#มหากาพย์ลิเวอร์พูล30ปีแห่งความเจ็บปวด7

#มหากาพย์ลิเวอร์พูล30ปีแห่งความเจ็บปวด7

#2009-2011 นกฟีนิกซ์ฟื้นจากขุมนรก

ต้นฤดูกาล 2009-10 เฟอร์กูสันทิ้งระเบิดลูกโตใส่แอนฟิลด์ สงครามจิตวิทยาครั้งสำคัญด้วยการกล่าวว่า “ลิเวอร์พูลสร้างผลงานดีที่สุดในรอบเกือบ 20 ปี เก็บไป 86 คะแนน แต่ยังห่างเรา 4 คะแนน แค่ทำให้ดีเท่าเดิมก็ยากแล้ว อย่าเพิ่งคิดว่า จะทำให้ดีกว่านั้นเลย แต่ทีมอื่นคงคิดว่า ลิเวอร์พูลต้องทำได้ดีขึ้นอย่างแน่นอน”

หลายคนคิดว่า สิ่งที่เซอร์อเล็กซ์พูดเป็นเรื่องตลก ลิเวอร์พูลมีแต่จะดีขึ้น พวกเขาต้องต่อยอดสิ่งที่ราฟาเอล เบนิเตซสร้างไว้

คำพูดของเซอร์อเล็กซ์เป็นจริง ทีมด้อยคุณภาพลงเพราะขายชาบี้ อลองโซ่ให้เรอัล มาดริดในหน้าร้อน ลิเวอร์พูลแพ้ 2/3  เกมแรกของฤดูกาล(แพ้ท็อตแน่ม 1-2 (ย)  แพ้แอสตัน วิล่า 0-4(ห)  และแพ้ 5 จาก 11 เกมแรก ตกรอบแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ ลีก ตลอดฤดูกาลมีแต่ความตึงเครียดระหว่างฝ่ายบริหาร (ยิ่งเครียดกว่าเดิม เพราะเบนิเตซให้ข่าวแสดงความไม่พอใจเรื่องนี้ตลอดเวลา) ปัญหาใหญ่คือ ลิเวอร์พูลจะหาเงินจากไหนมาจ่ายค่าดอกเบี้ย หากไม่ได้สิทธิ์เล่นแชมเปี้ยนส์ ลีกในฤดูกาลหน้า

แฟนบอลประท้วง ฮิคส์และจิลเล็ตต์ ก่อนและหลังเกมบ่อยครั้ง คนที่ทำงานกับสโมสรเล่าถึงความแตกแยกในหมู่คณะกรรมการบริหาร เจ้าหน้าที่และนักเตะ “ภายในสโมสรเละเทะ จับไปตรงไหนก็เน่า ต่างคนต่างแบ่งฝักแบ่งฝ่าย แม้แต่พนักงานที่อยู่กับทีมมา 30 ปี ก็ไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียว ถามกันว่า ใครอยู่ฝั่งไหน”

เบนิเตซ คือหนังหน้าไฟ “ผมเคยไมพอใจราฟา เวลาเขาวิจารณ์เจ้าของทีมระหว่างแถลงข่าว” คาร์ราเกอร์พูด “เห็นชัดๆ นักเตะไม่พอใจเจ้าของทีม และผจก. ก็ไม่เห็นด้วย ผมรู้ว่าราฟาผิดหวังกับหลายเรื่อง และทุกอย่างกลายเป็นเรื่องสำคัญกว่าฟุตบอล มักมีปัญหาใหม่ทุกสัปดาห์”

