สตีฟ แม็คมาน ความสำเร็จและโรคมะเร็ง

เมื่อวาน 20 สิงหาคม วันคล้ายวันเกิดอดีตมิดฟิลด์พันธุ์คนหนึ่งของฟุตบอลอังกฤษ

และลิเวอร์พูล สตีฟ แม็คมาน อายุครบ 59 ปี เลยเอาเรื่องนี้มาให้อ่านกัน

เมื่อวาน 20 สิงหาคม วันคล้ายวันเกิดอดีตมิดฟิลด์พันธุ์คนหนึ่งของฟุตบอลอังกฤษ

“เวลาคุณไปพบแพทย์ที่คลินิก หมอบอกคุณง่ายๆว่า สตีฟ คุณเป็นมะเร็งนะ หมออาจตรวจคนไข้มาเป็นล้านครั้ง แต่เราปล่อยให้คนอื่นบงการชีวิตคุณได้ไง คุณไม่สามารถทำนั่นทำนี่ เหมือนโดนรถไฟชน คุณรู้ว่าเป็นอะไร แต่คุณไม่ยอมรับ อาจหวังว่า ทำไมถึงต้องเป็นเรา”

สตีฟ แม็คมานเปิดเผยเรื่องนี้เมื่อธันวาคมปีที่แล้ว เหตุการณ์ที่พลิกชีวิตในทันที ตอนนั้นแม็คมานทำงานให้สถานีโทรทัศน์ในมาเลเซีย เขาและภรรยาจูลี่ ตัดสินใจกลับเมอร์ซี่ย์ไซด์เพื่อตรวจโดยละเอียด ก่อนพบว่า เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก “ที่มาเลเซียเหมือนกับไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”

ก่อนหมอสรุปว่าเขาป่วยเป็นอะไร แม็คมานต้องตรวจซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความจริงต้องตรวจ 6 ครั้ง แต่แค่ 3 ครั้ง อดีตนักเตะลิเวอร์พูลรู้ว่า เขามีปัญหาแน่นอน “ผมอายุ 58 ปี ผมยังอายุน้อยเกินกว่าจะตายด้วยเรื่องแบบนี้”

ลูกชายเขา 2 คน พอลและสตีเฟ่น (ย้ายไปอยู่ออสเตรเลีย) กลับมาเยี่ยมพ่อ แม็คมานรอจนสตีเฟ่นมาถึงบ้านถึงแจ้งข่าวร้าย “ผมไม่เจอสตีเฟ่นมา 2 ปี บางทีก็ไม่ดีเหมือนกันที่ให้เขารู้ข่าวร้าย

มกราคม 2019 แม็คมานผ่าเนื้องอก ปลายปีพบมะเร็งต่อมลูกหมาก และปี 2020 โลกอยู่ภาวะระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรน่า แม็คมานไม่บอกคนในวงการฟุตบอลเรื่องอาการป่วยล่าสุด ยกเว้นอดีตผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลคนหนึ่งเขาบอกว่า โชคดีที่รู้จักเซอร์เคนนี่ เดลกลิช ผจก ที่เซ็นสัญญาซื้อเขามาลิเวอร์พูลเมื่อปี 1985 เช่นเดียวกับ เงิน 1.25 ล้านปอนด์ที่เดลกลิชและมารีน่า ภรรยของเขาร่วมกันบริจาคให้โรงพยาบาลบรอดกรีน ทำให้แพทย์สามารถผ่าตัดผู้ป่วยมะเร็งตับและต่อมลูกหมากได้เป็นอย่างดี

เครื่องมือผ่าตัดจากการบริจาคของเดลกลิชช่วยให้แม็คมานมีโอกาสรอดชีวิตมากขึ้น แต่เดลกลิชไม่เพียงแต่ทำหน้าที่ดังกล่าว แต่แวะเวียนไปเยี่ยมแม็คมานตลอดช่วงเวลาพักฟื้นที่บ้านเซาธ์พอร์ต ระหว่างล็อคดาวน์และเคนนี่ เดลกลิชเองก็ติดเชื้อไวรัสเช่นกัน

“เคนนี่” แม็คมานกล่าว “เขาเป็นมากกว่า ผจก. ทีม”

