#เยอร์เก้นคลอปป์#อัจฉริยะผู้ชูกำปั้นและเปลี่ยนฝันให้เป็นจริง 1

#เยอร์เก้นคลอปป์#อัจฉริยะผู้ชูกำปั้นและเปลี่ยนฝันให้เป็นจริง 1

 

ลิเวอร์พูลได้แชมป์ลีก (อีกครั้ง) เพราะฉะนั้นตอนนี้สาแก่ใจเดอะ ค็อปมาก อ่านสื่อ(ตปท) มีเรื่องราวของลิเวอร์พูลเต็มไปหมด

เรื่องนี้ตอนแรกผมกะข้ามไป เพราะมีคนแปลเยอะ แต่อ่านที่แปลกันเยอะๆ แล้วไม่ถูกใจ เลยขอแปลบ้าง ด้วยภาษาที่รู้สึกจากใจ

หากไม่มีการพบปะ ณ ชานเมืองแฟรงค์เฟิร์ตอันเงียบสงบ ครั้งนั้น บางที อาจไม่มีการร่วมชีวิตกับลิเวอร์พูลในอีก 10  ปีต่อมา

เยอร์เก้น คลอปป์ เป็น ผจก ฟุตบอล อายุ 38 ปี จากแบล็ค ฟอเรสต์ที่ไม่มีใครใส่ใจมากนัก และ มาร์ก โคซิกเค่อ ตัวแทนไนกี้ เกิดที่เบรเมน ประจำอยู่ ณ สำนักงานใหญ่แห่งเดิมของบริษัทในเยอรมัน

ปี 2005 คลอปป์คุมไมนซ์ คุมไมนซ์ได้ 4 ปี เขาสามารถเจรจาผลประโยชน์เครื่องแต่งกายของตัวเอง ไม่ต้องผูกพันกับสโมสร โคซิกเค่อ ทำงานกับไนกี้มาพอๆกัน เชื่อว่า ภาพลักษณ์ของคลอปป์เหมาะที่จะโฆษณารองเท้าไนกี้ ขณะกรุยกรายคุมทีมริมสนามฟุตบอล

ไมนซ์ไม่ไกล ขับรถแค่ 40 นาที คลอปป์มาพร้อมเพื่อนทนายความที่ดูแลรายละเอียดสัญญาให้ เขาไม่มีตัวแทน ณ เวลานั้น เพราะคิดว่าตัวเองไม่มีความสำคัญมากพอที่ใครจะใส่ใจ

นั่งเก้าอี้แยกกัน โคซิกเค่อ พิงพนักเก้าอี้หนัง มือประสานท้ายทอย เหมือนรวบรวมความคิด คลอปป์สวมยีนส์ เสื้อฮู้ด ไม่เหมือน ผจก ทีมฟุตบอล ตอนนั้น ไมนซ์อยู่บุนเดสลีกา อาจได้แค่ที่ 11 ในฤดูกาล 04/05 แต่ได้สิทธิ์เล่นยูฟ่า คัพ ด้วยคะแนนแฟร์-เพลย์ สำหรับโคซิกเค่อ คลอปป์คือคนธรรมดาแต่มีเหตุผล แม้บางที จะเอะอะมะเทิ่งและเสียงดังอยู่บ้าง

พวกเขานัดกันอีกรอบ คราวนี้เป็นผับนอกเมือง โคซิกเค่อ ชอบหมอนี่ แต่อยากรู้จักให้มากขึ้น คลอปป์สั่งวีตเบียร์ชุดแรก โคซิกเค่สั่งวีตเบียร์อีกชุด (ตามธรรมเนียม ป๋าต้องเลี้ยงทุกคนในที่เจอกัน) จากบ่ายคล้อยถึงเย็น วีตเบียร์มาหลายชุด ต่อเนื่องไม่หยุด

จังหวะคลอปป์ออกจากห้องน้ำ โคซิกเค่อเดินสวนพอดี “ผมไม่สนเรื่องเงินหรอกนะ” คลอปป์เปิดฉาก “แต่เพื่อนทนายผม…” คลอปป์เล่าว่า เพื่อนเพิ่งซื้อเรือเก่าๆ มาลำหนึ่ง กำลังชุปชีวิตเรือให้สวยงามอีกครั้ง ค่าตกแต่งเรือเกือบๆ 12,000 ยูโร “เอาเป็นว่า เราเซ็นสัญญากัน เพื่อนผมจะได้เรือที่ต้องการ” คลอปป์สรุป

