เราอาจได้ยินชื่อลินคอล์น ซิตี้ ทีมในลินคอล์นเชียร์มาบ้าง
แต่ลิเวอร์พูลกับลินคอล์น ซิตี้ หรือ ดิ อิมพ์ไม่เจอกันมาตั้งแต่ปี 1961 หรือ 59 ปีมาแล้ว
และนั่นคือฤดูกาลสำคัญของลิเวอร์พูล ทีมของบิลล์ แชงค์ลี่ย์ได้แชมป์ดิวิชั่น 2 (เดิมเท่ากับเดอะ แชมเปี้ยนชิพในปัจจุบัน) นำทีมเลื่อนสู่ลีกสูงสุด
จากลิเวอร์พูลมุ่งหน้าตะวันออก ผ่านแมนเชสเตอร์ เชฟฟิลด์ ผ่านด้านเหนือของน็อตติงแฮมก็ถึงลินคอล์น ด้วยระยะทาง 163 กิโลเมตร ก็ถึงแอลเนอร์ สเตเดี้ยม (LNER ชื่อย่อของบริษัท London North Eastern RailWay สปอนเซอร์ของลินคอล์น ซิคี้) สังเวียนรอบ 3 คาราบาว คัพ ระหว่างสองทีม
EFL Cup กับลิเวอร์พูล คือทีมทึ่คว้าแชมป์ถ้วยอันดับ 3 ของอังกฤษมากสุด 8 ครั้ง แต่ตอนนี้ หลังจากไม่ได้แชมป์เลยนับจากปี 2012 แมนฯ ซิตี้กวาดถ้วยนี้ ห้าสมัยนับจากนั้นและ 3 ฤดูกาลติดก็ขยับเข้าใกล้บัลลังก์ลีก ลีพคัพของลิเวอร์พูลห่างกันแค่สมัยเดียว
สำหรับเยอร์เก้น คลอปป์จะบอกว่า ผลงานในลีก คัพไม่ดีก็ไม่เชิง เข้าชิงปี 15-16 แพ้แมนฯ ซิตี้ ฤดูกาลต่อมาเข้ารอบรองแพ้เซาธ์แฮมป์ตัน ปี 17-18และ 18-19 ตกรอบ 3 สองฤดูกาลติดด้วยการแพ้เลสเตอร์และเชลซีโดยลำดับ ฤดูกาลที่แล้ว อย่างที่ทราบกัน โปรแกรมทับซ้อนกับฟีฟ่า คลับ เวิร์ลด์ คัพ ต้องให้นีล คริทช์ลี่ย์คุมทีมเด็กเล่นกับแอสตัน วิลล่าในรอบควอเตอร์ไฟนั่ล
1 ใน 11 ตัวจริงวันนั้นคือฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ขณะที่คลอปป์เปลี่ยนผู้เล่น 10 คนจากทีมชนะเชลซีเมื่อวันอาทิตย์ เหลือเวอร์จิล ฟาน ไดค์เพียงคนเดียว เทียบกับทีมรอบ 3 ที่แพ้เชลซี 1-2 คาแอนฟิลด์เมื่อปี 18-19 ชุดปัจจุบันกับลินคอล์น ก็ต้องบอกว่า คราวนั้นทีมดูแข็งแกร่งกว่านี้ คาริอุส โมเรโน ลอฟเร็น มาติป ไคล์น มิลเนอร์ ฟาบินโญ่ เคต้า มาเน่ สเตอร์ริดจ์และชาคีรี่
ขณะที่ 11 ตัวจริงกับลินคอล์นคือ อาเดรียน ซิมิกาส ฟาน ไดค์ รีห์ส วิลเลี่ยมส์ นีโก้ วิลเลี่ยมส์ โจนส์ กรูยิช ชาคีรี่ โอริกี้ มินามิโนะและเอลเลียตต์ สำรองมี เคลเลเฮอร์ ฟาบินโญ่ เคต้า โชต้า วิลสัน อาร์โนลด์ และฟาน เดน เบิร์ก ระดับผู้เล่นสูงกว่าลินคอล์น จากลีก วันอยู่แล้ว แต่มันไม่ง่ายหรอกที่จะชนะทีมจากลีกต่ำกว่าในฟุตบอลถ้วย
ฝันของคลอปป์กับ 11 ตัวจริงที่เป็นสเกาเซอร์อยู่ไม่ไกล เมื่อรีห์ส วิลเลี่ยมส์ เด็กเดียวกับร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ท็อกซ์เท็กซ์ ได้เป็นตัวจริงทีมชุดใหญ่นัดแรก ยืนเคียงข้างกับเวอร์จิล ฟาน ไดค์ เขาอาจไม่ฉายแววนักเตะระดับโลก แต่ก็เอาตัวรอดได้ โดยครึ่งแรกไม่เสียประตู
สกอร์ไลน์ 7-2 วิธีการเล่นที่กดดันใส่ลินคอล์น ยืนยันว่าลิเวอร์พูลจัดการเชือดทีมจากลีก วัน แบบที่ควรจะเป็นไม่ใช่ลุ้นกันฉี่แทบราดกว่าจะเอาชนะได้
“ควรเป็นแบบนี้แหละ สำหรับทีมชุด 2 เล่นได้เหมือนทีมชุดหลัก” คลอปป์กล่าวหลังเกม “สวมเสื้อลิเวอร์พูล แสดงให้เห็นว่า คุณคือใคร ผมมีความสุขกับทุกอย่าง” ใช่ซิ ตลอดเกมคลอปป์นั่งยิ้มอย่างมีความสุข แม้จะเสียไปสองประตู ซึ่งเขาบอกว่า ไม่ควรเสีย