“บางที ผมควรต่อสู้มากกว่านี้ เราปล่อยให้เจ้าของทีมลอยนวล ทำอะไรตามอำเภอใจ ปัญหาด้านการเงินที่พวกเขาก่อขึ้น การบริหารสโมสรที่ห่วยแตก พวกเขาสนับสนุนราฟาในช่วงแรก แต่จากนั้นพวกเขามีปัญหาด้านการเงิน กู้ใครไม่ได้อีก ต้องปรับตัวเพื่อการอยู่รอด ไม่สนใจว่าลิเวอร์พูลจะเป็นอย่างไรแม้แต่น้อย อยากบอกว่า ผมเกลียดที่จะพูดแบบนี้ เหมือนเป็นคำแก้ตัวหลังจากเราผลงานไม่ดี แมนฯ ยูฯ ก็มีพวกเกลเซอร์สนะ จริงไหม สำหรับผม เล่นให้ลิเวอร์พูล ผมคิดตลอดว่า ทุ่มเททุกอย่าง สมาธิ พลัง เก็บชัยชนะให้ได้ อย่าสนใจเรื่องอื่นนอกสนาม”

“แต่เจ้าของทีมจำเป็นต้องซื้อนักเตะ แต่พวกเขาไม่ทำ เราเสียชาบี้ ซึ่งกระทบมาก เราซื้ออาควิลานี่ ซี่งบาดเจ็บ เกล็น จอห์นสัน การซ้อมพรีซีซั่นไม่ดีเลย คนนอกยังรู้เลยว่า สโมสรมีปัญหาอยู่ภายใน กว่าทุกคนจะรู้ตัว ทีมก็แพ้ 2 จาก 3  นัดแรก ทุกอย่างเละไปหมด น่าเศร้ามาก”

ลิเวอร์พูลจบด้วยอันดับ 7 ในพรีเมียร์ ลีก มาสเคราโน่ เจอร์ราร์ด และตอร์เรส ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี หาทางย้ายหรืออยู่กับลิเวอร์พูล เพราะทุกอย่างน่าจะดิ่งลงเหวมากกว่านี้ เบนิเตซไม่มีทางเลือก เขาถูกยกเลิกสัญญา และสโมสรออกข่าวว่า เป็นการยินยอมด้วยกันจากสองฝ่าย  แต่เรียกว่า ยกเลิกเพราะเกลียดกันจะดีกว่า หากพิจารณาถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับบอร์ด บรรยากาศที่เมอร์ซี่ย์ไซด์ถูกปกคลุมด้วยความมืด 20 ปี หลังทีมคว้าแชมป์ลีก ครั้งสุดท้าย ท่ามกลางปัญหาด้านการเงินและเจ้าของ ลิเวอร์พูลน่าจะตกต่ำยิ่งกว่านี้ หาอนาคตไม่เจอ

ต้นฤดูกาล 2010-11 ชาร์ลี อดัมช่วยให้แบล็คพูล ทีมนอกสายจาชนะ ลิเวอร์พูลที่แอนฟิลด์ 2-1 เมื่อ3 ตุลาคม ส่งผลให้ลิเวอร์พูลของรอย  ฮ็อดจ์สันอยู่ในโซนตกชั้น นี่คือการเริ่มต้นที่แย่สุดๆของผจก. คนใหม่ ช่วงท้ายเกม เดอะ ค็อปเริ่มโหยหาผู้ปลดปล่อย เสียงเรียกถึง อัศวินในใจของพวกเขา เคนนี่ ดัลกลิช

บรรยากาศหลังเกมคือสิ่งที่อดัมจดจำได้ “มีการประท้วงครั้งใหญ่ แฟนบอลตะโกนต่อต้านเจ้าของทีม” อดีตมิดฟิลด์แบล็คพูลกล่าว ปีต่อมา เขาย้ายมาอยู่ลิเวอร์พูล “มองไปทางไหนก็มีปัญหา ขนาดนักเตะฝั่งตรงข้ามยังมองออก”

นีล วอร์น็อค ย้ายไปแอสตัน วิลล่า ก็สัมผัสได้ “ทุกอย่างที่ลิเวอร์พูลไม่เหมือนเดิม ในแต่ละครั้งที่ผมกลับมาแอนฟิลด์ หลังฉากเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เละเทะตลอด2-3  ปีที่ผ่านมา”

