#มหากาพย์ลิเวอร์พูล30ปีแห่งความเจ็บปวด9

#มหากาพย์ลิเวอร์พูล30ปีแห่งความเจ็บปวด9 2011-14 ซัวเรซ ร็อดเจอร์สและเจอร์ราร์ดลื่น

เคนนี่ ดัลกลิชส่งผลต่อทีมและแฟนบอลในทันที เมื่อเขากลับมารับตำแหน่งครั้งที่ 2  วันที่ 8 มกราคม 2011

“เคนนี่รวมแฟนบอลให้เป็นหนึ่งเดียวกัน” คาร์ราเกอร์กล่าว “คิงเคนนี่ มร.ลิเวอร์พูล เทพเจ้าของแฟนบอล เขามีพลังมหัศจรรย์ ส่งผลให้เราผลงานดี ยืนระยะได้ระดับหนึ่ง เขาไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากมาย โดยเฉพาะการฝึกซ้อม แต่เขาคือผู้นำ นักเตะฝากความหวังได้ ไม่เคยหลบอยู่ด้านหลังเวลาเรามีปัญหา”

ฤดูกาล 2010-11 ลิเวอร์พูลจบเป็นอันดับ 6 ไม่น่าแปลกใจที่ FSG ต่อสัญญาถาวรให้ดัลกลิช ฤดูกาลต่อมา 2011-12 ลิเวอร์พูลชนะคาร์ดีฟฟ์ด้วยการยิงจุดโทษ  3-2 (เสมอ 2-2 หลังการต่อเวลา)  คว้าแชมป์ลีก คัพ แชมป์แรกของลิเวอร์พูลในรอบ 6 ปี เข้าชิงเอฟเอ คัพ แต่แพ้เชลซี 2-1

แต่ผลงานย่ำแย่ในพรีเมียร์ ลีก ที่จริงไม่น่าแย่ขนาดนั้น แต่กลับไม่สามารถเก็บชัยชนะเมื่อเจอทีมเล็กๆ ได้ โดยเฉพาะเกมในบ้าน ชนะแค่ 6 นัด เสมอ 9 แพ้ 4 ส่วนเกมเยือน ชนะ 8 เสมอ 1 แพ้ 10 ทีมสะดุดอย่างหนักในครึ่งหลังของฤดูกาล แพ้ 11 จาก 19 นัด จบอันดับ 8 FSG เชิญดัลกลิชไปหารือที่บอสตัน ก่อนฝ่ายบริหารตัดสินใจปลดเขาจากตำแหน่ง

นี่คือฤดูกาลที่จอร์แดน เฮนเดอร์สันย้ายจากซันเดอร์แลนด์ด้วยค่าตัว 16 ล้านปอนด์ สจ๊วร์ต ดาวนิ่งจากแอสตัน วิลล่า  20 ล้านปอนด์ โฆเซ่ เอ็นริเก้จากนิวคาสเซิ่ล 5 ล้านปอนด์ เซบาสเตียน โคเตส จากนาซิองนาล 7 ล้านปอนด์ และชาร์ลี อดัมส์จากแบล็คเบิร์น 6.7 ล้านปอนด์ ยังมีเคร็ก เบลลามี่และโดนี่ ย้ายมาแบบไม่มีค่าตัว ลิเวอร์พูลปล่อยนักเตะออกไปโดยไม่ได้เงินสักเพนนีเดียว ดังนั้นถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่สำหรับเจ้าของทีมที่เพิ่งก้าวสู่สมรภูมิฟุตบอล

ชาร์ลี อดัม มิดฟิลด์สก๊อตติชช็อคกับการปลดดัลกลิช “ผมคิดว่าเขาทำงานได้ดี เขาทำให้สโมสรนิ่ง ท่ามกลางปัญหามากมาย แล้วต้องสู้กับสโมสรที่ทุกอย่างเป็นระเบียบ มีเงินมากมาย เราได้แชมป์ 1 รายการ เข้าชิง 1 รายการ ผลงานในลีกอาจน่าผิดหวัง แต่หลายนัดที่ทีมเล่นดี ผมคิดว่า เคนนี่ไม่ควรโดนปลด และนักเตะส่วนใหญ่คงคิดเช่นเดียวกัน”

คาร์ราเกอร์ มีความเห็นตรงกันข้าม เขาไม่แปลกใจที่ดัลกลิชโดนปลด “ FSG มอบตำแหน่งให้เคนนี่เพราะเขาผลงานดีช่วงรักษาการณ์ ดังนั้นจะปฏิเสธเคนนี่ไม่ได้ แต่ผมไม่คิดว่า FSG มองว่าเคนนี่คือคำตอบในระยะยาว เพราะฉะนั้นเวลาตัดสินใจปลด จึงไม่ใช่เรื่องยากอะไร แต่ผมคิดว่า ก็โหดร้ายเกินไปสำหรับการปลด ผมคิดเช่นนั้นจริงๆ ”

