสต์ แฮมต้องใช้วลาดิเมียร์ คูฟาลแทนที่ไรอัน เฟรเดอริคส์

สัปดาห์ต่อมาเดวิด มอยส์กลับมาทำงานได้ตามปกติ และเวสต์ แฮมนับเป็นหนึ่งทีมที่เจอโปรแกรมโหดต่อเนื่อง เพราะคู่ต่อสู้คือท็อตแน่ม ดาร์บี้แม็ทช์ลอนดอนอีก 1 นัดที่สำคัญ ท็อตแน่มนำเร็ว ตั้งแต่นาทีแรก และนำ 3-0 อยู่กระทั่งนาที 82

บางทีเดวิด มอยส์ อาจยืมคำพูดของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันที่เคยปราบท็อตแน่มมาหลังโดนทีมตราไก่นำห่าง “สู้หน่อย นี่แค่ท็อตแน่มเอง” เวสต์ แฮมได้ 3 ประตูรวด จากฟาเบียน บัลบูเอน่า ดาวินซอน ซานเชสยิงเข้าประตูตัวเอง และมานูเอล ลันซินี่ยิงทดเจ็บนาทีที่ 4

เวสต์ แฮมครองบอลใกล้เคียงกับท็อตแน่ม 48.8 % เกมเล่นแดนกลางและหน้าประตูท็อตแน่มมากกว่า ทีมเยือนสร้างโอกาสยิงประตูมากกว่าท็อตแน่มที่มีทั้งซน เฮืองมิน แฮร์รี่ เคนและเกเร็ธ เบลในนาที 71

เกมต่อมา อาจไม่มีอะไรยากกว่านี้แล้วสำหรับเวสต์ แฮม คู่ต่อสู้ที่มาเยือนคือแมนฯ ซิตี้ ซึ่งยิง 22 ประตูใน 5 เกมล่าสุดที่ลอนดอน สเตเดี้ยม ยกเว้นปัญหาคือ ทีมของเป๊ปไม่ฮ็อตเหมือนฤดูกาลที่ผ่านมา

เวสต์ แฮมใช้ผู้เล่นชุดเดิม แผนเดิม ครองบอลแค่ 30.5 % แต่เกมครึ่งแรกสูสี มีโอกาสยิงพอๆกับทีมเยือน แต่พวกเขานำด้วยผลงานของมิเคล อันโตนิโอ ทำให้ครึ่งหลังแมนฯ ซิตี้พยายามบุกเพื่อเอาคืนให้ได้ ฟิล โฟเดนลงแทนเซร์จิโอ อาเกวโร่นาที 46 คาดกันว่า กองหน้าอาร์เจนไตน์เจ็บเอ็นหลังหัวเข่า

 

แมนฯ ซิตี้ อีก 9 ครั้งในครึ่งหลัง เข้ากรอบ 6 ครั้ง แต่ได้แค่ 1 ประตู และเวสต์ แฮมได้แต้มแรกจากแมนฯ ซิตี้นับตั้งแต่ 2016 เดวิด มอยส์บอกว่า “ดูโปรแกรมต้นฤดูกาล ผมคิดเหมือนทุกคนนั่นแหละ งานหนัก แต่เราชนะ 2 เสมอ 2 จากทีมที่แข็งแกร่ง เพราะฉะนั้นนี่คือผลงานที่ยอดเยี่ยม”

เสาร์นี้ เวสต์ แฮมเจอลิเวอร์พูล โดยปกติน่าจะเป็นงานหนัก เพราะเล่นที่แอนฟิลด์ หลังจากเสมอ 2-2 ที่แอนฟิลด์เมื่อธันวาคม 2016 เวสต์ แฮมไม่เคยได้แต้มออกจากแอนฟิลด์เลย

แต่นี่คือช่วงเวลาเปราะบางสำหรับลิเวอร์พูล โดยเฉพาะตำแหน่งเซนเตอร์เหลือแค่โจ โกเมซเท่านั้น สำหรับเซนเตอร์ที่มีประสบการณ์ โจเอล มาติปยังไม่รู้ว่าจะพร้อมหรือไม่ ฟาบินโญ่ไม่น่าจะเล่นได้ เมื่อพิจารณาจากการบาดเจ็บเมื่อกลางสัปดาห์ และ VVD ที่ต้องขาดหายอาจจะตลอดฤดูกาล

เวสต์ แฮมแสดงให้เห็นความเหนียวแน่น และรอจังหวะในการโต้กลับ ซึงเป็นจุดอ่อนของลิเวอร์พูล จากเกมที่มองถึง 3 คะแนนแบบไม่ยากเย็น บางทีกลับเป็นการพิสูจน์คาแรคเตอร์ของลิเวอร์พูลที่สำคัญไม่น้อยกว่าการเจอทีมกลุ่มลุ้นแชมป์ด้วยกัน

 

บทความโดย  :: กิตติกร อุดมผล

อ่านข่าวฟุตบอลต่างประเทศ :: ข่าวฟุตบอลวันนี้

บทความฟุตบอล :: บทความฟุตบอลก่อนหน้านี้

เว็บดูบอลออนไลน์ :: ดูบอลออนไลน์ฟรี