ทีมที่ไล่กดดันแมนฯ ยูฯ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาล่มสลาย อลองโซ่และมาสเคราโน่ย้ายไปมาดริดและบาร์เซโลน่าโดยลำดับ แอกเกอร์ เจอร์ราร์ดและตอร์เรสมีปัญหาด้านความฟิต ขณะสโมสรเจอปัญหาการเงินรุมเร้าแบบสุดๆ ฮ็อดจ์สันได้แต่นักเตะราคาถูก คริสเตียน ฌพลเซ่น และพอล คอนเชสกี้ นักเตะไม่มีค่าตัว โจ โคลและมิลาน โจวาโนวิช ซี่งล้มเหลวไม่เป็นท่า โจ โคลพยายามอยู่บ้าง เพื่อแสดงให้เห็นว่า ร่างกายสมบูรณ์ ไม่บาดเจ็บ แต่โดนใบแดงตั้งแต่นัดแรก และจากนั้น เขาไม่เคยทำอะไรได้ดีกับลิเวอร์พูล “ลิเวอร์พูลคือทีมที่เหมาะกับผม แต่ผมมาอยู่ผิดเวลา” เขาบอกแบบนั้น

ฮ็อดจ์สันอาจรู้สึกเช่นนั้น เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ต่างๆที่เขาเผชิญอยู่ทุกวัน เขาทำงานได้แค่ครึ่งฤดูกาล เขาอาจไม่ใช่ ผจก. ลิเวอร์พูลคนแรกที่ให้ความสำคัญกับเกมรับไว้ก่อน เกมแบบเซฟตี้ เฟิร์สต์

แต่เราคงไม่นึกไม่ออกว่า ต่อให้อุลลิเยร์หรือเบนิเตซพยายามตั้งรับ ลิเวอร์พูลก็ไม่ใช่ทีมที่ครองบอลแค่ 36 % ในเกมที่แพ้สโต๊คของโทนี่ พิวลิส ภายใต้การคุมทีมของฮ็อดจ์สัน ลิเวอร์พูลล่อแหลมต่อการตกชั้น ต้องอับอายด้วยการแพ้นอร์แธมป์ตัน ตกรอบลีก คัพ ความสัมพันธ์ระหว่างฮ็อดจ์สันและแฟนบอลขาดสะบั้น ทุกคนเชื่อว่า เคนนี่ ดัลกลิชเท่านั้นจะช่วยได้ ตลอดประวัติศาสตร์ของสโมสร ลิเวอร์พูลมีผจก.ที่หลากหลาย แต่ฮ็อดจ์สันไม่เหมาะกับทีมนี้จริงๆ

“รอย ฮ็อดจ์สัน คือผจก.คนแรกที่ผมสามารถบอกได้ว่า ไม่เหมาะกับทีมจริงๆ” คาร์ราเกอร์ยอมรับ “เขาเป็น ผจก. ที่ดีแต่เมื่อมาลิเวอร์พูล เขาให้ทีมลงเล่นโดยกลัวว่าพวกเราจะแพ้ก่อนเป็นอันดันแรก โห สโมสรระดับท็อปขนาดนี้ คุณคิดแบบนั้นไม่ได้ จะปล่อยให้ทีมมีหน้าตาแบบนั้นได้อย่างไร”

“เขาบอกแฟนบอลตลอดเวลาว่า เราต้องกอบกู้สถานการณ์ เราจะกลับมายิ่งใหญ่ แต่คุณต้องทำแบบนั้นจริงๆ ตอนรอยคุมทีม ผมคิดว่า อย่าพูดแบบนั้นดีกว่า เขาไม่จะเก่งพอที่จะช่วยเรา เขาเป็นอังกฤษ ซึ่งอาจดูน่าเบื่อ และไม่มีรัศมีแห่งผู้ยิ่งใหญ่ พลังวิเศษที่คอยช่วยเขาเลย”

 

