ชีวิตนักเตะในทีมของเยอร์เก้น คลอปป์ (1)

“เยอร์เก้น คลอปป์หลงใหลสนามซ้อม เพราะนั่นคือจุดเริ่มต้น

“เยอร์เก้น คลอปป์หลงใหลสนามซ้อม เพราะนั่นคือจุดเริ่มต้น

ของทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับทุกสโมสรที่เขาเป็นผู้จัดการ สถานที่ซึ่งนักเตะเข้าใจสิ่งที่เขาต้องการ

“เยอร์เก้น คลอปป์หลงใหลสนามซ้อม เพราะนั่นคือจุดเริ่มต้น

ด้านร่างกาย แท็คติกและอารมณ์ “หากนักเตะไม่ตั้งใจซ้อม รับรองว่าไม่ได้อยู่ในทีมของคลอปป์” คนใกล้ชิดของคลอปป์เปิดเผย “ที่จริง นักเตะคนนั้นไม่มีโอกาสเล่นเลยด้วยซ้ำไป”

 

เบื้องหน้าคืออ้อมกอดที่อบอุ่น รอยยิ้มที่โอบอ้อม แต่คลอปป์มอบภาระให้นักเตะไม่น้อย ความสำเร็จมีแน่ เช่นเดียวกับความเหนื่อยยาก หากเขายอมให้นักเตะพักสักวันระหว่างสัปดาห์ นั่นหมายความว่าพวกเขาต้องเจองานหนักเป็นสองเท่าในวันต่อมา

 

“เราซ้อมตามแบบที่เราเล่น” นี่คือปรัชญาของคลอปป์ แผนการซ้อมออกแบบโดยเป็ป ไลน์เดอร์ส ซักซ้อมกันในห้องทำงานของคลอปป์ทุกเช้า เมื่อลงสนาม คลอปป์เฝ้าดูไม่ค่อยขัดอะไร ยกเว้นบางอย่างที่เขาไม่ชอบหรือไม่ได้มาตรฐานที่คิดไว้

 

“ผมทำงานกับผจก.และโค้ชหลายคนตลอดการเป็นนักเตะ การซ้อมของเขาเข้มข้นที่สุดเท่าที่ผมเจอ” รองกัปตันทีม เจมส์ มิลเนอร์กล่าว “ไม่มีการซ้อมแม้แต่ช่วงเดียวที่นักเตะจะปฏิบัติแบบไร้สติ เหมือนมีปุ่มออโต้ไพล็อต เขาเป็นผู้จัดการที่ยิ่งใหญ่ และดีที่สุดเท่าที่ผมเคยเล่นให้หรือไม่ ผมคิดว่าแบบนั้น”

 

อดัม ลัลลาน่า ร่วมงานกับคลอปป์ 5 ปี ก่อนย้ายไปไบรท์ตันเมื่อจบฤดูกาลที่ผ่านมา ยืนยันเช่นกัน “ดุเดือดมาก แบบที่คุณเคยได้ยินว่า เขาอุทิศชีวิตให้กับสโมสรฟุตบอลแบบนั้นเลย ต้องเหนื่อยมากหากจะเล่นให้สโมสรนั้น แต่มันคุ้มค่าทุกนาที”

 

หนังสือ Ask A Footballer มิลเนอร์บอกว่า นักเตะต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงซ้อมเกมเพรสซิ่งของลิเวอร์พูล ให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ “การซ้อมเป็นอะไรที่เหนื่อยและซับซ้อน” มิลเนอร์บอกอย่างนี้ “เมื่อเราเพรสทั้งทีม เราต้องทำให้มีประสิทธิ์ภาพ ไม่วิ่งแบบไก่ตื่น จะทำได้ต้องอาศัยแผนการเล่นที่จำเพาะ ซึ่งพวกเราซ้อมกันมาแรมปี”

 

คลอปป์ให้ความสำคัญกับการซ้อมเพื่อเกมนัดต่อไป เมื่อก่อนนักเตะซ้อมช่วงเช้า และว่างตอนบ่าย นักเตะคนหนึ่งเล่าว่า “เมื่อก่อนเราซ้อมไม่เกินเที่ยง แต่กับเยอร์เก้นทุกอย่างยาวนาน ไม่นานถึงห้าโมงเย็น แต่คุณนั่งคิดอยู่กับบ้านตอนเช้าวันนี้ต้องเจออะไร อาจซ้อมจนเที่ยง แล้วเข้าโรงยิม กินอาหารเที่ยง อาจดูวิดีโอวิเคราะห์เกมก่อนซ้อม เราต้องอยู่ที่เมลวู้ดนานกว่าเมื่อก่อน”

 