โคซิกเค่อหัวเราะชอบใจและตกลง ซึ่งเป็นแนวคิดที่ดี เขามโนว่าการทำงานกับคลอปป์เป็นอย่างไร เชื่อว่า คนๆนี้แตกต่างจากลูกค้าของเขาทุกคนที่ไนกี้

ฤดูใบไม้ร่วง 2015 คลอปป์กับโคซิกเค่อ นั่งพักในลุฟธันซ่า เลานจ์ สนามบินมิวนิค เจ้าหน้าที่ต้อนรับจำเขาได้ แม้คลอปป์พยายามพรางตัวเอง แต่เขายอมรับว่า ทั้งสองไม่มีวี่แววยะโสและสุภาพ

“พวกเขาบินไปนิว ยอร์คทำไม”

ในทศวรรษที่คลอปป์และโคซิกเค่อหลังนัดครั้งแรกที่แฟรงค์เฟิร์ต ถึงปี 2006 คลอปป์งานเยอะขึ้นกว่าเดิม เขาต้องการคนช่วยจัดการเรื่องต่างๆในแต่ละวันของเขา

ไมนซ์ผลงานดีกว่าที่คิด คนเยอรมันนับล้านคนเริ่มรู้จักคลอปป์ จากการทำหน้าที่นักวิเคราะห์ทางโทรทัศน์ ระหว่างฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่เยอรมันเป็นเจ้าภาพ โคซิกเค่อประทับใจบทบาทนี้ของคลอปป์ การอธิบายแท็คติกแบบไม่ต้องคุยโม้ว่าเขารู้ไปทุกเรื่อง รู้ว่าควรพูดอย่างไรให้คนจดจำ ตามบุคลิกของเขา

โคซิกเค่อออกจากไนกี้ เปิดบริษัทเอง เป็นตัวแทนนักเตะตามเป้าหมาย คลอปป์เริ่มเจรจาเมื่อเจอกันระหว่างงานหนึ่ง แบบไม่อ้อมค้อม ว่า “ผมอยากให้คุณเป็นตัวแทนผม…”

ข้อตกลงใหญ่ครั้งแรกกับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ คลอปป์สามารถพลิกโชคชะตาจากทีมใหญ่สุดอันดับสองของเยอรมัน คว้าแชมป์ลีก 2 สมัย แชมป์เดเอฟเบ 1 ครั้ง และซูเปอร์ คัพ เยอรมัน ก่อนเข้าชิงแชมเปี้ยนส์ ลีก ครั้งแรกในรอบ 16 ปี สำหรับดอร์ทมุนด์

หน้าร้อนปี 2015 คลอปป์ต้องการพักร้อน แต่โคซิกเค่อมีงานต้องจัดการ วางแผนให้คลอปป์กลับมาเป็น ผจก ทีมอีก เขาลาออกจากดอร์ทมุนด์ หลัง 7 ฤดูกาลที่ประสบความสำเร็จ คลอปป์ไม่ได้บอกว่าต้องการอะไร โคซิกเค่อทำหน้าที่แบบตัวแทนที่ดี โทรเข้าโทรออกหลายครั้ง รวบรวมข้อมูลสโมสรจากแหล่งที่เขาไว้ใจ เพราะ ณ ที่ใดที่หนึ่ง คลอปป์อาจฝากอนาคตไว้

หนึ่งในนั้นคือเชลซี อีกทีมคือลิเวอร์พูล เขาต้องการรู้เรื่องเจ้าของทีม โครงสร้างการบริหาร ไมเคิ่ล เอ๊ดวาร์ดส์ คือใครกัน นิสัยใจคอเป็นอย่างไร เอียน แอร์ เป็นคนที่น่าสนใจ นี่คือคนแรกที่ต้องติดต่อ หากลิเวอร์พูลมีท่าที สิ่งที่เขาพบบนอินเตอร์เน็ต เกี่ยวกับแอร์ไม่ค่อยดี ดูจากจำนวนข้อตกลงของลิเวอร์พูลที่ล้มเหลวระหว่างเขาเป็นหัวหน้าผู้บริหาร แท้จริง แอร์เป็นคนอย่างไร