“ฮ็อดจ์สันกับเจ้าของทีมคือต้นตอของปัญหาในสายตาของแฟนบอล แต่เราเองก็แย่ด้วย ตั้งแต่ต้นฤดูกาล ต่อให่ทีมที่เรามีแย่ขนาดไหน เราก็ไม่ควรแพ้แบล็คพูลในบ้าน ไม่ใช่ความผิดของผจก. แม้แต่น้อย เราเล่นแย่มากวันนั้น ผมคิดว่า นักเตะยุครอย ฮ็อดจ์สัน เล่นไม่ดีเลย แต่ละคนคิดว่า ต่อให้แพ้ คนที่จะโดนด่าคือผจก. หรือไม่ก็เจ้าของทีม ต่อให้นักเตะแย่แค่ไหนก็ตาม”

 

“ผมเสียใจแทนรอย ฮ็อดจ์สัน หากมีใครสาปแช่งเขา ต้องไม่ลืมว่า เขาเคยคุมทีมมาทั่วโลก คุมแม้กระทั่งอินเตอร์ มิลาน ฟูแล่มได้เล่นยูโรป้า ลีกและเข้าชิงเพราะเขาก่อนมาลิเวอร์พูล เขาทำงานดีมากที่ฟูแล่ม เวสต์บรอม และคริสตัล พาเลซ แต่เขาแค่ไม่เหมาะกับลิเวอร์พูลเท่านั้น”

#มหากาพย์ลิเวอร์พูล30ปีแห่งความเจ็บปวด7

สิงหาคม 2010 โจ ยานุสซิวสกี้ รองประธานอาวุโสเฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ้ป FSG อยู่ที่บ้าน ถือขวดนมให้ลูกในอ้อมกอดของเขา พลางดูเกมเบสบอล ระหว่างบอสตัน เร้ด ซอกซ์กับโตรอนโต้ บลู เจย์ส เขาได้รับโทรศัพท์ซึ่งพลิกประวัติศาสตร์สโมสรลิเวอร์พูลที่เขารัก

 

FSG คือเจ้าของทีมเร้ด ซอกซ์ ได้รับการทาบทามจากคนกลุ่มหนึ่งว่า สนใจจะซื้อลิเวอร์พูลหรือไม่ ยานุสซิวสกี้สำหรับ FSG ในอเมริกาคือคนที่บ้าเกมลูกหนัง ซอคเกอร์มาก และจอห์น ดับเบิลยู เฮนรี่ ขอคำปรึกษากับเขาว่า การลงทุนซื้อลิเวอร์พูลเป็นความคิดที่ถูกต้องหรือไม่

 

เขาพยายามอธิบาย แต่อาจไม่ชัดและละเอียดพอ เพราะเสียงแฟนโตรอนโต้ บลู เจย์สในโทรทัศน์กลบทุกอย่างหมด  FSG ขอให้เขาส่งอีเมล์อธิบายทัศนะของเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งเขายินดีเป็นอย่างยิ่ง และอีเมล์นั้นแทบจะเป็นการขอร้องให้ FSG ซื้อลิเวอร์พูลมากกว่าการให้คำปรึกษาทางธุรกิจ

 

เขาบอกว่า ลิเวอร์พูลเคยเป็นหนึ่งในทีมใหญ่สุดของโลก เมื่อมีโอกาสซื้อสโมสร ด้วยราคาถูกแบบนี้ FSG ไม่ควรปล่อยให้หลุดมือไป นอกจากนี้ อเมริกันเริ่มสนใจซอคเกอร์มากขึ้นหลังเวิร์ลด์ คัพ 2010 ลิเวอร์พูลกระเสือกกระสนภายใต้การบริหารของฮิคส์และจิลเล็ตต์ สโมสรต้องการผู้ชุปชีวิต หาก FSG ดำเนินการถูกต้อง มองแง่ดี ทั้งในสนาม และเรื่องสำคัญคือการเงิน รับรองว่า นี่จะเป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่มาก

 

