“เมื่อคุณอยู่ในสนาม ทุกเรื่องของชีวิตจบลง ปัญหาหมดไป ทุกอย่างเลือนหาย”
ดีเอโก้ มาราโดน่า 1960-2020 แปลอย่างไรก็ไม่ไพเราะเท่าต้นฉบับ ซึ่งภาษาอังกฤษก็แปลมาอีกที
“When you’re on the pitch, life goes away.
Problems go away. Everything goes away” — Diego Maradona, 1960-2020
ชีวิตผม God of world football มี 3 คน ซึ่งไม่มีใครเทียบได้ เมสซี่ โรนัลโด้ เก่งแค่ไหน ก็ไม่เท่าธุลีของ 3 คนนี้ การทรงคุณค่าต่อวงการฟุตบอลโลก “เปเล่” “ฟรานซ์ เบ๊คเคนบาวเออร์” และ ”ดีเอโก้ มาราโดน่า” 3 คนนี้ทำให้ฟุตบอลกลายเป็น Beautiful Game ที่คนคลั่งไคล้ มีมูลค่ามหาศาล
ไม่มีใครที่ดู 3 คนนี้เล่น แล้วไม่หลงรักฟุตบอล โดยเฉพาะ มาราโดน่าเมื่อบอลอยู่เท้าซ้ายของเขา
เซอร์อัลฟ์ แรมซี่ย์ ผจก.ทีมชาติอังกฤษคนเดียวที่คว้าแชมป์โลก (1966) กล่าวถึง มาราโดน่าแบบเลอเลิศและบทขยี้ในการสัมภาษณ์ครั้งเดียว “เปเล่มีเกือบครบ มาราโดน่ามีทุกอย่าง ขยันเมื่ออยู่ในสนาม ทำอะไรมากกว่า ทักษะดีกว่า แต่โลกจดจำปัญหาที่เขาก่อด้วย เขาเบี่ยงเบนกฎทุกอย่างให้เหมาะกับตัวเอง”
เด็กชายจากสลัมยากจน วิลล่า ฟิออริโต้ นอกบูเอโนส ไอเรส ไล่ล่าความฝันซึ่งโลกตะลึงในความสามารถตั้งแต่เด็ก เล่นทีมชุดใหญ่อาร์เจนติโนส จูเนียร์ส ครั้งแรกเมื่ออายุ 15 ปี มีโอกาสติดทีมชาติเมื่ออายุ 16 ปี เรื่องหนึ่งที่เขาเสียใจคือ ไม่ได้รับความไว้วางใจให้เป็นส่วนหนึ่งของทีมฟ้าขาว ในฟุตบอลโลก 1978 เมื่ออาร์เจนติน่าเป็นเจ้าภาพ
เขาคือ 1 ใน 3 คนที่เซซาร์ หลุยส์ เมน็อตติ กุนซือผู้ยิ่งใหญ่ของอาร์เจนติน่าตัดจากทีมชุดสุดท้าย สองปีต่อมา มาราโดน่าเริ่มมีบทบาทกับทีมชาติอาร์เจนติน่ามากขึ้น เกมอุ่นเครื่องที่เวมบลี่ย์ เมื่อปี 1980 อังกฤษชนะ 3-1 ก็จริง แต่ไม่อาจหยุดความยอดเยี่ยมของเขาได้ หนังสือพิมพ์ ซันเดย์ ไทมส์ บรรยาถึงมาราโดน่าว่า “มาราโดนาเล่นกับบอลคนเดียว นาน 2.10 วินาที”
นานแค่ไหนก็นึกภาพประตูที่เขาลากผ่านนักเตะอังกฤษในฟุตบอลโลก 1986 นั่นแค่ 11 วินาทีเอง
ฟุตบอลโลกคือเวทีประชันความสามารถของยอดนักเตะยุคนั้น และอาจทุกยุคทุกสมัย มาราโดน่าสัมผัสฟุตบอลโลกครั้งแรก 1982 ซึ่งจบอย่างเจ็บปวด โดนเตะแทบตายกรรมการไม่ว่าอะไร เอาคืนทีเดียวใบแดงเลย เกมเจอบราซิล รอบแบ่งกลุ่ม รอบสอง (ดูได้ในคลิป)
