เยอร์เก้นคลอปป์ #อัจฉริยะผู้ชูกำปั้นและเปลี่ยนฝันให้เป็นจริง2

เยอร์เก้นคลอปป์
#อัจฉริยะผู้ชูกำปั้นและเปลี่ยนฝันให้เป็นจริง2

 

ปรัชญาของคลอปป์ การบีบเพื่อแย่งบอลคืนให้เร็วที่สุด โดยใช้ผู้ใช้หลายคนในเวลาเดียวกัน ใช่ว่าไม่มีจุดอ่อน

ช่องโหว่ต่างๆถูกชำแหละไม่เหลือชิ้นดี เมื่อลิเวอร์พูลเยือนวัตเฟิร์ด 20 ธันวาคม 2015 ไม่ว่าลิเวอร์พูลวางแผนอย่างไร ทุกอย่างล้มเหลวโดยสิ้นเชิง แพ้ราบคาบ 0-3

ทีมมีกำหนดคริสต์มาส ปาร์ตี้ที่ฟอร์มบี้ ฮอลล์ กอล์ฟ คลับ หลังจากนั้น (ที่เดียวกันเมื่อ ลิเวอร์พูลรวมตัวเพื่อดูเกมเชลซี-แมนฯ ซิตี้) นักเตะคาดว่า เจ้านายจะยกเลิกงานสนุก แต่ทันทีที่เครื่องแลนดิ้ง ณ สนามบินจอห์น เลนน่อน

SMS จากผจก ปรากฎต่อสายตาทุกคน เมื่อเปิดโทรศัพท์ ความว่า “Whatever we do together, we do as well as we can and tonight that means we party.” ไม่ว่า เราทำอะไรด้วยกัน เราทำให้เต็มที่ที่สุดเช่นเดียวกับปาร์ตี้ของเราในคืนนี้

หนักแค่ไหนดูจากคำสั่งต่อไปก็แล้วกัน “ห้ามทุกคนกลับก่อนตี 1”

ดึกดื่นเที่ยงคืนในอีกหลายเพลาถัดจากนั้น ลิเวอร์พูลแพ้อีกนัด

นัดปิดฉากฤดูกาลแรกของคลอปป์กับลิเวอร์พูลเกิดและจบที่เบเซิ่ล เพราะผลงานที่สุดยอดของเซบีญ่าในครึ่งหลังของนัดชิงยูโรป้า ลีก ทีมสเปนพลิกสถานการณ์จากเป็นรอง0-1ในครึ่งแรก กลับมาชนะ ซึ่งสกอร์น่าจะยับเยินกว่า 3-1 เสียด้วยซ้ำไป

บรรยากาศภายในโนโวเทพ ที่เบเซิ่ล สวิสเงียบสงัด ขนาดคลอปป์ยังซึมเหมือนเมาหมัดที่น็อกลิเวอร์พูลลงได้ เขาคุยกับโค้ชในทีม ยอมรับว่าเซบีญ่าแข็งแกร่งกว่า นักเตะฟิตกว่าและเล่นเป็นระบบมากกว่า เขาไม่โทษใครนอกจากตัวเอง แต่ปลอบใจตัวเองว่าทีมของเขาสามารถเล่นได้ดีกว่านั้น จะว่าไป แค่เข้าชิงถือลิเวอร์พูลทำได้ดีเกินคาด เกินศักยภาพของทีมเสียด้วยซ้ำ

ประสบความสำเร็จบนความล้มเหลว อาจเป็นบทสรุปฤดูกาลแรกของคลอปป์กับลิเวอร์พูล เหมือนได้ลูกกินเปล่า ไม่มีใครคาดหวังอะไรมาก ทุกคนยอมรับการสร้างอาณาจักรใหม่ต้องใช้เวลา พร้อมกับเผชิญความผิดหวังระหว่างทาง อันดับ 8 ต่ำสุดในรอบ 20 ปีของสโมสร แต่แฟนบอลรู้สึกว่า ทีมมีความก้าวหน้า จากที่ 10 เมื่อเขารับตำแหน่ง

แพ้แมนฯ ซิตี้ในนัดชิงลีก คัพ เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ คราวนี้คลอปป์ทำใจยอมรับได้ไม่ยาก เพราะซิตี้มีนักเตะที่ยอดเยี่ยม แต่เหตุการณ์ที่เบเซิ่ลย้ำเตือนว่า ภารกิจที่รอเขาอยู่ ณ แอนฟิลด์อภิมหายากแค่ไหน ความพ่ายแพ้ดังกล่าว ทำให้ลิเวอร์พูลหมดโอกาสเล่นฟุตบอลยุโรปในฤดูกาล 2016/17