สตีฟ แม็คมานคืออดีตมิดฟิลด์ตัวหลักของลิเวอร์พูลยุคยิ่งใหญ่ที่สุดยุคหนึ่ง 30 ปีก่อน เขาติดทีมชาติอังกฤษชุดอิตาเลีย 90 ทัวร์นาเมนต์หลังจากลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 ครั้งสุดท้ายก่อนทีมของเยอร์เก้น คลอปป์คว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก สำเร็จ

2 เกมสุดท้ายของฤดูกาล 89-90 แม็คมานรับหน้าที่กัปตันทีม อลัน แฮนเซ่นบาดเจ็บ เช่นเดียวกับรอนนี่ วีแลน รองกัปตันทีม เกมกับดาร์บี้ เคาน์ตี้ เมื่อเดลกลิชประกาศ 11 ตัวจริง เขาบอกว่า “แม็คก้า คุณเดินนำเพื่อนลงสนามนะ”

แม็คมานเคยเป็นกัปตันทีมก่อนหน้านี้ 2 ครั้ง แต่คราวนี้พิเศษกว่าเดิม ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์เรียบร้อย 3 วันก่อนหน้านี้ด้วยชัยชนะเหนือควีนส์พาร์ค เรนเจอร์ส

“หากมีคนบอกล่วงหน้าว่า ลิเวอร์พูลจะไม่ได้แชมป์อีก 30 ปี ผมคงซึมซับบรรยากาศให้เต็มที่” สโมสรคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา นอกจากแห่ถ้วยรอบสนาม นักเตะแยกย้ายกลับบ้านตามปกติ การมอบถ้วย อลัน แฮนเซ่นแต่งชุดเต็มยศเหมือนลงแข่งในฐานะกัปตัน แม็คมานเล่าแบบตลกๆว่า “ก่อนจอห์น เทอร์รี่ก็มีบิ๊กอัลแหละ”

แม็คมานได้รับการยกย่องว่าเป็นมิดฟิลด์พันธุ์ดุ ขณะที่วินนี่ โจนส์ มิดฟิลด์ตัวร้ายของวิมเบิลดันชอบคุยว่า นัดชิงเอฟเอ คัพ 1988 เขาเจตนาเล่นงานแม็คมานจนเดินกระเผลก ทำให้ลิเวอร์พูลกลัววิมเบิลดันในวันนั้น แม็คก้าบอกว่าสิ่งที่โจนส์พูดไม่จริง หากจอห์น อัลดริดจ์ยิงจุดโทษเข้า นัดชิงดังกล่าวจะได้รับการจดจำอีกอย่างหนึ่ง

ยุค 1980 คือช่วงสูงสุดของลิเวอร์พูล แม็คมานอยู่ครึ่งหลังยุคดังกล่าว ในฐานะตัวจักรสำคัญ สไตล์การเล่น ผสมระหว่างแกรม ซูเนสส์กับสตีฟเฟ่น เจอร์ราร์ด เขาไม่ใช่คนที่ยืนปักหลักหน้าเซนเตอร์ หรือเติมเกมรุกอย่างเดียว แต่เล่นแบบบ๊อกซ์ ทู บ๊อกซ์

ผลงานของเรากับลิเวอร์พูล ยิง 50 ประตู จาก 277 นัด สถิติดีกว่าซูเนสส์ 55 ประตูจาก 359 นัด “เมื่อสตีฟ แม็คมานเล่นดี เกมของลิเวอร์พูลจะดี” บ๊อบ เพสลี่ย์เคยกล่าวไว้ ครั้งหนึ่งเพสลี่ย์พยายามซื้อแม็คมานจากเอฟเวอร์ตัน ก่อนเขาอำลาตำแหน่งเมื่อปี 1983 แม็คมานบอกว่า เขาพร้อมย้าย แม้ขณะนั้นการย้ายระหว่างเอฟเวอร์ตันกับลิเวอร์พูลคือปัญหาใหญ่

“ผมเป็นกัปตันทีมเอฟเวอร์ตัน บ๊อบอยากเซ็นสัญญากับผม ลิเวอร์พูลรู้ว่า ซูอี้จะไปซามพ์โดเรีย แต่ผมต้องไปแอสตัน วิลล่าก่อน การย้ายข้ามสแตนลี่ย์ พาร์ค คือเรื่องใหญ่ คงสร้างปัญหาให้ผมและครอบครัวเยอะ”