4 ปี ต่อมา มาราโดน่าก้าวสู่บัลลังก์อย่างเต็มภาคภูมิ ด้วยตำนานด้วยความสามารถและเล่ห์เพทุบาย
ฟุตบอลโลก 1986 คือมาราโดน่า เวิร์ลด์ คัพ ฐานะกัปตันทีม มีบทบาทยิงและแอสซิสต์ 10 จาก 14 ประตูของอาร์เจนติน่า เลี้ยงบอลมากที่สุด โดนฟาวล์มากที่สุด ฟุตบอลยุคนั้นต้องบอกว่า ฝ่าดงแข้งอย่างแท้จริง
1990 ก็ไม่ธรรมดา อาร์เจนติน่าสภาพไม่สมบูรณ์นัก แต่ยังเข้าชิง เล่นเอาเยอรมันตะวันตกหืดขึ้นคอกว่าจะชนะได้ ระหว่างทางมาราโดน่าร่ายมนต์สะกดแฟนบอลทั้งโลก เช่น เกมกับบราซิล เขาเลี้ยงบอลกินตัวผู้เล่นบราซิลก่อนดับฝันคนทั้งโลกด้วยการส่งให้เคลาดิโอ คานิกเกียยิงปลิดชีพทีมแซมบ้า
USA 1994 มาราโดน่ากลับสู่ทีมชาติหลังพ้นโทษแบนเพราะเสพโคเคน ส่งผลให้ทีมฟ้าขาวผลงานโดดเด่น ตั้งแต่นัดแรก กลุ่มกรีซ 4-0 ปราบไนจีเรีย ซึ่งเล่นฟุตบอลได้ยอดเยี่ยมสำหรับครั้งแรกในเวิร์ลด์ คัพ ก่อนข่าวว่า มาราโดน่าไม่ผ่านการตรวจสารกระตุ้น 1 กรกฎาคม 1994 ส่งผลให้อดลงเล่นเกมสุดท้ายเพื่อตัดสินแชมป์กลุ่มกับบัลเรีย
ฟีฟ่าบอกว่าพบสาร 5 ตัวในปัสสาวะมาราโดน่าซึ่งประธานสหพันธ์ฟุตบอลอาร์เจนติน่าอ้างว่า เป็นยาแก้หวัด แต่แพทย์ของฟีฟ่ายืนยันว่า ยาทั้ง 5 ตัว ไม่มีในยาแก้หวัดชนิดไหนในโลก ส่งผลให้สหพันธ์ฟุตบอลอาร์เจนติน่าต้องตัดมาราโดน่าจากฟุตบอลโลกทันที และนั่นอาจทำให้เส้นทางของอาร์เจนติน่าจบแค่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเพราะแพ้โรมาเนีย 3-2
ในสนามมาราโดน่าคือเทพเจ้าลูกหนัง นอกสนามเขาคือซาตานที่ร้ายกาจที่สุดคนหนึ่ง แบบที่ไม่มีใครคิดว่านักฟุตบอลอาชีพจะใช้ชีวิตแบบนี้
ในสารคดีเรื่องดีเอโก้ มาราโดน่าโดยอาซีฟ คาเปาเดีย ดีเอโก้เปิดเผยช่วงชีวิตที่เนเปิ้ลส์ว่า “ทุกวันอาทิตย์ เราลงสนาม จากนั้นเราออกไปทานอาหารนอกบ้าน คลอเดีย (ภรรยา ณ ตอนนั้น) อยู่บ้านกับลูกๆ ผมออกไปดื่มต่อกับเพื่อน จากนั้นเราเสพโคเคน ทำแบบนี้จนถึงวันพุธ แล้วผมเริ่มคลีนร่างกาย กำจัดโคเคนจากระบบ เพื่อเล่นวันอาทิตย์”
นักฟุตบอลเก่งที่สุดในโลก อาจเก่งที่สุดตลอดกาลนับแต่โลกนี้มีฟุตบอล สำราญกับโคเคนเต็มที่ ไฮ ล่องลอยสุดๆ เมื่อกลับบ้าน ซ่อนตัวในห้องน้ำ เพราะไม่อยากให้ลูกสาวเห็นสภาพ จากนั้นใช้เวลา 3 วันเพื่อกำจัดโคเคนจากร่างกายเพื่อให้ลงสนามได้ จบเกมทุกอย่างเริ่มต้นเหมือนเดิม เสพโคเคนต่อ