คลอปป์รับไมโครโฟนก่อนบอกนักเตะว่าภูมิใจในความพยายามของทุกคนมากที่สุด และย้ำว่า ไม่มีใครคิดว่าลิเวอร์พูลมีโอกาสได้แชมป์ตั้งแต่นัดแรกของรายการ “ 2 ชั่วโมงก่อนนี้ ชีวิตไม่มีอะไรดีเลย เละเหมือนขี้”

เขายอมรับ และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นบางสิ่งบางอย่าง พวกเขาได้เข้าชิงอีก และอย่าลืมความรู้สึกแย่ๆในวันนั้น ใช้ความผิดหวังผลักดันทีมให้ก้าวหน้ากว่าเดิม เขาภูมิใจในลูกทีมเป็นที่สุด เพราะทุกคนเชื่อฟังคำแนะนำ ซึมซับความคิดต่างๆของเขารับประกันว่า ความพยายามทั้งหมดในฤดูกาลนั้น ไม่มีวันสูญเปล่า

คลอปป์ปรารถนาให้แฟนบอลลิเวอร์พูลศรัทธาทีมอีกครั้ง เขาเชื่อว่า หากเขาสามารถบังคับทิศทางความหลงใหลทีมบนอัฒจันทร์ได้ ทฤษฎีผู้เล่นคนที่ 12 จะไม่ใช่แค่เทพนิยายหวานหูอย่างเดียว จะมีผลดีต่อทีม แต่ก่อนอื่น ทุกคนต้องยอมรับความจริงก่อน

เมื่อคริสตัล พาเลซขึ้นนำใน 8 นาทีสุดท้ายของเกมพรีเมียร์ ลีก นัดที่สองในบ้าน เมื่อพฤศจิกายน 2015 เขาเห็นแฟนบอลทยอยออกจากอัฒจันทร์ “ผมรู้สึกอ้างว้างโดดเดี่ยวมาก” คลอปป์กล่าวค่ำวันนั้น ทุกคนเข้าใจความหมายของเขาในอีก 1 เดือนต่อมา เมื่อเขาแสดงอาการลิงโลด กับการเสมอทีมกลางตารางเวสต์ บรอมวิช อัลเบี้ยน 2-2 ต่อหน้าเดอะ ค็อป ลิเวอร์พูลตีเสมอท้ายเกม และแฟนบอลปักหลักในสนาม สู้พร้อมกับทีม

บรรยากาศในสนามค่อยๆเปลี่ยนไปปลายฤดูกาลดังกล่าว

ชนะโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 4-3 ทีมเก่าของเขาในยูโรป้า ลีก สกอร์รวม 5-4 หลายคนคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ต่อให้เล่นในแอนฟิลด์ และเหลือเวลาแค่ 25 นาที ทีมตาม 3-1 “เดอะ ค็อปสร้างครึ่งชั่วโมงของฟุตบอลที่ดีที่สุดในชีวิตผม” คลอปป์ให้สัมภาษณ์ เช่นเดียวกับเตือนทุกคนถึงเหตุการณ์ที่เบเซิ่ล “เราก้าวมาด้วยกันได้ไกลมาก”

คลอปป์ตะโกนนำทุกคน “We are Liverpool”, เราคือลิเวอร์พูล ก่อนทุกคนในห้องเปล่งเสียงตาม

ลักษณะการทำงานขอคลอปป์คือ เป็นเพื่อนนักเตะ แต่ไม่ใช่เพื่อนที่ดีที่สุดและยอมทุกอย่าง

คริสเตียน เบนเตเก้ เข้าใจดีถึงความหมายนี้ ลิเวอร์พูลขายเขาในอีก 6 เดือนต่อมา มามาดู ซาโก้ พูดถึงคลอปป์ในทำนองเดียวกัน เขาเป็นอีกคนที่ต้องเก็บของจากลิเวอร์พูล ระหว่างฤดูกาล 12016/17

ซาโก้มีอิทธิพลในห้องแต่งตัว คลอปป์ชื่นชอบความสามารถของเขา แต่สิ่งสำคัญคือกว่า วินัย ซาโก้มาสายขณะลิเวอร์พูลเตรียมบินไปพรีซีซั่นในอเมริกา

