#รางวัลตอบแทน

จากส่วนเกินโดนมองเมิน และส่อแววหมดอนาคตค้าแข้งในโรงละครแห่งความฝัน

เนมานย่า มาติช ยึดมั่นตามหลักของความเป็นมืออาชีพ แล้วค่อยๆ เอาชนะใจ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ซึ่งไม่มีทางเลือกจริงๆ ในตอนที่กองกลางขาดแคลน ทั้ง ปอล ป็อกบา และ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ต่างบาดเจ็บต้องพักเป็นเดือนๆ

ทำไปทำมากลายเป็นตัวแทนขัดตาทัพทั้ง เฟร็ด และ มาติช กลับทำผลงานได้ยอดเยี่ยมเกินความคาดหมาย

รายของ เฟร็ด ต้องเรียกว่าเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ เพราะสลัดฝันร้ายจากขวบปีแรกทิ้งไปสิ้นซาก และก้าวเป็นเสาหลักตัวจริงอย่างสง่าผ่าเผย

สำหรับ มาติช ในวัย 31 เคยโดนหมายหัวว่าหมดสภาพ สังขารร่วงโรยรา เชื่องช้าน่าเกลียด หากไม่เกิดวิกฤติในแผงมิดฟิลด์ คงถูกโละทิ้งไปเรียบร้อย

แต่เมื่อ มาติช แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจ และยอมเปลี่ยนสไตล์เพื่อความสอดคล้องลงตัวกับแผนของ โซลชา

นอกจากนี้ มาติช ยังยอมเปลี่ยนสไตล์ แถมโชว์ลูกขยัน ติวเข้มจุดอ่อนของตนเอง นั่นก็คือการเล่นเกมบุก

ปกติแล้วภาพคุ้นชินของ มาติช คือการยืนต่ำปักหลัก คอยดักทำลายจังหวะรุกของคู่แข่ง แต่ โซลชา ต้องการเห็นเขาเคลื่อนที่เข้าสู่พื้นที่สุดท้ายมากขึ้น เลยจับเคี่ยวแบบเดี่ยวๆ

แมตช์เสมอเอฟเวอร์ตัน 1-1 มาติช จ่ายแอสซิสต์ให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส และภาพรวมต่างๆ ก็คือหลักฐานที่ยืนยันได้ว่าทุกอย่างที่ลงแรงพยายามทำไปนั้น มันไม่สูญเปล่า

ความจริงสัญญาของ มาติช จะหมดลงในเดือนมิถุนายนนี้แล้ว โดยเบื้องต้น ผีแดง ก็คงรอให้ข้อผูกมัดมันสิ้นสุดลง

แต่พอ มาติช พิสูจน์คุณค่าให้เห็น ยูไนเต็ด เลยกลับลำยอมใข้อ็อปชั่นยืดขยายไปถึงซัมเมอร์ 2021

เท่านั้นยังไม่พอ ปีศาจแดง เตรียมตั้งโต๊ะเจรจาสัญญาฉบับใหม่กับ มาติช เพิ่มอีก 2 ปี และเปย์ค่าเหนื่อยให้เป็น 140,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์อีกด้วย

แม้ทุกอย่างที่ทำลงตัว จะไม่ได้คาดหวังอะไร มากไปกว่าการได้ลงสนาม และสร้างประโยชน์เพื่อทีม

แต่นี่คือรางวัลตอบแทนที่เหมาะสม และคู่ควร สำหรับ มาติช

* โรบิน *

อ่านข่าวฟุตบอลต่างประเทศ :: ข่าวฟุตบอลวันนี้

บทความก่อนหน้า :: บทความแมนยู