มีการประชุมนักเตะก่อนการซ้อม วันก่อนเกมทุกคนรู้ว่า 11  ตัวจริงเป็นอย่างไร เมื่อคลอปป์ให้ซ้อม 11 V 11 ฝ่ายตรงข้ามเล่นแบบที่คลอปป์และสตาฟคิดว่าคู่แข่งจะทำแบบนั้น

“ทีมวิเคราะห์เกมรุกฝ่ายตรงข้าม เกมรับ หรือพวกเขาทำอย่างไรในการเปลี่ยนเกม” มิลเนอร์กล่าว “ผู้จัดการเจาะรายละเอียดจุดอ่อน เราจะเล่นงานตรงนั้นอย่างไร จุดแข็งซึ่งเราต้องป้องกัน หากพวกเขามีจุดอ่อนที่แบ็คซ้าย หรือไม่ถนัดการป้องกันบอลจากด้านข้าง เราสามารถซ้อมจนเข้าใจเกมเป็นอย่างดี”

 

ทีมอีเมลวิดีโอคลิปแต่ละจุดที่ต้องเน้นให้แต่ละคนดูก่อนเกม เพิ่มความเข้าใจสิ่งที่คลอปป์ต้องการ

 

“เยอร์เก้นไม่ให้ข้อมูลมากเกินไป” เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์กล่าว “ไม่ใช่ว่าเขาสี่งว่าเราต้องทำอะไรเวลาได้บอล ต้องส่งไปตรงนั้นตรงนี้ เขาวางแนวคิด ช่วยให้คุณเห็นโอกาสในการเล่น จ่ายทะลุช่อง แบบโมวิ่งสอดไป หรือบ๊อบบี้อยากให้บอลไปที่เท้าเขา การหาจังหวะเปิดมากกว่า”

 

“เขาช่วยผมเยอะมาก ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ เวลาคุณต้องการอะไรดุๆ เขาก็ไม่ละเว้น เขาไม่กลัวที่จะโหดกับนักเตะ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการโอบไหล่ อยากให้คุณพัฒนายิ่งขึ้น”

 

จีนี่ ไวนัลดุมเห็นด้วยกับเทรนต์  “สมองโล่ง นั่นคือสิ่งสำคัญที่สุด ผจก.ไม่ยัดอะไรให้นักเตะมากไป โดยเฉพาะข้อมูล ทุกเกมแตกต่างกันเพราะคู่ต่อสู้แต่ละทีมต่างกัน จุดแข็งต่างกัน แต่เรามีแนวทางที่จะเล่นประจำ เช่น เราไม่ประกบตัวต่อตัว เพราะทำให้การเคาเตอร์ เพรสยากขึ้นถ้าเรามัวแต่ประกบคู่ต่อสู้ เราคุมพื้นที่”

 

“ที่เน้นคือลูกตั้งเตะ โดยเฉพาะวันก่อนเกม ทั้งการป้องกันและการบุก มีเกมผ่อนคลายแบบ นักเตะอาวุโสเจอรุ่นน้อง ซึ่งนับผลการแข่งขันรวมไปเรื่อยๆตลอดฤดูกาล”

 

หากลิเวอร์พูลมีเกมตอนเย็น คลอปป์จะให้นักเตะซ้อมเบาๆตอนเช้าวันแข่งขัน Run Through ซักซ้อมแผนการเล่น หากลิเวอร์พูลไปเยือน จะจองสนามทีมเล็กๆไว้ซ้อมด้วย

 

วิธีการปรับเปลี่ยนไปเรื่อย เขาคือเจ้านายใหญ่และเป็นคนตัดสินใจขั้นสุดท้าย แต่รับฟังเสียงสะท้อนจากกลุ่มนักเตะรุ่นใหญ่ของทีม ซึ่งมีจอร์แดน เฮนเดอร์สันและรองกัปตันทีม เจมส์ มิลเนอร์เป็นหัวหน้ากลุ่ม พวกเขาจะคุยกันเช่น แผนเดินทาง

 

นักเตะมีวันหยุดบ่อยครั้งในระยะหลัง หากมีช่องว่าง เขาปล่อยเวลาให้นักเตะฟื้นฟูร่างกาย ไม่ต้องมาสนามซ้อมบ้าง แต่จะมีนักกายภาพไปดูแลนักเตะที่บ้าน

ครั้งหนึ่งเขาเปลี่ยนวิถีการเตรียมทีม หลังลิเวอร์พูลได้แชมป์คลับ เวิร์ลด์ คัพที่กาตาร์ ปกตินักเตะต้องเช็คอินที่โรงแรมในคืนก่อนเกม และนั่นคือคริสต์มาส ลิเวอร์พูลเจอเลสเตอร์ บ๊อกซิ่งเดย์ที่คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม

 