 

เรื่องราวต่างๆที่โคซิกเค่อรับรู้ไม่ค่อยดี แต่ทั้งสอง เขาและคลอปป์ อยากเจอเองก่อนสรุป โดยเฉพาะคนที่เกี่ยวข้องกับความล้มเหลวของลิเวอร์พูล พูดง่ายๆ นอกจาก คลอปป์ต้องเข้าสัมภาษณ์งาน พวกเขาก็สัมภาษณ์คนมีอำนาจตัดสินใจมอบงานให้คลอปป์ด้วย

อีกเรื่องที่พวกเขาไม่อยากให้ใครรู้ในวันนั้นคือ จุดนัดหมายที่แมนฮัตตัน คลอปป์บอกเจ้าหน้าที่ ณ เลานจ์ ลุฟธันซ่าว่า บินไปนิว ยอร์ค เพื่อดูบาสเก็ตบอล แต่โทษที กว่าเอ็นบีเอจะเปิดฤดูกาลก็อีกตั้งเดือนนึง

ถือว่าโชคดี เพราะไมค์ กอร์ดอน จากเฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ้ป ได้ไอเดียว่า ไม่ควรเจอกันที่บอสตัน หากมีคนเห็นคลอปป์ ณ รังใหญ่ของ FSG  แผนแตกแน่นอน ทำไมเขาต้องไปที่นั่น โคซิกเค่อไม่รู้จักกอร์ดอนมากนัก ช่วงปี 2015 กอร์ดอน บริหารกิจการต่างๆของลิเวอร์พูลจากบ้านของเขาจากบ้านที่ชานเมืองบรูคไลน์ บอสตัน ไม่ห่างจากสนามกอล์ฟที่เคยจัดยูเอส โอเพ่น มากนัก

คลอปป์กับกอร์ดอน ถูกชะตากันตั้งแต่แรก ผลัดกันเล่าเรื่องวัยเด็กจากแกลตท่น ใกล้สตุ๊ทการ์ต และมินิอาโปลิส มินเนโซต้า ทั้งสองตระหนักดีว่า มีจิตใจเหมือนกัน เปิดกว้าง หัวก้าวหน้า นิยมอะไรใหม่ ยิ่งกว่านั้น จากที่กอร์ดอนรับรู้มาว่า คลอปป์เป็นพวกชี้นำ ชี้นิ้วสั่งคนอื่นสลายไปสิ้น ระหว่างการสนทนา คลอปป์จะฟังแล้วค่อยพูด

กอร์ดอนสูง 5 ฟุต 8 นิ้ว คลอปป์เกือบ 6 ฟุต  4 นิ้วเวลายืน กอร์ดอนพูดเบาไม่ค่อยเปิดเผยเรื่องตัวเองมากนัก แต่คลอปป์เป็นตรงข้าม กอร์ดอนยังไม่รู้หรอกว่า คลอปป์เนี่ยะ มีอะไรมากกว่ารูปร่างสูงใหญ่และเสน่ห์ตราตรึง คลอปป์บอกกอร์ดอนว่า ประทับใจโครงสร้างต่างๆของลิเวอร์พูล แต่กล้าบอกเจ้าของทีมว่า สโมสรต้องทำอะไรหากต้องการก้าวไปอีกระดับ

คลอปป์เชื่อว่า นักเตะลิเวอร์พูลบาดเจ็บมากไป ภารกิจแรกของเขาคือแก้จุดนี้ เมื่อการสนทนาสิ้นสุดลง กอร์ดอนบอกจอห์น ดับเบิ้ลยู เฮนรี่ เสาหลักของ FSG ว่า คลอปปเก่งพอที่จะเป็น CEO ของบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ได้สบาย เรื่องฟุตบอล เขามีภาพลักษณ์และบุคลิกที่เมอร์ซี่ย์ไซด์ต้องการ ขณะที่ กอร์ดอนและเฮนรี่ ไม่อาจทำได้จากอีกด้านของแอตแลนติก