แฟนบอลไม่น้อยเสียใจกับการตัดสินใจดังกล่าว โดยเฉพาะกลุ่มที่ผูกพันและถือว่าดัลกลิชคือฮีโร่ ทีมได้แชมป์แค่รายการเดียวในรอบสองที่เขากลับมา แต่เขาสร้างอะไรไว้มากมาย โดยเฉพาะความมั่นคง เวลาให้เจ้าของทีมหายใจเพื่อวางแผนสำหรับอนาคต ขณะทำการจับทิศทางของฟุตบอลอังกฤษ นอกจากนี้ เขามีส่วนทำให้เสื้อหมายเลข 7 ที่โด่งดัง มียอดนักเตะเข้ามาเป็นขวัญใจแฟนบอลอีกหนึ่งคน

หลุยส์ ซัวเรซ ย้ายมามกราคม 2011 (ฤดูกาล 2010-11) ค่าตัว 22.7 ล้านปอนด์ วันเดียวกับการซื้อแอนดี้ แคร์โรลล์จากนิวคาสเซิ่ลด้วยค่าตัว 35 ล้านอนด์ จากเงินที่ขายเฟร์นันโด ตอร์เรสไปเชลซี 50 ล้านปอนด์

การซื้อ แคร์โรลล์และขายตอร์เรส อาจเป็นการชดเชยความผิดของ FSG แต่ซัวเรซ เขาสร้างอะไรที่แอนฟิลด์มากมาย ดีและไม่ดี ความวุ่นวายและความรู้สึกโรแมนติก ซึ่งลงเอยแบบไม่สุขสมหวัง มีบางเกมที่เขาทำตัวไม่เหมาะสม ทั้งกับสโมสรและฝ่ายตรงข้าม แต่ 3 ปีครึ่งของซัวเรซกับลิเวอร์พูล ปฏิเสธไม่ได้ว่า เขาทำให้แฟนบอลคึกคัก จนมองข้ามความผิดและความไม่ดีทั้งหลายได้

ซัวเรซ โดนแบน 10 นัดโดย เอฟเอ กรณีกัดบรานิสลาฟ อิวาโนวิช (เขาโดนแบนเพราะเหตุนี้ 3 ครั้งในชีวิตนักเตะ) เขาโดนแบน 8 เกม เพราะเหยียญผิวปาทรีซ เอฟร่าของแมนฯ ยูฯ เมื่อตุลาคม 2011 นักเตะลิเวอร์พูลแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกัน เชื่อในความบริสุทธิ์ของเพื่อน สวมเสื้อแสดงการสนับสนุนซัวเรซก่อนเกม ลิเวอร์พูลให้การสนับสนุนซัวเรซอย่างเต็มที่ เมื่อซัวเรซพ้นโทษแบน ภาพเอฟร่าไม่จับมือเขาก่อนเกมที่โอลด์ แทรฟเฟิร์ดยังอยู่ในความทรงจำของแฟนบอล ลิเวอร์พูลและดัลกลิช ขอโทษต่อสาธารณชน แต่ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์สโมสร ความรู้สึกของเอฟร่า และการต่อสู้เพื่อการเหยียดผิวที่วงการฟุตบอลพยายามมายาวนาน

หน้าร้อนปี 2013 ซัวเรซพยายามขอย้ายทีมไปอาร์เซน่อล ด้วยเหตุผลว่า อยากเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก (ลิเวอร์พูลไม่ได้เล่นรายการนี้ ตั้งแต่ปี 2009 แต่เจอร์ราร์ดและร็อดเจอร์สเหนี่ยวรั้งเขาไว้กับทีม ฤดูกาลต่อมา (2013-14) ซัวเรซผลงานดีมาก ยิงได้ 31 ประตูจาก 33  เกมในลีก  ด้วยฟอร์มที่ต่อเนื่อง  หิวกระหาย ไม่มีใครต่อกรได้ ฉุดให้ทีมก้าวถึงระดับที่ไม่มีใครคาดคิด