ไม่ใช่ความผิดครั้งแรก ซาโก้ไม่ได้เล่นนัดชิงยูโรป้า ลีกกับเซบีญ่า เพราะโดนยูฟ่าสอบสวนกรณีไม่ผ่านการตรวจสารกระตุ้น เขาเคลียร์คดีนี้ได้ คลอปป์โมโหมากที่เขากินยาลดน้ำหนักโดยไม่แจ้งแพทย์ทีม คลอปป์ต้องการให้รุ่นพี่เป็นแบบอย่างที่ดี จากนั้น ซาโก้ไม่เคยลงเล่นให้คลอปป์อีกเลย ก่อนย้ายไปคริสตัล พาเลซในช่วงฤดูหนาว

หน้าร้อนนั้น ลิเวอร์พูลได้นักเตะสำคัญ แต่ตอนนั้นไม่มีใครคิดว่า เขาเหล่านี้จะสำคัญกับทีมดังปัจจุบัน ซาดิโอ มาเน่ โจเอล มาติป และจีนี่ ไวนัลดุ้ม กลายเป็นแชมป์ยุโรปในอีก 3 ฤดูกาลต่อมา ทั้ง 3 ย้ายจากเซาแธมป์ตัน ชาลเก้และนิวคาสเซิ่ล ทีมที่ตกชั้นทั้งสิ้น พิจารณาผลงาน มาเน่เล่นดีมากในฤดูกาลแรกที่คลอปป์คุมทีมแบบเต็มๆ ประตูของมาเน่ส่งให้ลิเวอร์พูลกลับสู่ UCL คลอปป์เคยพยายามเซ็นสัญญากับมาเน่ตอนเขาอยู่ดอร์ทมุนด์

คลอปป์และมาเน่เจอกันแบบซึ่งหน้าที่เยอรมัน นักเตะจากเซเนกัลยังเด็กและขี้อาย คลอปป์ลังเลไม่แน่ใจว่า เด็กคนนี้แกร่งพอจะอยู่ในทีมของเขา แต่เมื่อมีโอกาสอีก คลอปป์ไม่พลาดเป็นครั้งที่สอง ก่อนย้ายมาลิเวอร์พูล มาเน่เจรจากับมัวริซิโอ พอเช็ตติโน่ แต่ความมุ่งมั่นของคลอปป์ ทำให้มาเน่เลือกมาแอนฟิลด์

นอกจากนักเตะ คลอปป์เสริมความแข็งแกร่งให้ทีมงานหลังบ้าน

โมนา เนมเมอร์ นักโภชนาการจากบาเยิร์น มิวนิค หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงแรกของเธอคือ ตั้งเคานเตอร์น้ำผลไม้ไว้ในห้องแต่งตัวที่เมลวู้ด เพื่อให้นักเตะเติมความสดชื่นทันทีเมื่อกลับเข้ามาจากสนามซ้อม แทนที่จะเติมความหวานด้วยน้ำตาลแบบอื่นเมื่อจบครึ่งแรก นักเตะผสมน้ำแอลเปิ้ลกับชาหรือกาแฟ อันเดรียส คอร์นเมเยอร์เป็นหัวหน้าฟิตเนสส์ ซี่งคลอปป์มอบหมายหน้าที่ให้เป็นจ่ากองร้อยตอนฝึกซ้อม

คลอปป์พยายามเสริมนักเตะให้ทีม แต่ต้องผิดหวัง มาริโอ เกิตเซ่ จากบาเยิร์น มิวนิคเป็นเป้าหมาย แต่คลอปป์ต้องเปลี่ยนใจเมื่อผู้ยิงประตูชัยให้เยอรมันได้แชมป์ฟุตบอลโลก 2014 บอกว่า จะย้ายทีมหลังจบทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์ยุโรป 2016 แล้วค่อยพิจารณาข้อเสนอทั้งหมด

เบน ชิลเวลล์ เยาวชนของเลสเตอร์เป็นอีกเป้าหมายของคลอปป์ แต่ไม่สำเร็จ ทำให้คลอปป์จำต้องใช้เจมส์ มิลเนอร์สในตำแหน่งแบ็คซ้ายในฤดูกาลนั้น

ความกดดันที่โถมเข้าใส่ลิเวอร์พูลมากขึ้นเพราะการขยับตัวของทีมอื่น คลอปป์ยิ้มเยาะการทุ่มเงินของแมนฯ ซิตี้และแมนฯ ยูฯ สโมสรที่อันดับดีกว่าลิเวอร์พูลในปี 2015/16 แล้วยังเพิ่มความแข็งแกร่งให้ทีมอย่างต่อเนื่อง

