เซนเตอร์แบ๊กคนใหม่

ยังมีตำแหน่งไหนอีกที่ลิเวอร์พูลควรเสริมหรือต้องเสริมสำหรับการฟาดแข้งในฤดูกาลใหม่ 2020/21

แน่นอนว่าฤดูกาลเก่ายังหาข้อสรุปไม่ได้จากภาวะวิกฤติของโลก และฤดูกาลใหม่ก็ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องกำหนดแข่งขัน แต่สื่อแต่ละสำนักก็ยังต้องทำงานของตัวเองด้วยการหาข่าวมานำเสนอ

เรื่องราวยอดฮิตคงหนีไม่พ้นทิศทางของลีกต่างๆ รวมทั้งองค์กรระดับนานาชาติอย่างสหพันธ์ฟุตบอลยุโรปหรือสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติเกี่ยวกับฤดูกาลปัจจุบันว่าจะหาบทสรุปอย่างไรดี

ไม่ว่าจะมีมติออกมาอย่างไรก็จะมีเสียงตอบรับตามมาทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเสมอ แต่เชื่อได้อย่างหนึ่งว่ามันจะเป็นมติที่ผ่านการตัดสินใจมาเป็นอย่างดีและรอบคอบที่สุดโดยผ่านการเห็นชอบจากเสียงส่วนใหญ่แล้ว

ถัดมาก็คงเป็นข่าวประเภทสกู๊ปพิเศษหรือทีมยอดเยี่ยมในทรรศนะของแต่ละคน

ด้วยความที่มีความเคลื่อนไหวในสนามน้อย ไม่มีสถานการณ์ล่าสุดของตารางอันดับหรือฟอร์มอันจัดจ้านของใครสักคน สื่อทั้งหลายก็ต้องควานหาเรื่องมานำเสนอเราจึงได้เห็นสกู๊ปพิเศษที่น่าสนใจไม่น้อย รวมทั้งการจัดทีม Best XI ให้เห็นกันเรื่อยๆ

จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกันอย่างไรก็ถกเถียงกันเป็นที่สนุกสนาน แก้เบื่อไปกับสภาวะแช่แข็งทางฟุตบอลอย่างนี้เป็นอย่างดี

นอกเหนือไปจากเรื่องต่างๆ เหล่านั้นแล้วก็จะเป็นข่าวที่ขายได้โดยตัวของมันเองอย่างการซื้อขายนักเตะ ทีมนี้ต้องการคนนั้น ทีมนั้นต้องการคนนู้น

ข่าวจำพวกนี้แฟนบอลชอบแม้จะรู้ว่าไม่เป็นจริงหรือโอกาสเกิดขึ้นแทบจะเป็นศูนย์ แต่มันเติมความกระชุ่มกระชวยและเพิ่มความหวัง ความสำคัญของมันอยู่ตรงนั้นมาตลอด

ไม่อย่างนั้นเราคงไม่ได้เห็นข่าวทีมใหญ่ๆ อย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แมนฯ ซิตี้ ลิเวอร์พูล หรือเชลซี สนใจนักเตะมากมายบางทีร่วมเกือบร้อยคนหรอก

กับลิเวอร์พูลก็ไม่แคล้วเป็นข่าวกับนักเตะมากหน้าหลายตา ที่เด่นๆ หน่อยก็ ติโม แวร์เนอร์ กับ ไค ฮาเวิร์ตซ์ สตาร์ดังจากเวทีบุนเดสลีกา โดยเฉพาะรายแรกเข้าขั้นคนที่เดอะค็อปวาดฝันจะมาเป็นจิ๊กซอว์ผนึกกำลังกับสามประสานในเกมรุกของทีม

อย่างไรก็ตามตำแหน่งกองหลังก็น่าสนใจไม่ใช่น้อย

ด้วยความที่แนวรับของลิเวอร์พูลนั้นมีภาพที่ชัดเจนในความแข็งแกร่งของผู้เล่น 4 จาก 5 คน

อลีสซง เบ็คเกอร์ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน และ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์

