7-2 จำจนวันตาย

เผื่อลืมว่าแต่ละประตูเกิดขึ้นอย่างไร

เพราะเยอะเหลือเกิน

เผื่อลืมว่าแต่ละประตูเกิดขึ้นอย่างไร

น4 1-0 อาเดรียนจ่ายบอลให้โกเมซหน้าประตู แต่กลายเป็นกรีลิชรับได้ แล้วเปิดย้อนให้วัตกิ้นส์ยิงโล่งๆ

น22 2-0โดนสวน กรีลิชดีดให้วัตกิ้นส์อย่างสวย อาร์โนลด์ไม่ประกบ โยกหลอกโกเมซ

โชต้ายิง มาร์ติเนซเซฟได้

เทรเชเก้ต์โยนข้ามฝาก กรีลิชให้บาร์คลี่ย์ ยิงหลุด

น33 2-1ไวนัลดุมให้โชต้า ลากตัดเข้าใน จ่ายให้เคต้ายิง ติดบล็อก 18  บอลเข้าทางซาลาห์ยิงตีตื้น

แคชโยนให้บาร์คลี่ย์หลุดการเช็คล้ำหน้ายิงติดอาเดรียน เสียเตะมุม

น35 3-1 จากเตะมุม บาร์คลี่ย์โยน โกเมซโหม่ง ติดแม็คกินน์หน้าเขตโทษ ยิงสวนแฉลบฟาน ไดค์ เข้า

กรีลิชให้บาร์คลี่ย์ จี้หาฟาน ไดค์ โดนฟาวล์ และใบเหลือง ฟรีคิกแอสตัน วิลล่า

น39 4-1 บาร์คลีย์โยน ฟรีคิก ลิเวอร์พูลป้องกันแบบไฮไลน์ ผู้เล่นวิลล่าล้ำหน้าตรงกลาง แต่บอลเลยไปเทรเชเก้ต์วัดเข้ากลาง และวัตกิ้นส์โหม่ง แฮตทริค

โรเบิร์ตสันยิงติดเซฟมาร์ติเนซ

น55 5-1 โกเมซจ่ายเข้าทางบาร์คลี่ย์ วนออกนอกให้กรีลิช ก่อนชิ่งกัน แล้วบาร์คลี่ย์ยิงนอกกรอบ บอลแฉลบอาร์โนลด์เข้า

น60 5-2 ไวนนัลดุม ไล่บีบวัตกิ้นส์วงกลมกลางสนาม ฟีร์มีโน่จ่ายให้ซาลาห์ยิง

น66 6-2 ฟีร์มีโน่เสียบอล โดนวัตกิ้นส์แย่ง ต่อถึงกรีลิช โยกหนีอาร์โนลด์ บอลแฉลบฟาบินโญ่เข้า

คลอปป์ยืนแยกเขี้ยวยิ้ม เพราะโตแล้วห้ามร้องไห้

น75 7-2 แคชทุ่มเกือบมุมธง บาร์คลี่ย์โหม่ง แม็คกินน์ออกบอลเร็วให้กรีลิชหลุดเดี่ยว และหลอกยิงเสาแรก

 

นื่คือสิ่งที่เยอร์เก้น คลอปป์ สัมภาษณ์ผ่านระบบ Zoom หลังเกม

“อาเดรียนผิดสำหรับประตูแรก แต่ที่ผิดมากกว่าคือการตอบสนองของเรา …คุณเล่นเกมบุกต้องเสี่ยงนั่นปกติ แต่คุณต้องป้องกันให้ได้ ซึ่งเราทำไม่ได้ เรามีโอกาสที่ดี สวยๆ เราเสียบอลแต่ละครั้ง ณ จุดที่ทำให้พวกเขาโต้กลับได้ ลูกสอง”

“ลูกสามที่ผมว่าไม่ปกติ(แฉลบ) สุดท้ายเราตาม 4-1 ตอนเรายิงลูกแรกได้ ผมคิดว่า โอเค เรามีโอกาสนะ พักครึ่งเราคิดว่ามีโอกาส ที่เราต้องทำคือ หยุดผิดพลาด ทำอะไรแย่ๆ ทำสิ่งที่ดี ยิงลูกแรก ลูกสอง เกมเปิด แต่มันเป็นไปไม่ได้ เพราะเราพลาดเหมือนเดิมอีก บอลแฉลบ ซึ่งปกติเรามองว่าโชคร้าย แต่คืนนี้ เพราะเราบล็อกไม่ดี ข่าวดีคือไม่มีผู้เล่นคนไหนบาดเจ็บ”

 