ทีมไม่ได้อยู่กับครอบครัวเป็นสัปดาห์ คลอปป์ให้นักเตะค้างที่บ้าน ก่อนรวมตัวตอนเช้าเพื่อบินไปเลสเตอร์ เขาปรับตารางซ้อมวันคริสต์มาสอีฟและคริสต์มาส ให้นักเตะมีเวลาอยู่บ้างมากขึ้น แสดงให้เห็นว่า เขาไว้ใจนักเตะ และพวกเขาไม่ทำให้เจ้านายผิดหวง  สามารถเอาชนะเลสเตอร์ของเบรนดัน ร็อดเจอร์ส 4-0

 

สิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงคือการซ้อมพรี-ซีซั่นที่หนักหน่วง “แม้แต่ท่าทีของผู้จัดการก็เปลี่ยนไป เขาจริงจังเหมือนวันแข่ง” แอนดี้ โรเบิร์ตสันเล่าในหนังสือ Now you’re gonna believe us. อธิบายถึงบรรยากาศตอนซ้อมที่แคมป์เอเวียง ฝรั่งเศส

 

คลอปป์บอกว่า การเข้าแคมป์คือ ช่วงเวลาของผม ไม่มีอะไรทำให้เสียสมาธิ ภารกิจด้านกับสโมสรเวลาทัวร์ต่างประเทศ ใช้เวลาเตรียมทีมได้เต็มที่ อาจมีเกมอุ่นเครื่องตอนเย็น แต่ไม่ได้หมายความว่า ระหว่างวันนักเตะได้พัก เขาให้ซ้อมเต็มที่เหมือนเดิม

 

“ผมคิดว่าบางที ผจก. ทดสอบเรา อย่างน้อย 1 เกมในพรี-ซีซั่น ประมาณว่า หากเราผ่านตรงนี้ได้ ก็พร้อมเจอกับทุกอย่างระหว่างฤดูกาล”

 

“ต้องเล่นหลังซ้อมหนัก หมดแรง ใจก็ล้า ซึ่งระหว่างคริสต์มาส เราต้องเล่น 6 เกมใน 14 วัน หรืออะไรก็ตาม จะไม่เป็นปัญหา หรือไม่หนักหนาเพราะเราเจออะไรแบบนั้นมาแล้วระหว่างหน้าร้อน”

 

คลอปป์สนใจรายละเอียด พยายามหาข้อได้เปรียบเหนือฝ่ายตรงข้าม นักเตะไม่รู้วาพวกเขาต้องเจออะไร เมื่อเจ้านายบอกว่า เดี๋ยวนักเซิร์ฟเยอรมัน เซบาสเตียน สติวด์เนอร์จะมาให้คำแนะนำระหว่างแคมป์ที่เอเวียงในหน้าร้อนปี 2019

 

สติวด์เนอร์แนะนำเทคนิคการหายใจและผ่อนคลายเวลาเจอความกดดัน ด้วยวิธีของเขา นักเตะสามารถกลั้นหายใจในสระว่ายน้ำได้นานขึ้น บางคนอยู่ได้เกือบ 3 นาที

 

“ไม่ต้องสนใจว่าจะได้อะไร แต่สาหัสเลยทีเดียว” โรเบิร์ตสันบอกไว้ “เขาทำให้เราทรมาณ ทำให้เราขาดอ๊อกซิเจน แบบไม่เคยโหยหาขนาดนั้นมาก่อน แต่เขาสอนเราว่า เราสามารถลุยได้แค่ไหน เจ้านายอยากให้เรามีวิธีหาความสบายใจเวลาเจอเรื่องเครียด เราเข้าใจและเรียนรู้จากสิ่งเหล่านั้น”

นั่นอาจเป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่นักเตะนำมาใช้ระหว่างฤดูกาล 19-20 การไล่ล่าหาประตูชัยช่วงท้ายเกม หรือต้องพลิกสถานการณ์เมื่อตกเป็นรอง

 

การมอบหน้าที่ดูแลโภชนาการให้โมนา เนมเมอร์ หรือโค้ชทุ่ม โธมัส โกรนเนมาร์ค นักจิตวิทยา ลี ริชาร์ดสัน คลอปป์ชอบทำอะไรใหม่ๆ ไม่เคยกลัวที่จะรายล้อมด้วยคนเก่ง ถนัดในแต่ละเรื่องมากกว่าเขา “นี่แสดงให้เห็นความเป็นมนุษย์ของเขา” ไวนัลดุมบอก “ที่ลิเวอร์พูล เราไม่เคยรู้สึกว่า ขาดหรือไม่มีอะไรที่จำเป็น”

 

 

บทความโดย  :: กิตติกร อุดมผล

อ่านข่าวฟุตบอลต่างประเทศ :: ข่าวฟุตบอลวันนี้

บทความฟุตบอล :: บทความฟุตบอลก่อนหน้านี้

เว็บดูบอลออนไลน์ :: ดูบอลออนไลน์ฟรี