สำหรับเคอร์ตีส โจนส์ คลอปป์บอกว่า ยังสามารถพัฒนาได้อีก “เขามีพรสวรรค์จริงๆ รับรองว่าอนาคตสนุกแน่เมื่อเขาได้เล่นอีกในเกมต่อไป” การเบียดแย่งตัวจริงในพรีเมียร์ ลีก หรือแชมเปี้ยนส์ ลีก ยิ่งดุเดือด เมื่อธิอาโก้ อัลคันทาร่าย้ายเข้ามา
การเล่นของทาคูมิ มินามิโนะ ไม่เพียงแต่คลอปป์ชื่นชม บวกสองประตู ไมเคิ่ล แอปเปิ้ลตัน ผจก.ลินคอล์นก็บอกส่า “ระดับมาสเตอร์ คลาส” สำหรับประตูที่ทาคิยิงได้
ฟรีคิกจากชาคีรี่ (23 ประตูของแชคในอังกฤษนับจากย้ายมาลิเวอร์พูล ยิงจากนอกกรอบทั้งหมด เป็นฟรีคิก 12 ประตู) ต่อด้วยการกดดันของทาคิ ทีมได้ประตูที่สอง มินามิโนะเป็นนักเตะญี่ปุ่นคนแรกหลังจากชินจิ โอกาซากิ ยิงให้เลสเตอร์ในลีก คัพ เมื่อกันยายน 2016
เคอร์ติส โจนส์ 2 ประตู ติดซึ่งคลอปป์บอกว่า แสดงการคอนโทรลและยิงบอลที่ยอดเยี่ยมของโจนส์ ซึ่งอยู่ระหว่างผู้เล่นลินคอล์น 2 คน ลูกแรก รีห์ส วิลเลี่ยมส์เปิดให้โอริกี้โหม่งตั้งกลับมา และโจนส์ดึงบอลหนีผู้เล่นลินคอล์นก่อนยิง ลูกสองอาจแฉลบแทนการครองบอล การกลับตัวแล้วยิง นี่ต้องบอกเด็ดขาดมาก
โจนส์เป็นผู้เล่นลิเวอร์พูลอายุน้อยที่สุด (19 ปี 238 วัน) ต่อจากราฮีม สเตอร์ลิง (19 ปี 133 วัน) เมื่อปี 2014 ยิงได้ 2 ประตูใน 1 เกม
ต้นครึ่งหลัง ทาคิยิงอีกประตู ต่อด้วยมาร์โก้ กรูยิชและปิดท้ายด้วยดิว็อค โอริกี้ เกมที่ยิงกันถล่มแบบนี้ หากโอริกี้ไม่ยิงก็กระไรอยู่ แถมลีก คัพนี่ของโปรด นับตั้งแต่เล่นเกมแรกให้ลิเวอร์พูล เมื่อฤดูกาล 15-16 ไม่มีนักเตะคนไหนยิงใน ลีก คัพมากกว่าโอริกี้ 9 ประตูใน 12 นัด
ใช่ว่าลิเวอร์พูลไม่มีปัญหาในเกมรับ แต่เป็นบททดสอบความพร้อม ของผู้เล่นอย่าง ซิมิกาส รีห์สและนีโก้ วิลเลี่ยมส์ มาร์โก้ กรูยิชกับบทบาทมิดฟิลด์รับ เช่นเดียวกับฟาบินโญ่ที่ลงครึ่งหลังแทนบิ๊กเวิร์จ อนาคตถ้าฟาบินโญ่ต้องเล่นเซนเตอร์ ใช่ว่าจะคู่กับใครก็ได้ แต่แนวป้องกัน ก็ต้องไม่น้อยกว่าจอร์แดน เฮนเดอร์สันหรือธิอาโก้ อัลคันทาร่า ไม่งั้น ฟาบินโญ่ก็เหนื่อยเหมือนกัน
อาเดรียนเซฟหลายลูก อนาคตถ้าต้องแทนอลิซง ก็ไม่ใช่ปัญหา
“ทุกคนใช้โอกาสเพื่อแสดงความสามารถนั่นคือสิ่งสำคัญ” คลอปป์บอกจุดมุ่งหมาย “ประตูของผมเปิดให้ทุกคน ถ้านักเตะแสดงความมุ่งมั่น เพราะทุกคนเล่นฟุตบอลได้ และนั่นทำไมพวกเขาได้อยู่ลิเวอร์พูล”
ขณะที่ไมเคิ่ล แอปเปิ้ลตันบอกว่า “ครึ่งแรก ลิเวอร์พูลแสดงให้เห็นความยอดเยี่ยมในการทำประตู เราพลาดครั้งหรือสองครั้ง ครึ่งหลังยากกว่าเดิม และผิดหวังกับผลงานของลูกทีม ผมคิดว่าเราน่าจะยิงได้ 4-5 ประตู แต่ถ้าเราเอากระป๋องหรือผ้าห่มไปปิดตรงมุมสามเหลี่ยมนี่คงหยุดลิเวอร์พูลจากการยิงประตูได้”
บทความโดย :: กิตติกร อุดมผล
อ่านข่าวฟุตบอลต่างประเทศ :: ข่าวฟุตบอลวันนี้
บทความฟุตบอล :: บทความฟุตบอลก่อนหน้านี้
เว็บดูบอลออนไลน์ :: ดูบอลออนไลน์ฟรี