66 วันต่อ FSG เป็นเจ้าของทีมลิเวอร์พูล ข้อเสนอ 476 ล้านเหรียญ ถูกปฏิเสธเลยฮิคส์และจิลเล็ตต์ แต่มาร์ติน โบรตันตอบรับ ในฐานะประธานอิสระรับหน้าที่หาผู้ซื้อสโมสร เพราะธนาคารเจ้าหนี้เตรียมเชือดลิเวอร์พูล ฮิคส์กับจิลเล็ตต์ยื่นขอคุ้มครองจากศาลฎีกาที่ลอนดอน เพื่อยกเลิกการขายดังกล่าว แต่วันที่ 13 ตุลาคม 2010 48 ชั่วโมงก่อนกำหนดเส้นตายชำระหนี้ 237 ล้านปอนด์ให้ รอยัล แบงค์ ออฟ สก๊อตแลนด์ ผู้พิพากษา ฟลอยด์ ประกาศสิ่งที่ฮิคส์และจิลเล็ตต์ไม่ต้องการได้ยิน

 

พวกเขาไม่มีสิทธิ์ขัดขวางการซื้อของ FSG

 

FSG ครอบครองสโมสรที่ตายซาก ต้องการฟื้นฟูอย่างเต็มที่ เกมแรกภายใต้เจ้าของทีมใหม่คือเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้แม็ทช์ ที่กูดิสัน พาร์ค เอฟเวอร์ตันชนะ 2-0 ส่งผลให้ลิเวอร์พูลของฮ็อดจ์สันอยู่ในโซนตกชั้น แฟนบอลเอฟเวอร์ตันคนหนึ่ง ตะโกนหยันจอห์น ดับเบิ้ลยู เฮนรี่ที่ไปชมเกมในไดเรคเตอร์ บ็อกซ์ว่า “จอห์น คุณซื้อผิดสโมสรในลิเวอร์พูล” ผ่านไป 10 ปี นั่นคือการแพ้อริร่วมมือครั้งสุดท้ายของลิเวอร์พูล

 

ลิเวอร์พูลสำหรับ FSG คือการลงทุน ไม่ใช่ของเล่นเศรษฐีหรือคนใจดีมีเมตตา ตั้งแต่วันแรกที่บริหาร FSG มองออกว่า อะไรคือเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับแฟนลิเวอร์พูล

 

เหมือนบอสตัน เร้ด ซอกซ์ทำลายคำสาปแข่งของแบมบิโน่ที่ยาวนาน 86 ปี เมื่อ FSG เข้ามาเป็นเจ้าของ แฟนลิเวอร์พูลหวังลึกๆว่า อาถรรพ์ทั้งหลายที่ครอบงำสโมสรจะถูกทำลายล้าง โดยเวทมนต์ของ FSG  “เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ้ป มีทักษะพิเศษ ที่อเมริกันบอกว่าสามารถทำลายคำสาปแชงได้” เฮนรี่ให้สัมภาษณ์หลังการเทคโอเวอร์ลิเวอร์พูลได้ไม่นาน

 

แต่พวกเขาไม่ไม้กายสิทธิ์ที่จะร่ายเวทมนต์ในพริบตา นั่นเป็นก้าวแรกของ FSG กับกีฬาที่พวกเขาไม่รู้จัก อันดับแรกคือ การเรียนรู้ ด้วยประสบการณ์จากเร้ด ซอกซ์ พวกเขาสรุปว่า เฟนเวย์ พาร์คสำคัญเช่นไรกับเร้ด ซอกซ์ แอนฟิลด์ก็เช่นกันกับลิเวอร์พูล แทนที่จะทุบทิ้ง พวกเขาจะปรับปรุงสนาม ชุปชีวิตขึ้นมาใหม่ อันเป็นการตัดสินที่ได้ใจแฟนบอลลิเวอร์พูล FSG เปิดอัฒจันทร์หลักใหม่ในปี 2016 ขยายอัฒจันทร์ฝั่งแอนฟิลด์ โร้ด และแผนต่อมาคือ เพิ่มความจุสนามเป็น 61,000 ที่นั่งในปี 2023

 