เขายอมรับว่า “ยาเสพติดทำให้ผมเป็นนักเตะที่เลวร้าย ไม่ดีขึ้น คุณลองนึกดู ผมจะเก่งแค่ไหน หากไม่ใช่ยาเสพติด”
แต่กระนั้นเขาคือเทพเจ้าแห่งเนเปิ้ลส์จริงๆ แค่ดูการวอร์ม อัพก็คุ้มค่า
เขาเป็นนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลก 2 ครั้ง จากโบคา จูเนียร์สไปบาร์เซโลน่า 5 ล้านปอนด์เมื่อปี 1982 และ 6.9 ล้านปอนด์ไปนาโปลีเมื่อปี 1984
ความยอดเยี่ยมของมาราโดน่าในสนามฟุตบอล อาจสรุปได้สั้นๆ ดังรายงานของเซซ่าร์ หลุยส์เมน็อตติ กุนซือทีมชาติอาร์เจนติน่าในเวลานั้น ทำหน้าที่แมวมองให้บาร์เซโลน่าด้วย เขาเขียนรายงานนี้ ขณะมาราโดน่าอายุ 17 ปี ก่อนย้ายไปสเปน 4 ปีด้วยกัน
เกมที่เมน็อตติเลือกไปดูฟอร์มคือ โบคา จูเนียร์-อาร์เจนติโนส จูเนียร์ส (รายงานนี้เปิดเผยโดยมาร์ก้า)
นักเตะที่ดู: ดีเอโก้ อาร์มันโด้ มาราโดน่า
คะแนนความสามารถ: ดีมาก เหนือชั้น ความเร็ว 9.5 สปีดต้น 9.5 ความเร็วขณะเลี้ยง 9.1 ความเร็วขณะไม่มีบอล 9.5 ความคล่องตัว 9.5 สปริงข้อเท้า 8
สภาพจิตใจ: ความเข้มแข็ง 10 ทนทานต่อการเตะ 10 สมาธิ 10 เห็นแก่ตัว 0 บุคลิก 10
เทคนิคโดยรวม: ไม่มีใครสู้ได้
เทคนิคพิเศษ: เหนือดุจเทวดา มีประสิทธิ์ภาพ แค่เลี้ยงไปเรื่อยๆ พลังเหลือเฟือ กล้าหาญมาก มีประสิทธิภาพสุดๆ ยิงดีมาก ผ่านบอลยอดเยี่ยม แม่นยำสุดๆ อ่านเกมทะลุ โหม่งบอลธรรมดา เป็นผู้นำที่ดี มีพละกำลังในการครองบอลได้เยี่ยม ครองบอลได้ดีสุดๆ
ความสามารถเฉพาะตัว: สติปัญญาด้านฟุตบอลสมบูรณ์แบบ เข้าใจเกมทุกอย่าง วิสัยทัศน์ดี ความเร็วสูงและมีประโยชน์
สรุปภาพรวม: อายุน้อย เกิด 30 / 10 / 1960 เทคนิคการเล่นดีสุดๆ เลี้ยงบอลดูง่าย พยายามทำประตูให้ได้ก่อนแต่รู้ว่าทำอย่างไรจะส่งบอลให้เพื่อนที่อยู่ตำแหน่งดี ปฏิกิริยาตอบสนองดีมาก เก็บบอลดีพร้อมเล่นทันทีและมีประสิทธิภาพ บอลสั้นหรือยาวคือสิ่งมหัศจรรย์ เปลี่ยนทิศทางได้อย่างเหลือเชื่อ
นี่คือรายงานชิ้นแรกที่ทำให้บาร์เซโลน่ารู้จักดีเอโก้ มาราโดน่าดีขึ้น เกิดขึ้นก่อนการย้ายทีมจริงล่วงหน้า 4 ปี
บทความโดย :: กิตติกร อุดมผล.
อ่านข่าวฟุตบอลต่างประเทศ :: ข่าวฟุตบอลวันนี้
บทความฟุตบอล :: บทความฟุตบอลก่อนหน้านี้
เว็บดูบอลออนไลน์ :: ดูบอลออนไลน์ฟรี
