ผจก.ผู้นี้เปิดเผยในวันแรกที่รับตำแหน่งเมื่อตุลาคม 2015 ว่านี่คืองานมหึมาและยากแค่ไหนสำหรับการเปลี่ยนแปลงลิเวอร์พูล และความจริงคือ เขาพบว่า มันมากกว่าที่คิดไว้ตอนแรก หลังรับตำแหน่งได้ 2 วัน เมื่อคุมทีมที่เบรนดัน ร็อดเจอร์สหลงเหลือไว้ให้เจอท็อตแน่มที่ไวท์ ฮาร์ท เลน
“ผมดูทีมอื่นวอร์ม อัพทุกครั้ง ท็อตแน่ม แต่งตัวดี ชุดซ้อมสีน้ำเงินเข้ม เป็นระบบ แฮร์รี่ เคน เดลลี่ อัลลี่ ทุกอย่างดูลงตัว เข้ากัน แต่เมื่อกลับหลังหัน โธ่ ทีมเราเหมือนกัปตันพิคการ์ด”
“เสื้อผ้าไม่ได้สัดส่วน ไม่พอดีตัว ผมไม่พอใจเลย ผมคิดว่า มันจะเป็นอย่างไร นี่ขนาดเกมยังไม่เริ่มเราก็เป็นรองแล้ว รุ่งขึ้น ผมเรียกประชุมแล้วเปิดประเด็นว่า อะไรบ้างที่เราเปลี่ยนได้ทันที เพราะคิดว่าสิ่งเหล่านี้มีความสำคัญ ผมไม่ใช่พวกบ้าบอ ควบคุมทุกอย่าง แต่คิดว่าบางสิ่งบางอย่างต้องมีความเฉพาะของมัน”
ความทรงจำต่างของคลอปป์ตั้งแต่วันแรก บรรจุในภาพยนต์ The End of the Storm กำกับโดย เจมส์ เออร์สกิ้น เล่าถึงการแชมป์พรีเมียร์ ลีก และรายละเอียดต่างๆมากมาย ภาพยนต์รักจนถึงผลงานอันยอดเยี่ยมของทีม สิ่งต่างๆที่โดนใจแฟนบอลลิเวอร์พูลทั่วโลก
ความละเอียดอ่อนของคลอปป์ที่เข้าในคนต่างชาติต่างวัฒนธรรม ศาสนา เช่นเดียวกับการแสดงข้างสนามของเขา
“ท่าทางข้างสนามที่คนเห็นประจำ กัดเขี้ยวเคี้ยวกราม ชี้โบ๊ชี้เบ๊ คือผมไม่สามารถเปลี่ยนตัวเองในได้ในข้ามคืน ยืนนิ่งแบบนี้ (ทำท่าเลียนแบบ Rodin The Thinker) ทุกคนคงสงสัยว่า ผมคิดอะไรอยู่ บางทีผมดูเหมือนไอ้โง่ข้างสนาม ผมรู้ตัวดี”
“ผมคือผจก.ที่โดนใบแดงมากที่สุด และอาจโดนปรับมากที่สุดของบุนเดสลีกา” เกมกับเวสต์ บรอมก็โดนใบเหลือง “แต่มันไม่ช่วยอะไรนะ ผู้ตัดสินไม่ชอบอะไรแบบนั้น ผมจำได้ว่า ใบแดงแรกที่โดนตอนเป็นผจก คือผมถามผู้ช่วยผู้ตัดสินว่า ตามกฎ คุณสามารถตัดสินผิดได้กี่ครั้ง หากทำได้ 15 ครั้งเท่ากับเหลือครั้งเดียวนะ เขาโบกธงเรียนผู้ตัดสินมา แว่บเดียว ผมต้องเดินขึ้นบนอัฒจันทร์ แต่ผมก็นั่งเฉยๆไม่ได้นะ”
ลิเวอร์พูลแสดงออกถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวในทีม ไม่ใช่แค่คลอปป์สั่งแล้วทุกอย่างเกิดขึ้นทันที แต่เพราะวิธีปฏิบัติของเขา เช่น โม ซาลาห์และซาดิโอ มาเน่ ทั้งสองคนเป็นมุสลิมและวัตรปฏิบัติที่เคร่งครัดต่อศาสนา กระทบต่อการเตรียมตัวก่อนแข่งของทีม ตามแผนของคลอปป์
“ผมรักการที่ทีมเรามีหลากหลายวัฒนธรรม อยากบอกว่าการเป็นทูตมุสลิมดีที่สุดของทีมเป็นเรื่องดี มุสลิมชำระล้างอย่างเคร่งครัด ก่อนวอร์ม อัพ หลังวอร์ม อัพ และมันกินเวลา แต่เราคิดว่า ต้องทำอะไรแตกต่างจากทีมฟุตบอลทั่วไป”
“ก่อนเกม เราถึงสนาม 1 ชั่วโมง เมื่อกลับเข้าห้องแต่งตัวหลังวอร์ม อัพ พวกเขาปฏิบัติศาสนกิจ ซึ่งทำให้เราเสียไป 2 นาที ไม่ยากหรอกที่เราจะตัด 2 นาทีนั้นให้พวกเขาปฏิบัติภารกิจทางศาสนาซึ่งสำคัญต่อพวกเขามาก”
ลิเวอร์พูลของคลอปป์คือจังหวะ ไม่ใช่การเพรสซิ่งอย่างเดียว มักมีคำกล่าวเช่น การเก็บแรงไว้ อย่าใช้ฟุ่มเฟือย รักษาทรงของทีมเพื่อรับมือฝ่ายตรงข้าม”