สี่คนนี้คือความเพอร์เฟกต์ เป็นยอดดวงใจของสาวกหงส์แดง

นี่คือสี่คนที่ยืนพื้น ความรู้สึกของแฟนบอลคือกลุ่มนี้ไปด้วยกันได้ คลาสระดับเดียวกันโดยมีฟาน ไดค์เป็นจอมทัพ

ปัญหาจึงมีมาตลอดว่าแล้วที่ว่างอีกหนึ่งคนนั้นเล่า ควรจะเป็นใครที่มอบความรู้สึกว่า ‘คลาส’ เดียวกันให้กับแฟนบอลไหม

ถามว่า เดยัน ลอฟเรน โจแอล มาติป และ โจ โกเมซ ไม่มีคลาสหรือก็ต้องบอกว่าไม่ถึงขนาดนั้น ทั้ง 3 คนต่างก็เคยมีช่วงเวลาที่ดียามยืนคู่กับ ฟาน ไดค์ ทั้งสิ้น

บางทีอาจเป็นความโชคร้ายที่ซ่อนอยู่ในความโชคดีก็ได้ การยืนคู่กับ ฟาน ไดค์ นั้นอุ่นใจเพราะผิดพลาดมาก็ได้ปราการหลังดัตช์เก็บกวาดให้หมด แต่ความโดดเด่นของกองหลังร่างยักษ์ก็กลบรัศมีที่ควรจะเป็นของพวกเขาไปในตัวด้วยเช่นกัน

ถ้า ลอฟเรน มาติป หรือ โกเมซ ไปเล่นให้สโมสรอื่น บางทีพวกเชาอาจได้รับคำชมหรือเครดิตมากกว่านี้ก็ได้

หากถ้าเรามองถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับคนที่ยืนเป็นเซนเตอร์แบ๊กคู่กับ ฟาน ไดค์ มันก็ต้องพูดถึงเรื่องนี้ เพราะในความรู้สึกของแฟนบอลนั้น คลาส ของผู้เล่นตำแหน่งนั้นไม่ว่าจะเป็นใครก็ยังไม่เข้าพวกกับ 4 คนที่ว่ามา

จึงเป็นธรรมดาอยู่เองที่จะมีความคิดในทำนองที่ว่านั่นคือรูโหว่ที่รอจิ๊กซอว์มาเติมให้เต็มอยู่

ฟาน ไดค์ เองอาจจะพูดชัดเจนว่าตำแหน่งตรงนั้นสำหรับเขาก็ยังเป็น โจ โกเมซ ที่เล่นด้วยกันอย่างเข้าขามากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในฤดูกาลนี้ที่กองหลังรุ่นน้องสลัดปัญหาบาดเจ็บทิ้งไปได้ แต่ก็คงห้ามความคิดคนไม่ได้ง่ายๆ

ก็มันเชื่อไปแล้วว่าลิเวอร์พูลควรจะมีเซนเตอร์แบ๊กที่ คลาส ถึงกันมาเสียบ แล้วรับรองว่าพุ่งฉิวแน่นอน

จะเป็นธรรมกับคนที่ยังอยู่หรือเปล่านั้นไม่รู้ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่นักฟุตบอลจะหยิบมาเป็นเรื่องคร่ำครวญอะไรได้ หน้าที่ของทั้ง ลอฟเรน (ถ้ายังอยู่กับทีมต่อไป) มาติป และ โกเมซ ก็คือยกระดับตัวเองขึ้นมาทัดเทียมกับคนอื่นๆ ในแนวป้องกันให้ได้

ขณะเดียวกันความรู้สึกของแฟนบอลก็ยังคงพุ่งไปที่กองหลังตัวใหม่ที่จะเป็นใครไม่รู้ล่ะแต่แค่อยากเห็น ด้วยมุมมองที่ว่าก็คนที่มีอยู่นั้นยังไม่เข้าพวก

จะเป็นกองหลังชื่อดังก็ได้หรือจะไม่ดังก็ไม่ว่ากัน แต่ขอให้เป็นคนที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ กับ ไมเคิ่ล เอ๊ดเวิร์ดส์ เคาะว่าต้องเป็นคนนี้ก็พอ

