#สู้ไวรัส

เหมือนลิเวอร์พูลกำลังต้องลงแข่งกับเวลา

คู่ต่อสู้ในพรีเมียร์ลีกไม่ใช่ปัญหาอะไร แต่อุปสรรคคือการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า โควิด-19 ที่เวลานี้เริ่มทำให้บรรยากาศของการชมและเชียร์กีฬาในหลายๆ ประเทศพังพินาศแล้ว

กัลโช่ เซเรีย อาอิตาลีและทุกกิจกรรมกีฬาในดินแดนรองเท้าบู้ตถูกสั่งเลื่อนไม่มีกำหนดออกไปทั้งหมด ก่อนหน้านี้ต่อให้แข่งขันกันได้ก็ต้องลงเล่นแบบปิด ไม่มีคนดู

มันไม่ใช่บรรยากาศที่เอื้อต่อการดำเนินเรื่องราวใดๆ เลย โดยเฉพาะเกมลูกหนังที่เสียงเชียร์ในสนามถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ไม่ควรขาดไปอย่างยิ่ง

แข่งบอลกันในสนามเปิดกับสนามปิดนั้นให้อารมณ์แตกต่างกันสิ้นเชิง เกมใหญ่ของลีกมะกะโรนีอย่าง ยูเวนตุส ในวันที่เอาชนะ อินเตอร์ มิลาน ไม่ควรต้องเล่นกันต่อหน้าอัฒจันทร์โล่งๆ

มันคือศึกดาร์บี้ดิตาเลีย แปลง่ายๆ ก็ดาร์บี้แมตช์ของอิตาลี คือยิ่งกว่าดาร์บี้แมตช์ธรรมดาๆ

ลองจินตนาการดูว่า ลิเวอร์พูล ไปเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในศึกแดงเดือดโดยไม่มีคนดูเลยในโอลด์ แทร์ฟฟอร์ด หรือสนามคัมป์ นู ความจุ 98,000 คนอันว่างเปล่าเป็นพยานของศึกเอล กลาซิโก้ ที่ บาร์เซโลน่า ต้อนรับ เรอัล มาดริด

เกมดำเนินต่อไปได้ เตะจบ 90 นาทีได้ มีผลแพ้ชนะได้ แต่มันเหมือนมีแต่ร่างกาย หากไร้วิญญาณ

ก็จะให้ทำอย่างไรได้เล่า ในเมื่อโควิด-19 มันเป็นวิกฤติของโลก ถ้าสถานการณ์ไม่เลวร้ายถึงขีดสุดจริงๆ เขาจะมีคำสั่งแบบนี้ออกมาหรือ

อันนี้คือเรื่องที่เข้าใจได้ จะตัดพ้อใครก็คงต้องตัดพ้อโชคชะตาว่าไม่น่าทำกันเลย

โควิด-19 คือวายร้ายตัวใหม่ที่โลกสาธารณสุขเพิ่งรู้จัก มันจะถูกจัดการได้แน่แต่ไม่ใช่ตอนนี้ที่ทุกฝ่ายกำลังหาวิธีและมาตรการป้องกัน

เราสามารถเอาชนะได้ทุกโรคนั่นแหละ แต่กับโรคใหม่มันต้องอาศัยเวลา ซึ่งช่วงระหว่างนั้นเองที่อันตราย การควบคุมการแพร่ระบาดคือมาตรการที่ต้องเข้มงวด

ลิเวอร์พูลจึงเหมือนกำลังลงแข่งกับเวลา เพราะคาดเดาไม่ออกหรอกว่าสถานการณ์ในอีกสองวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร สถานการณ์ในอีกเจ็ดวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร

กับการทำแต้มขาดลอยการันตีแชมป์พรีเมียร์ลีกแน่ๆ นั้นไม่น่าจะมีปัญหา เวลานี้หงส์แดงเหลือภารกิจชนะอีกแค่ 2 เกมเท่านั้นก็จะทำได้สำเร็จ

ดีไม่ดีหากผลการแข่งขันเป็นใจอาจจะเหลือแค่เกมเดียวในวันเยือนกูดิสัน พาร์คของเอฟเวอร์ตันจันทร์นี้ก็ได้ถ้าหาก แมนฯ​ ซิตี้ สะดุดสักเกมที่เจอกับอาร์เซน่อลวันพุธนี้และเบิร์นลี่ย์ในวันเสาร์

หรือหากซิตี้แพ้ทั้ง 2 นัดที่ว่าก็ฉลองแชมป์ได้เลยไม่ต้องเสียเหงื่อ

ปัญหาก็คือฤดูกาล 2019/20 ยังเหลืออีกถึง 2 เดือนกว่าจะจบซีซั่น บรรยากาศตลอด 2 เดือนนี้จะเป็นอย่างไร มันเป็นมิตรแค่ไหนกับอารมณ์ที่ควรจะดื่มด่ำให้สมกับการรอคอยยาวนาน 30 ปี