คาร์โล อันเชล็อตติเดินออกจากประตูสำนักกฎหมาย เชียร์แมน & สเตอร์ลิง เมื่อวันก่อน กอร์ดอนชอบคาร์โลเช่นกัน แต่เขาสรุปได้ทันทีว่า คลอปป์คือสิ่งที่ลิเวอร์พูลต้องการ ณ เวลานั้น เมื่อ 3 ปี FSG แทบคุกเข่าขอร้องให้แบรนดอน ร็อดเจอร์ส เป็น ผจก ทีม ขณะเดียวการเจรจากับคลอปป์ ผู้ใช้ความหลงใหลเป็นข้อสรุปในการตัดสินใจรับงาน ไม่ยืดเยื้อ แฝงเล่ห์เหลี่ยมที่ทำให้การเจรจากับร็อดเจอร์สเนิ่นนานกว่าที่ควรเป็น

โคซิกเค่อ ใช้เวลาไม่นานก่อนตกลงด้านการเงินกับ FSG ซึ่งตอนนั้น คลอปป์ขอตัวจากห้อง ไปเดินเล่นในเซนทรัล พาร์ค ตรงข้าม สตรอว์เบอร์รี่ ฟิลด์ ก่อนเดินไปตึกดาโกต้า เคยเป็นบ้านของจอห์น เลนนอน น่าจะเป็นช่วงเวลาที่คลอปป์หลงเสน่ห์ของเมืองลิเวอร์พูลเข้าเต็มรัก

โรงอาหารของลิเวอร์พูล อาแคเดอมี่ ที่เคอร์บี้ คลอปป์ใช้เวลาช่วงบ่ายวันแรกกับสโมสรใหม่ที่นั่น อากาศหนาวเย็นตามแบบตุลาคม ลมแรงกระหน่ำใส่อาคารทั้งหลาย หลังมีคนถ่ายภาพเขาคุยกับอเล็กซ์ อิงเกิ้ลโธรป ผอ อาแคเดอมี่ และบรรดาโค้ชทั้งหลายบนระเบียงอาคาร คลอปป์กดเครื่องทำกาแฟ ณ โรงอาหารนั้น อยากได้ เอ๊กซ์เพรสโซ่สักถ้วย ตามนิสัยปกติของเขายามเช้า พร้อมสูบบุหรี่สักมวน

เจ้าหน้าที่โรงอาหารยืนดูคลอปป์มีอาการงง สีหน้าปรากฎชัดว่า ทำอะไรไม่ถูก ก่อนเขาพูดด้วยเสียงอันดังว่า “เราต้องหาเครื่องทำกาแฟใหม่แล้ว”ก่อนระเบิดเสียงหัวเราะแบบที่หลายคนคุ้นเคยในเวลาต่อมา เพราะตลกในความเปิ่นของตัวเอง

คลอปป์ไม่ค่อยแวะไปอาแคเดอมี่สักเท่าไร เขาแค่อยากบอกทุกคนที่นั่นว่า ทำงานได้ดีแล้ว เขารู้ว่ามีนักเตะบางคนของอาแคเดอมี่ที่น่าสนใจ เพราะดอร์ทมุนด์จับตามองนักเตะเหล่านี้เหมือนกัน หลังจากนั้น เขาเชื่อมั่นจนปล่อยให้อิงเกิ้ลโธรปดูแลอาแคเดอมี่แบบที่เจ้าตัวเห็นว่าเหมาะ

 

จากนั้นอีกหลายเดือน คลอปป์กลับไปเคอร์บี้ เขาลิงโลดที่เห็นเครื่องทำกาแฟใหม่ “มีคนฟังนะ” เขาพูดเสียงดัง ซึ่งตอนนั้น เขาควบคุมทุกอย่างที่เมลวู้ด ศูนย์ซ้อมทีมชุดใหญ่ ซี่งห่างจากเคอร์บี้ 5 ไมล์

 