“คุณไม่จำเป็นต้องเป็นนักเตะที่ฟิตที่สุดเพื่อจะเล่นให้ลิเวอร์พูล แต่คุณต้องแข็งแรง (Fit) และเหมาะ กับแผนของเรา(Fit in our game plan) เกมเร็วไม่ดุเดือดแบบที่คนเห็น สิ่งที่ทำคือเก็บแรงไว้ แย่งบอลกลับทันทีด้วยการสปริ้นท์ 2-3 หลา เพราะถ้าคุณแย่งไม่ได้ตรงนั้น ผู้เล่นทั้ง 10 คน ต้องวิ่ง 50-60 หลาเพื่อแย่งบอลมาก แบบไหนเหนื่อยกว่ากัน”
“ในเกมรุก เราต้องมีผู้เล่นที่พร้อมจะเล่นเกมรับ เพราะช่วงเดียวที่คุณรู้สึกปลอดภัยไร้กังวลคือตอนที่มีอะไรปกป้องคุณ”
พวกเราทุกคนได้รับผลกระทบจากการระบาดใหญ่ ซึ่งมีการสอดแทรกเหตุการณ์ต่างๆไว้ในเรื่อง ทั้งการบอกเล่าของคลอปป์และฟุตเทจต่างๆ เกี่ยวกับแฟนบอลลิเวอร์พูลทั่วโลก แม้ที่วูฮั่น ประเทศจีน
“จำได้ เราเล่นกับบอร์นมัธ นำ 25 แต้ม ห่างมาก รุ่งขึ้น ซิตี้เล่น และแพ้แมนฯ ยูฯ ผมจำได้ว่านอนบนโซฟาที่บ้านแบบโล่งอก สบายๆ รุ่งขึ้น ได้ข่าวการปิดโรงเรียน มหาวิทยาลัยที่มาดริด แล้วเราต้องเล่นเกมแชมเปี้ยนส์ ลีกนัดสำคัญกับแอตเลติโก้ แฟนบอล 5-6,000 คนจากมาดริดมาดูเกม มันบ้ามาก”
“ยาก ที่จะเตรียมทีมเพื่อแข่งขัน บอกให้นักเตะทำทุกอย่างเพื่อชัยชนะ โดยไม่รู้อนาคต เราเล่นเกมนั้น ก็ดีนะ แต่แพ้ ตกรอบแชมเปี้ยนส์ ลีก ผมโมโหการเล่นของแอตเลติโก้ แต่ 5 นาทีต่อมา ผมบอกตัวเอง แก ไอ้โง่ กังวลแต่การแพ้การแข่งขัน แต่โลกกำลังเจอความยากลำบากที่สุดในชีวิต”
“ผมขับรถกลับบ้าน รุ่งขึ้นมาสนามซ้อม ลีกประกาศพักการแข่งขัน ตอนนี้เราต้องจัดระบบทุกอย่างช่วงล็อค ดาวน์ ทุกคนในสโมสรทำงานได้เยี่ยมมาก ดูแลให้นักเตะดังๆเหล่านี้ให้ปลอดภัย เราออกนอกบ้านได้เพื่อซื้ออาหาร แต่มันยากสำหรับคนดัง หรือนักฟุตบอลเวลาออกนอกบ้าน”
เรื่องราวมีมากมาย แม้กระทั่งชีวิตส่วนตัวของคลอปป์ ความสัมพันธ์กับพ่อ บางเรื่องที่เขาอยากเปลี่ยนแปลงเมื่อพูดถึงพ่อ ความคิดของคนทีโตขึ้น ขณะที่พ่อมีโอกาสเล่นฟุตบอลอาชีพกับไกเซอร์ สเลาเทิร์นตอนอายุ 18 ปี แต่ปู่ไม่ยอม พ่ออยากให้คลอปป์ทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริง
“ผมรักทุกอย่างที่พ่ออยากให้ผมทำ ตอนนี้ผมประสบความสำเร็จอย่างที่พ่อฝัน ประสบความสำเร็จกับการกีฬา น่าเสียดาย พ่อจากไปแล้ว ตอนที่ผมเริ่มเป็นผจก.ทีม”
The End Of The Strom เป็นมากกว่าภาพยนต์เกี่ยวกับทีมฟุตบอล ทุกอย่างเรียล แต่เลอเลิศกว่านักเขียนบททุกคนในโลกจะจินตนาการได้ เพราะฉะนั้น
ถ้าคุณคือเด็กหงส์ และ ลิเวอร์พูลคือจิตวิญญาณ
นี่คือตัวอย่างหนังที่คุณไม่ควรพลาด “THE END OF THE STORM”
ครั้งแรกของการเจาะลึกเส้นทางแชมป์ครั้งประวัติศาสตร์
อัดแน่นด้วยฟุตเทจเบื้องหลังหาดูยาก และบทสัมภาษณ์เอ็กซ์คลูซีฟของกุนซือและนักเตะคนโปรด
กดดูตัวอย่างภาพยนตร์ได้ที่นี่
https://www.facebook.com/MongkolMajorMovie/posts/2033073420167172
#TheEndOfTheStorm #Liverpool
14 มกราคมนี้ ในโรงภาพยนตร์
บทความโดย :: กิตติกร อุดมผล.
อ่านข่าวฟุตบอลต่างประเทศ :: ข่าวฟุตบอลวันนี้
บทความฟุตบอล :: บทความฟุตบอลก่อนหน้านี้
เว็บดูบอลออนไลน์ :: ดูบอลออนไลน์ฟรี