ทั้งเป็ป กวาดิโอล่า และมิดฟิลด์ระดับโลกอย่างพอล ป็อกบา เข้าสังกัดทีมเมืองแมนเชสเตอร์ในปี 2016

“ผมอยากทำอะไรที่แตกต่างไป” เขากล่าว ก่อนเปลี่ยนท่าที เมื่อนักเตะอย่างเวอร์จิล ฟาน ไดค์และอลิซง เบ๊คเกอร์ พร้อมย้ายทีมในปี 2017 และ 2018

คลอปป์ไม่ลืมว่า ลิเวอร์พูลสามารถซื้อนักเตะค่าตัวแพงเป็นสถิติได้เพราะ การย้ายทีมครั้งสำคัญครั้งหนึ่ง และความสำเร็จจากการเข้าชิงชนะเลิศ UCL 2018 ซึ่งอาจเกินความคาดหมายก่อนหน้านั้นลิเวอร์พูลได้เล่นถ้วยดังกล่าวแค่ครั้งเดียวใน 7 ปี

การขายฟิลิปเป้ คูตินโญ่ไปบาร์เซโลน่าด้วยค่าตัว 140 ล้านปอนด์ เป็นทุนสำหรับการซื้ออลิซง เดือนกรกฎาคม 2018 สำคัญกว่านั้น ลิเวอร์พูลคงไม่อาจแข่งขันกับแมนฯ ซิตี้ในการแย่งตัวเวอร์จิล ฟาน ไดค์ เมื่อ มค 2018

นี่คือครั้งแรก หลังสิ้นยุคของเชลาร์ อุลลิเยร์ กินเวลา 5 ปีครึ่งระหว่าง 1998-2004 ที่ฝ่ายบริหารและสตาฟโค้ชไปในทิศทางเดียวกัน เมื่อคลอปป์ไม่ได้นักเตะที่ต้องการ หลายคนเกรงว่า จะเกิดความบาดหมางเหมือนยุคราฟาเอล เบนิเตซ เช่นเดียวกับแบรนดอน ร็อดเจอร์ส จะกลับมาซ้ำรอยเดิม

ระยะทางระหว่างคลอปป์กับเจ้าของทีมอาจห่างไกลขนาดมหาสมุทร เพราะคนอื่นอยู่ที่แมสซาชูเซ็ตต์ส แต่การสื่อสารกับไมค์ กอร์ดอนทุกวัน ช่วยคลี่คลายปมก่อนเกิดปัญหา

คลอปป์ไปบอสตันเป็นครั้งแรกในปี 2018 ตามคำเชิญของเฮนรี่ เวอร์เนอร์และกอร์ดอน เพื่อดูเร้ด ซ็อกเล่นกับมินเนโซต้า ทวินส์

ครั้งนั้น ลินดา พิซซูติ ภรรยาของเฮนรี่พาคลอปป์ไปร้านขายของที่ระลึกของทีม เพื่อป้องกันความผิดพลาด เพราะคลอปป์เคยใส่หมวกนิว ยอร์ค แยงกี้ส์ถ่ายรูปช่วงต้นหน้าร้อนดังกล่าวระหว่างไปเที่ยวอิบิซ่า สเปน แยงกี้ส์คืออริสำคัญของเร้ด ซอก

แอร์ อาจเป็นผู้บริหารคนแรกที่ติดต่อกับโคซิกเค่อ แต่กอร์ดอน คือตัวแทน FSG คนแรกที่เปิดการเจรจากับคลอปป์ทางโทรศัพท์
ฤดูใบไม้ร่วงปี 2015 ทั้งสองแลกเปลี่ยนช่องทางติดต่อกัน กอร์ดอนส่งข้อความแสดงความยินดี แต่คลอปป์พิมพ์ตอบไปว่า “Wooohoooo!”

หลังจากร็อดเจอร์ส ซึ่งพยายามยอมรับการตัดสินใจของ FSG แต่โดยดี ก่อนไปฟาดงวงฟาดงาโดยลำพัง เรื่องที่กอร์ดอนอยากรู้มากที่สุดเกี่ยวกับคลอปป์คือ พวกเขาสามารถรับความแตกต่างทางความคิดของกันและกันได้ขนาดไหน เวลาแต่ละคนขัดแย้งด้านความคิด “คุณไม่สามารถพูดทุกอย่างที่คิด หรืออย่าด่วนแสดงความขัดแย้ง อย่างเด็ดขาด นื่คือเรื่องที่ลิเวอร์พูลจะไม่ยอม ไม่ว่ากับใครก็ตาม”