ครั้งหนึ่ง คลอปป์เคยรับเชิญไปกล่าวสุนทรพจน์ ณ โรงงานรถยนต์โอเปิ้ลในเยอรมัน ต่อหน้าพนักงาน 10,000 คน มันกลายเป็นมากกว่าคำพูด ทันทีที่เขาพูดคำสุดท้าย เสียงผู้ฟังวันนั้นตะโนกเรียกเชื่อเขาดังลั่น คลอปป์ถือว่า ความประทับใจครั้งแรกสำคัญมาก คือพื้นฐานของความสัมพันธ์ทั้งมวล การแนะนำตัวเองต่อหน้านักเตะในห้องประชุมของเมลวู้ด คลอปป์เขียน บนกระดานไวต์บอร์ดว่า “TERRIBLE” ใช้อักษรตัวใหญ่แบบนี้ทั้งหมด มันคือคำอธิบายว่า ฝ่ายตรงข้ามจะรู้สึกอย่างไรเมื่อเผชิญหน้ากับลิเวอร์พูลของเขา จะทำได้ ทุกคนต้องวิ่งให้มากและเร็วกว่าเดิม บีบคู่ต่อสู้ทันทีเมื่อเสียการครองบอล นั่นคือจุดเริ่มต้นในการเคานเตอร์ แอทแท็ค

คลอปป์ขอให้ทีมสตาฟทุกคนแนะนำตัวเองกับนักเตะ อธิบายหน้าที่ต่อหน้าทีม เพราะอยากเตือนว่า ทุกคนตรงนั้นมีหน้าที่ และแต่ละคนต้องรับผิดชอบตัวเองเพื่อคนอื่นด้วย เขาบอกให้นักเตะจำชื่อเจ้าหน้าที่ทุกคนของเมลวู้ด หากทำไม่ได้ รับรองว่า ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันไม่มีวันเกิดขึ้น

คลอปป์อาจชื่นชมนักเตะที่นั่งตรงหน้าเขาว่าเก่งกาจ นับตั้งแต่รับงาน เขาดูเทปการแข่งขันลิเวอร์พูลในรอบ 12 เดือนย้อนหลังเกือบทุกเกม ทำให้เขาเห็นภาพชัดเจนว่า นักเตะยังเล่นไม่เต็มความสามารถ เพราะขาดความมั่นใจ นโยบายแรกของคลอปป์ ลดวันหยุด ชั่วข้ามคืน การซ้อมของลิเวอร์พูลหนักขึ้นกว่าเดิม

 

ว่ากันว่า คลอปป์ไม่ค่อยพอใจชุดซ้อมของลิเวอร์พูลเท่าไรช่วงเดือนแรก เขาพบว่า เสื้อผ้าซับเหงื่อไม่ดีพอ นั่นคือปัญหา เขาต้องการให้นักเตะทำทุกอย่างในการซ้อมเหมือนแข่งขัน นอกจากนี้ คลอปป์ ต้องการความมุ่งมั่นและผลงานจากนักเตะที่ 14 วันก่อนหน้านี้ต้องยิงจุดโทษ เพื่อชนะทีมจากลีก ทู คาร์ไลส์ ที่แอนฟิลด์ในลีก คัพ ใช่ว่า นักเตะทุกคนพอใจการซ้อมช่วงแรกๆ บรรดารุ่นใหญ่จับกลุ่มคุยกัน ก่อนสรุปว่า เป็นการซ้อมที่ซ้ำซาก น่าเบื่อ

ใครจะว่าอย่างไรก็ช่าง ลิเวอร์พูลผลงานดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ชนะแชมป์ เชลซีนอกบ้าน และรองแชมป์ 14/15 แมนฯ ซิตี้ ในหกสัปดาห์แรกที่คุมทีม แสดงว่า วิธีการของคลอปป์ได้ผล

 

เขาไม่ยอมเสียเวลาหรือผ่อนคลายการซ้อม คลอปป์ไม่สนใจดูนักเตะตามที่แต่ละคนพอใจ เขาปล่อยโค้ชของทีมในตอนนั้นคุมการซ้อม ทำให้เขามีเวลาถอยออกมาเพื่อพิจารณานักเตะได้ ตั้งแต่แรกแนวคิดเขาคือ ต้องเป็นไปตามวิถีคลอปป์ หรือ ไม่เลย เกมแรกของเขา เสมอที่ท็อตแน่ม 0-0 อดัม ลัลลลาน่า คือมิดฟิลด์ที่ขยันที่สุดในแดนกลาง ซึ่งคลอปป์ประทับใจจากที่เห็นในการซ้อม ความเข้าใจตำแหน่งและความทรหดในการวิ่งแบบไม่หยุด