เป็นไปได้ไหมที่พรีเมียร์ลีกจะยื้อไปไม่ถึงวันที่ 17 พฤษภาคมซึ่งเป็นวันปิดฤดูกาล

เป็นไปได้ไหมที่พรีเมียร์ลีกจะมีมาตรการอื่นใดออกมา อาทิ เลื่อนการแข่งขันทั้งแบบมีและไม่มีกำหนด ตัดจบฤดูกาล ณ เกมใดเกมหนึ่ง หรือประกาศให้ทุกอย่างเป็นโมฆะ (อย่างที่เดอะค็อปบางส่วนกังวลกัน)

คำตอบก็คือเป็นไปได้ เป็นไปได้ทั้งนั้น ส่วนโอกาสเป็นไปได้ของกรณีใดจะมากน้อยเท่าใดก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ที่ค่อนข้างแน่ก็คือมันไม่ใช่บรรยากาศที่เหมาะสมเลยสำหรับการฉลองความสำเร็จ งานแห่รอบเมืองเหมือนปีก่อนที่คว้าแชมป์ยุโรปกลับมาจากกรุงมาดริดคงไม่มี พิธีการมอบถ้วยรางวัลก็ยังไม่รู้จะออกมาอย่างไร

เรื่องแชมป์.. คงไม่ใช่ปัญหา ปัญหาคือบรรยากาศหลังเป็นแชมป์ต่างหากที่คงจะกร่อยพอสมควร

กระนั้นหากคิดกันให้ละเอียดจริงๆ มันคือปัญหาที่เล็กน้อยมากเลย และดูเหมือนว่าเราจะใส่ใจกับปัญหาเล็กน้อยนี้มากเกินไปหน่อย

เข้าใจในเรื่องความเสียดาย อุตส่าห์รอคอยกันมา 3 ทศวรรษแฟนบอลบางคนยังไม่เกิด แต่พอถึงเวลาสมหวังกลับต้องมาเจออะไรแบบนี้ไอ้ไวรัสบ้าบอ

หากตีโพยตีพายไปก็เท่านั้น ไม่มีประโยชน์ เพราะบนโลกแห่งความเป็นจริง โควิด-19 มันเกิดขึ้นแล้ว ระบาดแล้ว มีคนตายแล้ว

นี่ต่างหากชีวิตจริง ที่ไม่เกี่ยวกับอารมณ์อื่นใดอีก

ฉะนั้นเมื่อเทียบกับความร้ายแรงที่เราทุกคนกำลังเผชิญหน้ากันอยู่ งานฉลองหรือตำแหน่งแชมป์ใดๆ ก็กลายเป็นเรื่องขี้ปะติ๋ว

คนหนุ่มสาวที่เกิดมาในยุคสงครามโลกทั้งสองครั้งหรือกระทั่งสงครามเย็น ครอบครัวที่แตกกระเซ็นถูกขวางกั้นด้วยกำแพงเปลี่ยนชีวิตแห่งเบอร์ลิน หรือเด็กๆ ที่ต้องอพยพตามพ่อแม่หนีภัยสงครามแห่งคาบสมุทรบอลข่าน

เหล่านี้ก็ชีวิตจริงทั้งนั้น เขาก็ต้องตัดพ้อโชคชะตาของตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงต้องเกิดมาเจอกับเรื่องพวกนี้ ทำไมถึงไม่ให้พวกเรามีชีวิตปกติ

เพราะในบางครั้ง เรื่องจริงมันโหดร้าย ร้ายยิ่งกว่านิยายโศกนาฏกรรมสักเรื่องเสียอีก

หวังว่าเดอะค็อปที่กำลังวิตกกังวลกับบรรยากาศต่างๆ จะได้เตรียมการรัมมือกับมัน เรื่องแชมป์พรีเมียร์ลีกนั้นน่าจะทันการณ์อยู่ แต่เรื่องการฉลองคงต้องประคองอารมณ์ไว้หน่อย

รอดูสถานการณ์ เข้าใจมัน และปรับตัวให้เหมาะสมกับมัน

ความภูมิใจยังเป็นของพวกคุณ ขอแสดงความยินดีล่วงหน้า แล้วก็อย่าลืมสวมแมสก์เวลาอยู่ในที่สาธารณะด้วยล่ะ

ขอให้ทุกคนโชคดี..

ป้าพล็อต

อ่านข่าวฟุตบอลต่างประเทศ :: ข่าวฟุตบอลวันนี้

บทความก่อนหน้า :: บทความลิเวอร์พูล