“ซัวเรซเป็นนักเตะที่เหลือเชื่อมาก” โฆเซ่ เอ็นริเก้ ที่ย้ายจากนิวคาสเซิ่ลเมื่อปี 2011 กล่าว “เขาทำให้เราชนะด้วยลำพังคนเดียว เราอาจเล่นห่วยๆ แต่รู้ว่า เปิดบอลยาวลูกเดียวข้ามกองหลังไป เดี๋ยวซัวเรซก็ยิงได้ แม้กระทั่งทีมชุดปัจจุบันที่ยอดเยี่ยม ผมเชื่อว่า ซัวเรซเป็นนักเตะลิเวอร์พูลที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็น สตีเว่น เจอร์ราร์ด อาจอยู่คนระดับกับซัวเรซ แต่ผมไม่ไดเล่นกับสตีวี่ตอนที่เขาพีค”

เจอร์ราร์ดบาดเจ็บโคนขาหนีบและข้อเท้าอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เขามีโอกาสเล่นแค่ 5 นัดใน 9 เดือนของปี 2011 การเล่นแบบเหนือมนุษย์ของเจอร์ราร์ดตลอดหลายปีที่ผ่านมา ส่งผลต่อร่างกายเขาอย่างรุนแรง รวมถึงจิตใจได้รับผลกระทบไม่น้อย เขาไม่อาจแน่ใจว่า จะมีโอกาสเล่นฟุตบอลได้อีกนานแค่ไหน

ตลอดเวลาที่อยู่ข้างสนาม เจอร์ราร์ดรับการผ่าตัด รับการบำบัดจิตใจ ฟื้นฟูร่างกายโดยนักกายภาพ ครอบครัวและเพื่อน เขากลับมาสู่ทีมลิเวอร์พูล แต่นั่นไม่ใช่ลิเวอร์พูลที่เขาคุ้นเคยอีกแล้ว พวกเขาได้แชมป์ลีก คัพ 2012 แต่ลิเวอร์พูลไม่ใช่บิ๊กโฟร์อีกต่อไปในเรื่องอันดับ ไม่ใช่ทีมระดับแชมเปี้ยนส์ ลีก นักเตะแต่ละคนที่เข้ามา ไม่ใช้จิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายเพื่อทำให้ทีมให้สมบูรณ์ ชนะเลิศลีก คัพ 2012 แชมป์แรกใน 6 ปี แต่เป้าหมายที่ใหญ่กว่านั้น ช่างห่างไกลเหลือเกิน กันยายน 2012 อายุ 32 ปี เขาสารภาพว่า ต้องยอมรับความจริง โอกาสคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีกกับทีมหมดลงแล้ว

เคนนี่ ดัลกลิชส่งผลต่อทีมและแฟนบอลในทันที เมื่อเขากลับมารับตำแหน่งครั้งที่ 2  วันที่ 8 มกราคม 2011

1 มิถุนายน 2012 ลิเวอร์พูลประกาศแต่งตั้งแบรนดอน ร็อดเจอร์ส เป็นผจก. ทีมหลังการปลดเคนนี่ ดัลกลิช สองสัปดาห์

เบรนดอน ร็อดเจอร์ส อายุมากกว่าเจอร์ราร์ด 7 ปี เข้ามาแทนที่เคนนี่ ดัลกลิชในตำแหน่ง ผจก. หลังจากผลงานยอดเยี่ยมกับสวอนซี โดย FSG เลือกเขาเพื่อสร้างฐานระยะยาว เจ้าของทีมประทับใจความมุ่งมั่น วิธีการสมัยใหม่ การเล่นแบบใหม่กับลิเวอร์พูล ซึ่งเขาบอกว่า ไม่มีทางแก้ปัญหาที่หมักหมมในเวลาอันสั้น ก็น่าจะเป็นแบบนั้น พวกเขาชนะแค่ 2 จาก 11 นัดแรกในพรีเมียร์ ลีกกับร็อดเจอร์ส หนทางสู่ความสำเร็จช่างยาวไกลเหลือเกิน

ไม่ชนะเลย 5 นัดแรก แพ้เวสต์บรอม  เสมอ เสมอแมนฯ ซิตี้ แพ้อาร์เซน่อล เสมอซันเดอร์แลนด์ แพ้แมนฯ ยูฯ ก่อนชนะที่แคร์โรว์ โร้ดของนอริช 5-0 ต่อด้วยการเสมอสโต๊ค ชนะเร้ดดิ้ง และเสมอ 3 รวดกับเอฟเวอร์ตัน นิวคาสเซิ่ลและเชลซีนั่นคือ 11 เกมแรกระหว่างลิเวอร์พูลกับร็อดเจอร์ส