“อลิซง หมดสิทธิ์เล่นเกมเอฟเวอร์ตัน อาจพัก 4 สัปดาห์ หรืออาจถึง 6 สัปดาห์ก็ได้ แต่คืนนี้จะโทษอาเดรียนไม่ได้ ประตูแรกแน่นอน แต่ประตูอื่น อาเดรียนไม่สามารถทำอะไรได้หรอก เราไม่ได้ช่วยเขาเลย ทำร้ายเขามากกว่า”

 

“คืนนี้ไม่โมโห เพราะมันช่วยอะไรไม่ได้ หวังว่ามันจะเป็นเกมหนึ่งที่เราผิดพลาดแล้วจบ มันจะเป็นอย่างนั้น เราต้องพิสูจน์ให้เห็นในสองสัปดาห์ เดือนต่อไป เกมแบบคืนนี้ไม่ควรเกิดขึ้น ตั้งแต่ผมอยู่ที่นี่ จำไม่ได้ว่าเราแย่ขนาดนี้ เละขนาดนี้ ข่าวจะเขียนอย่างไรก็ได้ สิ่งสำคัญคือเราตอบสนองอย่างไร เสียดายว่า เราไม่สามารถทำได้ในวันรุ่งนี้ มะรืน แต่อีก 2  สัปดาห์ ส่วนนักเตะผม ก็ไม่มานั่งชี้หน้ากันว่าใครผิด เพราะคืนนี้ทุกคนนั่นแหละผิด เราต้องรับมือกับมัน แล้วเราจะทำ อาจไม่ดีนัก”

 

“ไม่มีธิอาโก้ มาเน่ อลิซงเจ็บ ผมไม่คิดว่าเป็นข้อแก้ตัว ต่อให้ผมจัดทีมอย่างไร ก็ไม่คิดว่าผลจะเป็นเช่นนี้ ผมพูดแต่แรก แอสตัน วิลล่าเล่นดีมากๆ แต่เราช่วยพวกเขาด้วย เกมมีกระแสทิศทางของมัน 4-1 เราก็ไม่ยอมแพ้ หันมาเล่นเกมรับ เราคิดว่า เรายิง 1 ยิง 2 เกมเริ่มต้นอีกครั้ง แต่ไม่ใช่เพราะเล่นแบบนี้ เราต้องเล่นให้ดีขึ้น ไม่ใช่เพราะนักเตะที่ลงไม่ได้ ถูกต้องเราอยากได้พวกเขาในทีม แต่มันไม่เกี่ยวกับผลการแข่งขันและนักเตะที่ลงเล่น”

 

คลอปป์ไม่เคยเสีย 7 ประตูตลอดการเป็น ผจก. ทีมอาชีพ หนักสุดคือไมนซ์แพ้เบรเมน 6-1 เมื่อปี 2006 และพรีเมียร์ ลีกคือแพ้แมนฯ ซิตี้ 5-1 เมื่อกันยายน 2017 ลิเวอร์พูลแพ้ 7-2 ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 1963 แพ้ท็อตแน่ม และแชมเปี้ยนของอังกฤษที่โดนยิง 7 ประตูครั้งล่าสุดคืออาร์เซน่อลแพ้ซันเดอร์แลนด์ เมื่อ 1953

 

อาเดรียนพลาด 5 ครั้งทำให้ทีมเสียประตูใน 21 นัดที่เล่นให้ลิเวอร์พูล ขณะที่อลิซงพลาด 5 ครั้งเหมือนกัน แต่จาก 92 เกม

 

ความจริง อาเดรียนเป็นผู้รักษาประตูที่ดี จาก 9 เกมที่เขาเล่นในพรีเมียร์ ลีกเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ลิเวอร์พูลไม่แพ้เลย นั่นเพราะผู้เล่นอีก 10 คนช่วยเขา ไม่ปล่อยให้โดนล่อเป้าแบบนี้ เมื่อไม่มีอลิซง ก็ต้องเป็นอาเดรียน แต่เผอิญไม่ใช่ฟอร์มแบบที่แพ้อาร์เซน่อลในลีก คัพ แต่กลับเป็นอาเดรียนในเกมเซาท์แฮมป์ตัน เชลซีในเอฟเอ คัพและแอตเลติโก้ มาดริด

 

แต่ลิเวอร์พูลไม่ได้แพ้เพราะโดนทุบจนไม่มีทางสู้ แต่กลับวางระเบิดเล่นงานตัวเองทั้งนั้น นี่คือเหตุการณ์ที่สามารถพลิกผันเกมนี้ ในจังหวะสกอร์ 1-0

 