นักเตะอีกคนที่โดดเด่นจากการซ้อมช่วงแรกคือแดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ คลอปป์รู้ว่าทีมที่ตกทอดมามีความสามารถ แต่เพิ่งรู้ว่า สเตอร์ริดจ์เก่งกว่าที่เขาคิด เหมือนโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้รวมกับมาริโอ เกิตเซ่ ที่ดอร์ทมุนด์ คลอปป์ไม่ใช่คนที่มัวแต่อาลัยความหลัง แต่เขาเสียดาย อยากร่วมงานกับสเตอร์ริดจ์ตอนร่างกายดีกว่านี้ ในความเห็นของเขา นี่คือ หมายเลข 9 ดีที่สุดของยุโรป

สตาฟของโค้ชใช้เวลาช่วงเช้าของวันซ้อม แบ่งสนามที่เมลวู้ดออกเป็น 3 ส่วน เตรียมเพื่อซ้อมเคาน์เตอร์ เพรส นี่คือพื้นฐานทุกความสำเร็จของคลอปป์ แต่นักเตะบอกว่า รูปแบบการซ้อมหลายอย่างแปลก ไม่เคยเจอมาก่อน  สตาฟตั้งหุ่นนักเตะ วางระยะห่างเท่ากัน แต่ละจุดแสดงถึงความเข้มข้นของการเพลส เต็มที่ ปานกลาง และต่ำสุด

ก่อนหน้านั้น แทบทุกนัด คลอปป์จะบอกนักเตะว่า คนไหนคือ เหยื่อของการกดดัน มักเป็นกองหลังหรือมิดฟิลด์ที่ความสามารถควบคุมบอลไม่ดีเท่าไร แนวคิดคือ บีบให้บอลไปสู่เท้านักเตะคนนั้น แทนที่จะให้คนอื่นที่ความสามารถดีกว่าเล่น โดยทีมจะกดดันเพื่อให้เกมดำเนินไปแบบนั้น บังคับให้คู่แข่งต้องเปิดบอลแบบนั้น ก่อนกลุ่มนักเตะลิเวอร์พูลกรูกันเหมือนพรานล่าเหยื่อ แล้วแย่งบอลทันที

“ช่วงดีที่สุดสำหรับการแย่งบอลกลับมาคือหลังจากทีมเสียบอลไป” คลอปป์บอกนักเตะลิเวอร์พูล “ฝ่ายตรงข้ามพยายามตั้งเกม หาทิศทาง คิดว่าจะเปิดบอลอย่างไร เขาจะละสายตาจากเกม ทำให้โดนสกัดหรือแย่งบอลได้ เป้าหมายตกอยู่ในอันตรายเพราะนักเตะคนนั้นเสียสมาธิไปกับเรื่องอื่น

ตลอดช่วงสัปดาห์หรือเดือนแรก  คลอปป์อาจหยุดการซ้อม เมื่ออยากแสดงให้นักเตะรู้ว่าเขาต้องการอะไรจากตรงนั้น เขารู้ว่า วิธีการเล่นแบบนี้ กดดันฝ่ายตรงข้าม แต่ลิเวอร์พูลต้องเสี่ยงเหมือนกัน ดังนั้น ทุกคนต้องบีบพื้นที่ฝ่ายตรงข้ามโดยเร็ว นักเตะ 3-4 เข้าแย่งบอลพร้อมกัน เท่ากับแต่ละคนออกจากตำแหน่งของตัวเอง หรือไม่อยู่ในที่ๆ ควรจะอยู่ เท่ากับลิเวอร์พูลตกอยู่ในอันตรายเช่นกัน

(ยังมีต่อ เรื่องนี้ ต้นฉบับยาวมาก 18 หน้า a4 เพราะฉะนั้นผมทยอยแปลให้อ่านทุกวันนะครับ ใจจริงอยากเขียนเรื่อง 30 ฝนที่ผ่านพ้นกว่าจะได้แชมป์ เพราะฉะนั้นก็ต้องเลื่อนไปก่อน แต่ไม่ต้องรอถึง 30 ปีแน่นอน)

.

.

บทความโดย กิตติกร อุดมผล

Facebook fanpage: Captain No.12

อ่านข่าวฟุตบอลต่างประเทศ :: ข่าวฟุตบอลวันนี้

บทความก่อนหน้า :: บทความลิเวอร์พูล