อย่างไรก็ตาม หลังจากเริ่มต้นแบบไม่ดี ร็อดเจอร์สและลิเวอร์พูล เริ่มพบทางสว่าง ความเฉียบขาดของซัวเรซ และการมาของฟิลิปเป้ คูตินโญ่ จากอินเตอร์ มิลาน (30 มกราคม 2013) และแดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์จากเชลซี (2 มกราคม) ค่าตัวรวมกัน 20.5 ล้านปอนด์ คือปัจจัยสำคัญเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ ยังมีราฮีม สเตอร์ลิง ซึ่งร็อดเจอร์สกล้าให้โอกาสลงเล่นนัดแรกตั้งแต่อายุ 17 ปี ร็อดเจอร์สปรับบทบาทของเจอร์ราร์ด เล่นต่ำกว่าเดิม ให้จอร์แดน เฮนเดอร์สันทำงานหนักแทน

ลิเวอร์พูลจบด้วยอันดับที่ 7 ในฤดูกาล 2012-13 ห่างแมนฯ ยูฯ ที่เป็นแชมป์ 28 คะแนน  แต่ฟอร์มดีในครึ่งหลังของฤดูกาล ทำให้แฟนบอลเริ่มมีหวัง “การซ้อมกับร็อดเจอร์สเป็นการซ้อมดีที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอตลอดการเล่นฟุตบอล” เอ็นริเก้พูดถึงวิธีการของร็อดเจอร์ส “เข้มข้น จริงจัง การใช้ลูกบอล การซ้อมแต่ละช่วงแตกต่างไป ทำให้นักเตะพัฒนาขึ้นมาก”

“ขณะเดียวกัน ตำแหน่งผจก.ลิเวอร์พูลอาจเร็วเกินไปสำหรับร็อดเจอร์ส ในเรื่องความรู้และความเป็นผู้ใหญ่ แต่ผมว่าเขาเป็นโค้ชที่เก่งมาก” คาร์ราเกอร์ ที่ตัดสินใจแขวนรองเท้าเมื่อจบฤดูกาล 2012-13 กล่าว “ผมว่าแฟนบอลลิเวอร์พูลบางคนไม่ค่อยแฟร์กับเขา ผมว่า คนไม่รู้หรอกว่าเขาเป็นโค้ชที่เก่งแค่ไหน เขารับมือกับสถานการณ์ของหลุยส์ ซัวเรซอย่างไร เมื่อนักเตะอยากย้ายทีม เบรนดอนสั่งให้ซัวเรซซ้อมกับทีมสำรอง สำหรับโค้ชอายุน้อย อยู่กับสโมสรใหญ่ขนาดนี้ ถือว่าเขากล้ามาก”

มีซัวเรซอยู่กับทีม ฤดูกาล 2013-14 มีการชนะแบบน่าประทับใจมากมาย 4-1 4-0 5-1 5-3 4-0 5-1 3-2 4-3 6-3 4-0 และการชนะท็อตแน่ม 4-0 30 มีนาคม ทำให้แอนฟิลด์สั่นสะเทือนลึกจนถึงฐานราก จนถึงเกมที่สุดกดดันกับเวสต์ แฮม  ชนะ 2-1 เมื่อเจอร์ราร์ดยิงจุดโทษ 2 ลูกห้ทีมชนะ เหลือ 5 เกมสุดท้าย เชลซีเริ่มล้า แมนฯ ซิตี้ฟอร์มสะดุด ลิเวอร์พูล กุมชะตากรรมของตัวเองไว้ในกำมือ

13 เมษายน 2014 แมนฯ ซิตี้มาเยือนแอนฟิลด์หลังวันครบรอบ 25 ปีของโศกนาฎกรรมฮิลล์สโบโร่ บรรยากาศวันนี้ระคนด้วยความเศร้าและกระตุ้นความรู้สึกยิ่งนัก สำหรับเจอร์ราร์ด ญาติของเขา จอน พอล กิลฮูลี่ย์ เสียชีวิต ขณะอายุ 10 ขวบ ผู้โชคร้ายซี่งอายุน้อยที่สุดจากเหตุการณ์ที่ฮิลล์สโบโร่  ลิเวอร์พูลชนะ 3-2 ด้วยประตูท้ายเกมของคูตินโญ่ (นาที 78)  เจอร์ราร์ดกระตุ้นลูกทีมในสนาม ล้อมวงนักเตะเข้ามา “จากนี้ ห้ามพลาดเด็ดขาด” เขากำชับลูกทีม

ลิเวอร์พูลชนะที่แคร์โรว์โร้ดของนอริช 3-2  อีก ไม่มีอะไรเข้าทางลิเวอร์พูลโดยง่าย หลังจากชนะมา 11 นัดรวด พวกเขาต้องการ 7 แต้มจาก 3 เกมสุดท้ายเพื่อเป็นแชมป์ เริ่มจาก เชลซีของมูรินโญ่ที่แอนฟิลด์