เขาคือสเกาเซอร์ เกิดที่เฮลวู้ดทางใต้ของลิเวอร์พูล พ่อเป็นคนงานก่อสร้าง เชียร์เอฟเวอร์ตัน พี่ชายทำงานในโรงงานประกอบรถฟอร์ด เชียร์เอฟเวอร์ตันเหมือนกัน ลุงและปู่ก็เหมือนกัน เอฟเวอร์ตันได้แชมป์ลีก 2 ครั้งในยุคนั้น แต่ปี 1982-83 พวกเขาได้ที่ 7 ไม่มีใครคิดว่า ทอฟฟี่สีน้ำเงินจะลุกขึ้นมายิ่งใหญ่ได้

แม็คมานบอกว่า เฮาเวิร์ด เคนดัลล์ ผจก.เอฟเวอร์ตันไม่ชอบเขาเท่าไร แม้จะให้เขาเป็นกัปตันทีม แต่สโมสรไม่ขึ้นค่าเหนื่อยให้ 3 ปีติด อาจเพราะมองว่าเขาเป็นเด็กท้องถิ่น ไม่ต้องจ้างแพง “ผมเล่นให้เอฟเวอร์ตันมากกว่า 100 นัด เป็นกัปตันทีม ผมควรได้อะไรที่ดีกว่านี้” การต่อสัญญาใหม่ ไม่มีอะไรดีกว่าเดิม ทำให้แม็คมานคิดว่า สโมสรต้องการขายเขา แต่คงจะดีกว่านี้ หากเคนดัลล์และเอฟเวอร์ตันยอมรับตรงๆว่า อยากขายเขา ไม่ใช่บอกว่า แม็คมานต้องการย้าย

แฟนเอฟเวอร์ตันบางคนยังไม่ให้อภัยเขาจนทุกวันนี้ “จะบอกว่าผมงกเงินก็ไม่ได้ ตอนนั้น หากผมเลือกไปลิเวอร์พูล ผมได้เงินมากกว่าไปแอสตัน วิลล่าอีกตั้งสองเท่า” แม็คมานอธิบาย

ลิเวอร์พูลยุค 80 กับปัจจุบันถูกเปรียบเทียบกันแบบช่วยไม่ได้ เช่นเดียวกับ เดลกลิชและคลอปป์

“ทีมของคลอปป์แข็งแกร่งกว่าในเรื่องของการเพรซซิ่ง ความแข็งแรงของนักเตะน่ากลัวมาก ทีมได้ประตูจากกองหน้า แต่ยุคผม เราได้ประตูจากหลายตำแหน่ง ตอนเราชนะพาเลซ 1989 นักเตะยิงกัน 8 คน เคนนี่เน้นการส่งบอลและเคลื่อนที่ นักเตะมีความผูกพันกัน”

“ตอนนั้นเรายอดเยี่ยมมาก ได้แชมป์มากมาย แพ้อาร์เซน่อลในนัดชิงลีก คัพ เพราะทำเข้าประตูตัวเองสองประตู แต่เครดิตของประตูเป็นชาร์ลี นิโคลัส เราแพ้วิมเบิลดันในนัดชิงเอฟเอ คัพ ซึ่งเราควรชนะ เราชนะพาเลซ 9-0 แต่แพ้พวกเขาในรอบรองเอฟเอ คัพ 90 ไม่งั้น เราอาจได้ด้บเบิ้ลแชมป์ ช่วงนั้นเราน่าได้แชมป์อีก4-5 รายการด้วยซ้ำ”

แต่กลับกลายเป็นการเข้าสู่ยุคตกต่ำยาวนาน จนกระทั่งเยอร์เก้น คลอปป์เข้ามา

 

 

บทความโดย  :: กิตติกร อุดมผล

อ่านข่าวฟุตบอลต่างประเทศ :: ข่าวฟุตบอลวันนี้

บทความฟุตบอล :: บทความฟุตบอลก่อนหน้านี้

เว็บดูบอลออนไลน์ :: ดูบอลออนไลน์ฟรี