1 การเล่นระหว่างวัตกิ้นส์และกรีลิชแตะลอดขาไฟน ไดค์ บาร์คลี่ย์มีโอกาสยิง 2-0 แต่หลุดกรอบ

2 ซาลาห์ชิ่งให้ฟีร์มีโน่หลุดเดี่ยว ยิงไม่เข้า และซาลาห์โดนแม็คกินน์ชน แต่กรรมการไม่ให้จุดโทษ

3 โชต้าและซาลาห์ กดดันจนมาร์ติเนซพลาด ฟีร์มีโน่ได้โอกาส แต่ไม่ยิง คืนให้เกต้ายิง ติดบล็อก

4 โชต้ากับโรเบิร์ตสันชิ่งกัน ก่อนฟีร์มีโน่ได้โอกาส ยิงติดมาร์ติเนซที่เสาแรก ซึ่งลูกนี้ไม่น่ายิงยังไงก็ไม่เข้า

จากการครองบอล 69.8 % แต่กลับใช้โอกาส 14 ครั้งที่ได้ยิงให้เป็นประตูไม่ได้ โดยเฉพาะครึ่งแรก โอกาสยิงเข้ากรอบเท่าแอสตัน วิลล่า 6 ครั้ง และครึ่งหลัง แอสตัน วิลล่ามีโอกาสยิงเข้ากรอบ 5 ครั้ง ลิเวอร์พูลมีโอกาสยิงเข้ากรอบแค่ 2 ครั้ง

ผมเห็นด้วยกับเยอร์เก้น คลอปป์ ลิเวอร์พูลเสียทรงไปเอง และอาจเสียทรงตั้งแต่นาที เพราะอะไรถึงปล่อยให้แอสตัน วิลล่าไล่เพรซจนเกิดข้อผิดพลาด

 

“ผมไม่เคยเห็นเกมแบบนี้จากทีมมา 20 ครั้ง เรื่องแปลกๆเกิดขึ้นได้ในชีวิต หากคุณแพ้การแย่งบอล 30 ครั้ง คุณแพ้การแข่งขันแน่ จังหวะต่าง การแย่งบอล วิลล่าต้องการชนะมากกว่าเรา นี่คือเรื่องที่ผมไม่ชอบ กับอาร์เซน่อล รอย คีนบอกว่า Sloppy เกมนี้มัน ห่วยแตกเลย”

 

พักครึ่งผมคิดว่า คนแรกที่ผมเปลี่ยนคือ เกต้าก็ตรงเป๊ะ แต่อยากให้จอร์แดน เฮนนเดอร์สันลง ยามนั้นไม่มีใครจะปลุกเร้าลูกทีมในสนามได้ดีกว่ากัปตัน แต่ทุกครั้งที่กล้องจับเฮนโด้ เขาสวมชุดวอร์มเหมือนเดิม นั่นแสดงว่า เฮนโด้ไม่ฟิตจริง ไม่คุ้มเสี่ยงเก็บไว้เกมกับเอฟเวอร์ตันดีกว่า

 

หวังว่าเมื่อมาเน่และธิอาโก้กลับมา ทุกอย่างจะดีขึ้น และเกมต่อไปได้โปรดดร็อปบ๊อบบี้ ฟีร์มีโน่ด้วย อย่างน้อยก็ให้พัก แต่ถ้ารักฟีร์มีโน่ก็ต้องดร็อปเกต้า แล้วหาทางใช้มินามิโนะในตำแหน่งที่เขาถนัด ไม่ใช่แบบจับแฮร์รี่ วิลสันมาเล่นในเกมลีก คัพ

 

ผมยังเชื่อว่า การเล่นแบบไฮไลน์ไม่ใช่ปัญหา ยกเว้นการป้องกันฟรีคิก แต่ทำอย่างไรกลางจะเก็บบอลได้ ไม่แพ้จังหวะแย่งชิง ทุกประตูจากทุกเกมที่เสีย ไม่เคยมีสาเหตุอื่นเลย

ปล ผมไม่เคยคิดว่าลิเวอร์พูลจะแพ้ต่อให้ตาม 5 ประตู เพียงแต่เราสร้างโอกาสที่จะยิง 7 ประตูได้ไหม นั่นคือสิ่งที่ลิเวอร์พูลไม่อาจทำได้เลยในครึ่งหลัง

 

 

บทความโดย  :: กิตติกร อุดมผล

อ่านข่าวฟุตบอลต่างประเทศ :: ข่าวฟุตบอลวันนี้

บทความฟุตบอล :: บทความฟุตบอลก่อนหน้านี้

เว็บดูบอลออนไลน์ :: ดูบอลออนไลน์ฟรี