และเจอร์ราร์ดลื่น นาทีที่ 3 ของการทดเวลาเจ็บครึ่งแรก  เขาไม่อาจช่วยอะไรทีมได้ เมื่อเดมบ้า บา ฉกบอลไปยิงประตูให้เชลซีนำ 1-0

คาร์รากอร์เป็นหนึ่งในผู้ชมที่แอนฟิลด์ เขารีบดิ่งลงไปยังห้องนักเตะ ให้ถึงตรงนั้นก่อนพักครึ่ง “ตรงนั้น มีภาพช้า นั่นคือครั้งแรกที่ผมเห็น ผมเสียใจแทนเจอร์ราร์ดเป็นอย่างมาก”

วินาทีนั้น เมฆบางเบาที่หนุนลิเวอร์พูลล่องลอยเหนือความฝัน มาหลายเดือน ปลิวหายไปสิ้น ความเชื่อมั่นพลันหมดไป วิลเลี่ยนยิงประตูที่สองให้เชลซีก่อนหมดเวลา ยิ่งตอกย้ำความพ่ายแพ้ด้านจิตวิทยา เจอร์ราร์ดเปิดเผยให้หนังสือของเขาว่า “ผมพยายามดิ้นรนเต็มที่ พยายามแก้ไขความผิดพลาดของผม”

เขาอายุ 9 ขวบ ตอนอยู่อาแคเดอมี่ของลิเวอร์พูล นั่นคือครั้งสุดท้ายที่ทีมได้แชมป์ลีก ผ่านมา 24 ปี โดยเขาเป็นนักเตะทีมชุดใหญ่มา 15 ฤดูกาลจากช่วงเวลาดังกล่าว เคยมีความสำเร็จ เคยมีเรื่องผิดหวัง สำหรับเด็กลิเวอร์พูลที่แบกความหวังครึ่งหนึ่งของเมืองไว้บนบ่าทั้งสองข้าง ดูเหมือนว่า เขาจะปลดเปลื้องภาระนั้นในในฤดูกาลนี้ พลันทุกอย่างสลายไป คืนนั้น เขาร้องไห้ระหว่างทางกลับบ้าน ยังเหลืออีก 2 เกม 6 แต้ม แต่ลึกๆ เขารู้ว่า มันจบแล้ว แมนฯ ซิตี้ไม่มีทางพลาด และพวกเขาทำเช่นนั้น

ตารางสัปดาห์สุดท้ายของฤดูกาล 2013-14 แมนฯ ซิตี้ 86 ลิเวอร์พูล 84

“ผมสงสาร เศร้าไปกับเจอร์ราร์ด” คาร์ราเกอร์พูด “ไม่เพราะเขาเป็นเพื่อนผม แต่เพราะทุกอย่างที่เขาสร้างมากับลิเวอร์พูล ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นัดชิงที่คาร์ดีฟฟ์ อิสตันบูล เราไม่มีทางได้แชมป์เหล่านั้น หากไม่มีสตีวี่ เขาเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราได้แชมป์ ถ้าจะมีใครสักคนที่พลาด ผมได้แต่ปรารถนาว่า อย่าเป็นสตีวี่เลย”

 

“ผมยังเศร้าอยู่เลย เมื่อคิดถึงเรื่องนั้น สงสารสตีวี่” เอ็นริเก้ กล่าว “ผมอยากได้เราได้แชมป์ลีกฤดูกาลนั้น ผมจะมีความสุขมาก หากเจอร์ราร์ดได้แชมป์ เพราะเรารู้ว่ามันมีความหมายกับเขามากแค่ไหน นั่นคือถ้วยเดียวที่เขาไม่ได้ตอนอยู่กับลิเวอร์พูล แต่เราไม่ได้พลาดแชมป์ลีกเพราะสตีวี่นะ ผมหวังว่าเขาจะรู้เรื่องนี้”

ปัจจุบัน เจอร์ราร์ด เป็นผจก. กลาสโกว์ เรนเจอร์ส ยอมรับว่า ไม่มีทางลืมเหตุการณ์ดังกล่าว “ผมต้องอยู่กับความผิดหวังตลอดไป ผมคิดว่า ไม่มีวันที่ผมจะลืมมันได้ มันไม่มีทางไปจากผม”

 

บทความโดย  :: กิตติกร อุดมผล

อ่านข่าวฟุตบอลต่างประเทศ :: ข่าวฟุตบอลวันนี้

บทความฟุตบอล :: บทความฟุตบอลก่อนหน้านี้

เว็บดูบอลออนไลน์ :: ดูบอลออนไลน์ฟรี