ในสนามฟุตบอล FSG พยายามซื้อเวลา แต่เวลาไม่เข้าข้างพวกเขา ตรงกันข้ามกับฮิคส์และจิลเล็ตต์ เมื่อสองปีก่อน พวกเขาซื้อสโมสรที่คว้าแชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ลิเวอร์พูลที่ FSG ซื้อกำลังล่มสลาย ก่อนพูดถึงความก้าวหน้า สร้างความยิ่งใหญ่ สิ่งแรกที่ต้องทำคือ ทำอย่างไรที่จะคืนชีพสโมสร เยียวยาร่างกายที่กำลังเน่าเปื่อย

 

เมื่อคุมทีมลิเวอร์พูลเป็นคำรอบสอง ห่างจากครั้งแรกเกือบ 1 / 4 ศตวรรษ ดัลกลิชกล่าวว่า เขารู้สึกขอบคุณสโมสร ที่ให้โอกาสเขาชำระหนี้ทางใจที่ติดค้างไว้

 

เขาได้รับการยกย่องว่า เป็นนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร 5 ฤดูกาลเต็มที่คุมทีม เขานำทีมคว้าแชมป์ลีก 3 ครั้ง เอฟเอ คัพ 2 ครั้ง คือผู้นำแสงสว่างให้กับเมืองยามความมืดมิดปกคลุม ความเศร้าโศกจาบัลย์หลังเหตุการณ์ฮิลล์สโบโร่ 1989 ภาระรับผิดชอบและความกดดันเหล่านั้น ถาโถมใส่เขาอย่างไม่ยั้ง นำไปสู่การลาออกเมื่อกุมภาพันธ์ 1991

 

ผ่านไป 2 ทศวรรษ ความยิ่งใหญ่ที่เขาสร้างไว้กลายเป็นซากปรักหักพัง และเขาคิดเสมอว่า ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะเขา

 

ภาระทางจิตใจได้รับการสะสางแล้ว

 

ลิเวอร์พูลห่างโซนตกชั้นแค่ 4 คะแนน เมื่อเขารับตำแหน่งผจก. รักษาการณ์ หลังฮ็อดจ์สันโดนปลดตอนมกราคม 2011 งานแรก ดัลกลิชรู้ดีว่าต้องเรียกความมั่นใจให้นักเตะ ที่ไม่เหลือสภาพอะไร ตอร์เรสไม่อดทนที่จะสัมผัสพลังของดัลกลิช นักเตะสเปนตัดสินใจย้ายไปเชลซีด้วยค่าตัว 50 ล้านปอนด์ ด้วยเหตุผลที่เขาบอกว่า ฝ่ายบริหารผิดคำพูด ลิเวอร์พูลทรยศหลังจากสัญญาบางสิ่งบางอย่างกับเขาเมื่อ 18 เดือนก่อน

นักเตะที่อยู่กับทีมมีความสุข เคาต์กลับมาเป็นนเดิม ราอูล เมอเรเลส และมักซี่ โรดริเกวซ เริ่มปรับตัวได้ ดาวรุ่งอย่างมาร์ติน เคลลี่ จอน ฟลานาแกน และเจย์ สเปียริงเริ่มฉายแวว การซื้อหลุยส์ ซัวเรซ ระหว่างฤดูกาลส่งผลดีต่อทีมอย่างเห็นได้ชัด

บ่ายวันหนึ่งกลางเดือนมีนาคม ลิเวอร์พูลชนะแมนฯ ยูฯ 3-1 ด้วยแฮตทริคของเดิร์ค เคาต์ เดอะ ค็อปร้อง แฮ็ปปี้ เบิร์ธเดย์ให้ดัลกลิช แอนฟิลด์เริ่มมีความสุขอีกครั้ง ไม่ว่าจะในหรือนอกสนาม

 

บทความโดย  :: กิตติกร อุดมผล

อ่านข่าวฟุตบอลต่างประเทศ :: ข่าวฟุตบอลวันนี้

บทความฟุตบอล :: บทความฟุตบอลก่อนหน้านี้

เว็บดูบอลออนไลน์ :: ดูบอลออนไลน์ฟรี