เดลี่มิร์เรอร์สื่ออังกฤษรายงานว่า ดีเอโก้ คาร์ลอส กองหลังชาวบราซิลของเซบีย่ามาแรงมาก ด้วยฟอร์มการเล่นที่แข็งแกร่งอย่างคงเส้นคงวาในถิ่น รามอน ซานเชซ ปิซฆวน ในฤดูกาลนี้

คาร์ลอสไม่ใช่นักเตะบิ๊กเนม หลายคนไม่รู้จักเขาด้วยซ้ำถ้าไม่ได้ติดตามฟุตบอลสเปนจริงๆ จังๆ แต่สื่อหลายสำนักเชียร์เต็มที่ แม้จะมีค่าฉีกสัญญาสูงถึง 61 ล้านปอนด์ทว่าไม่มีปัญหาแน่ถ้าลิเวอร์พูลสนใจจริงๆ

อาจจะซื้อได้ในราคาที่ถูกกว่าค่าฉีกสัญญาก็ได้ หรือต่อให้ต้องซื้อในราคานั้นจริงทีมหงส์แดงก็คงจ่ายไหวถ้า คาร์ลอส คือคนที่คล็อปป์ปักหมุดไว้ว่าต้องเอามาให้ได้อย่างตอนซื้อ ฟาน ไดค์ หรือ อลีสซง

ข่าวนี้ชวนให้เดอะค็อปรู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้นมาเหมือนกัน ไม่เคยเห็นฟอร์มของนักเตะวัย 27 ปีคนนี้หรอก แต่แค่คิดถึงคู่หูคนใหม่ของ ฟาน ไดค์ ก็ตื่นเต้นแล้ว

มิร์เรอร์อ้างการวิเคราะห์ของ โดมากอย คอสตานจ์ซัค นักวิจารณ์ฟุตบอลชาวสเปนที่ยกให้ ดีเอโก้ คาร์ลอส คือ 1 ใน 3 กองหลังตัวกลางที่ดีที่สุดใน ลา ลีกา ฤดูกาลนี้ร่วมกับ ราฟาแอล วาราน และ อินยิโก้ มาร์ติเนซ

การได้รับฉายาว่า เดอะบีสต์ (The Beast) หรือไอ้ปีศาจนั้นคงไม่ใช่จะได้มาลอยๆ โดยไม่มีที่มาที่ไป และคาสตานจ์ซัคยังเปรียบเซนเตอร์แบ๊กแซมบ้ากับ คาลิดู กูลิบาลี่ กองหลังเนื้อหอมของนาโปลีด้วย

ประมาณว่าทรงเดียวกันแม้จะยังไม่ขึ้นไปอยู่ในเกรดเดียวกับสตาร์ดังชาวเซเนกัลแห่งถิ่น ซาน เปาโล ก็ตาม

ข่าวนี้ชวนให้ตื่นเต้นแต่ก็ยังห่างไกลจากปลายทางอีกมากเพราะยังไม่เคยมีคำพูดหรือสัญญาณใดๆ หลุดมาจากฝั่งของคล็อปป์เลย แถมที่มาของข่าวก็ยังมาจากต้นตอทางฝั่งสื่อสเปนไม่ใช่สื่ออังกฤษที่ใกล้ตัวกว่าอีกด้วย

กระนั้นในโลกของฟุตบอลนั้นหล่อเลี้ยงด้วยความหวังแบบนี้อยู่เหมือนกัน ข่าวการซื้อขายเปรียบเสมือนผงชูรสที่ขาดไม่ได้ และแม้ว่ามันจะยังห่างไกลจากบทสรุป ทว่าเราก็ไม่อาจพูดได้เต็มปากเช่นกันว่ามันไม่เกิดขึ้นแน่นอน

เพราะก็อย่างที่เราทุกคนรู้จักมันดี.. ฟุตบอล อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น

ป้าพล็อต

อ่านข่าวฟุตบอลต่างประเทศ :: ข่าวฟุตบอลวันนี้

บทความก่อนหน้า :: บทความลิเวอร์พูล