กอร์ดอนบอกคลอปป์อย่างนั้น เขาหยุดไป 1 อึดใจแล้วพูดต่อว่า “นี่คือสิ่งจำเป็น” กอร์ดอนอธิบายเหตุผลให้คลอปป์ฟังว่าเรื่องที่เขากลัวที่สุด บางทีแนวคิดที่ดีอาจไม่ได้รับความเห็นชอบ แต่ต้องไว้ใจกัน อย่ากลัวจนแต่ละฝ่ายไม่กล้าแสดงความคิดเห็น

แปดเดือนหลังการเซ็นสัญญา คลอปป์ตกลงเซ็นสัญญาใหม่ที่ดีกว่าเดิมตามข้อเสนอจากกอร์กอน

คลอปป์เหมือนวัยรุ่นชอบนุ่งยีนส์ สวมรองเท้าคอนเวิร์ส ขณะที่กอร์ดอนเงียบขรึม ชอบใช้ความคิด แต่คนที่เคยเห็นสองคนคุยกันจะบอกว่า คลอปป์และกอร์ดอนมีอะไรที่คล้ายกันเวลาเผชิญปัญหา คลอปป์บอกว่า เรื่องหนึ่งที่เขาชอบที่สุดสำหรับฟุตบอลคือ ความท้าทายที่จะแก้ปัญหา

กอร์ดอนทุ่มเทมากในการทำงานกับลิเวอร์พูล เขาเริ่มงานที่บอสตัน ทุก 6 โมงเช้า โทรศัพท์ติดต่อกับใครสักคนที่ลิเวอร์พูลทุกชั่วโมง สำหรับคนที่ตำแหน่งใหญ่ขนาดนี้ กอร์ดอนไม่ปล่อยให้กิจการดำเนินไปเอง เขาควบคุมทุกเรื่อง ไม่ว่าเขาจะทำอะไร เห็นด้วยหรือไม่ กอร์ดอนพร้อมคุยกับทุกคนทุกระดับในสโมสร แม้ว่างานนั้น อาจไม่เกี่ยวกับคนๆนั้นก็ตามที

ตลอดเวลาที่คลอปป์ทำงานกับลิเวอร์พูล ใช่ว่าคนสำคัญของสโมสรจะเห็นด้วยกับเขาทุกอย่าง เขาบอกว่า “ไม่ใช่แบบว่า หากเราไม่ได้นั่นไม่ได้นี่ เราจะทำอะไรไม่ได้” ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นโดยคลอปป์เป็นผลพวงของการถกเถียงอย่างจริงจัง การโต้แย้งมองต่างมุม ยอมรับความคิดเห็นของคนอื่น อย่างเข่น เฮนรี่มองว่า โม ซาลาห์ แพงเกินไป หากต้องจ่าย 40 ล้านปอนด์ เพราะเคยล้มเหลวในพรีเมียร์ ลีกกับเซลซีมาก่อน

แต่ลิเวอร์พูลซื้อเขาจากโรม่าตามคำแนะนำของไมเคิ่ล เอ๊ดวาร์ดส์ ผู้อำนวยการกีฬา ซึ่งคลอปป์ต้องการจูเลี่ยน บรันด์จากไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น แต่ทั้งคลอปป์และกอร์ดอน จำนนต้องหลักการของเอ๊ดวาร์ดส์ที่เฉียบคม ซึ่งบอกว่าเขาติดตามซาลาห์ตั้งแต่อยู่เบเซิ่ล ไม่ใช่แค่กับเชลซีเท่านั้น

ลิเวอร์พูลเปลี่ยนแปลงมากมายเรื่องซื้อขายนักเตะ ก่อนหน้านี้ มีความแบ่งแยก ทั้งความรับผิดชอบและประสิทธิภาพของการซื้อขาย ฉุดรั้งความก้าวหน้าของทีมตั้งแต่ยุคเบนิเตซ สำหรับหลายคน รู้สึกแปลกใหมเมื่อได้ยินคลอปป์ชมเชยเอ๊ดวาร์ดส์ออกหน้าออกตา เช่นเดียวกับ เดฟ ฟอลโลว์ส (หัวหน้าทีมหานักเตะ) และแบร์รี่ ฮันเตอร์ (หัวหน้าแมวมอง) แทนที่จะเป็นเรื่องราวความขัดแย้งหรือข้อความที่คน

.

.

บทความโดย กิตติกร อุดมผล

Facebook fanpage: Captain No.12

อ่านข่าวฟุตบอลต่างประเทศ :: ข่าวฟุตบอลวันนี้

บทความก่อนหน้า :: บทความลิเวอร์พูล