ฟุตบอลขับเคลื่อนเศรษฐกิจท่ามกลางโควิด

พรีเมียร์ ลีก ได้รับผลกระทบจากโคโรน่า ไวรัสรุนแรงมากขึ้น จำนวนนักเตะและสตาฟติดเชื้อเพิ่มขึ้น จนหลายเกมกลางสัปดาห์นี้อาจต้องเลื่อน หรือเดินหน้าสู่การเบรกการแข่งขันชั่วคราว

สุดสัปดาห์นี้ เป็นการแข่งขันเอฟเอ คัพ รอบ 3 ซึ่งทีมพรีเมียร์ ลีกลงแข่งเป็นรอบแรกตามธรรมเนียม

ซี่งปกติสโมสรพรีเมียร์ ลีก ตรวจโควิดนักเตะและสตาฟ สัปดาห์ละ 2 ครั้ง แต่ทีมใน EFL ไม่มีการตรวจด้วยเหตุผลด้านงบประมาณ ซี่งเรื่องนี้เอฟเอ ในฐานะเจ้าภาพจำเป็นต้องจัดงบประมาณตรวจนักเตะและสตาฟ 66 ทีมใน EFL ที่เล่นรอบ 3 ในสัปดาห์นี้

เพราะพรีเมียร์ ลีกก็ไม่ยอมเหมือนกัน ถ้าพวกเขาต้องเล่นโดยไม่สามารถมั่นใจเรื่องความปลอดภัย

ส่วนทีม EFL ที่ไม่ได้เล่น จะต้องตรวจด้วยก่อนลงเล่นเกมลีกของตัวเอง และสัปดาห์หน้าเป็นต้นไป EFL ใช้มาตรการตรวจโควิดสัปดาห์ละ 2 ครั้งเหมือนพรีเมียร์ ลีก ด้วยงบประมาณของสมาคมฟุตบอลอังกฤษ

การตรวจ 3,507 คน ก่อนเอฟเอ คัพรอบ 3 พบผลบวก 112 คน นั่นคือเรื่องที่น่าตกใจยิ่ง

ความจริงรัฐบาลอังกฤษสามารถสั่งให้พรีเมียร์ ลีกและฟุตบอลลีกยุติการแข่งขันได้ เหมือนกีฬารายการอื่นๆ แต่พรีเมียร์ ลีกยืนยันว่า พวกเขามีมาตรการที่ดีพอในการป้องกัน และถ้าพรีเมียร์ ลีก ต้องล็อค ดาวน์จริงๆ สโมสรคงได้รับผลกระทบชนิดทีมเล็กก็อาจอยู่ไม่ได้เหมือนกัน

แม้ทีมพรีเมียร์ ลีกจะมีมาตรการเข้มงวด แต่ดูเหมือนว่ายังมีนักเตะฝ่าฝืนกฏเพื่อความปลอดภัย และจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นพรีเมียร์ ลีกจึงส่งจดหมายเตือนให้สโมสรเคร่งครัดกับเรื่องดังกล่าวมากยิ่งขึ้น

มาตรการบังคับคือ
สนามซ้อม
1 รักษาระยะห่างตลอดเวลา
2 หลีกเลี่ยงการสัมผัสตลอดเวลา
3 จัดระบบเดินแบบทางเดียวภายในอาคาร
4 ลดจุดพบปะในสนาม
5 หากยังไม่มี สโมสรต้องจัดโซนสีแดง เป็นพื้นที่จำกัด เฉพาะผู้เล่นชุดใหญ่และสตาฟเท่านั้น
6 สนับสนุนให้นักเตะและสตาฟทานอาหารนอกพื้นที่สนามซ้อมมากที่สุด
7 ล้างมือเป็นประจำ
8 อุปกรณ์ทุกชิ้นในโรงยิมต้องทำความสะอาดทันที หลังการใช้งานของแต่ละคนเสร็จสิ้น
9 ใช้สนามซ้อมในร่มได้ หากมีระบบระบายอากาศดี และมาตรการรักษาความปลอดภัย
10 งดเว้นบำบัดที่ต้องสัมผัส เช่นการนวด ใช้ได้กรณีสำคัญ ซึ่งสามารถทำได้แค่ 15 นาทีเท่านั้น
11 ห้ามคนนอกเข้าสนามซ้อมของทีมชุดใหญ่โดยเด็ดขาด

การเดินทาง
1 ใช้รถโค้ช 3 คัน เพิ่มจากเดิมใช้แค่ 2 คัน
2 สโมสรต้องตรวจสอบผู้เกี่ยวข้องในการเดินทาง สัมผัสนักเตะ ต้องผ่านการตรวจไวรัสและมีผลเป็นลบ ก่อนขึ้นรถ
3 ต้องอนุญาตให้เจ้าหน้าที่พรีเมียร์ ลีกตรวจรถ รถไฟ เครื่องบินให้ได้มาตรฐานก่อน นักเตะใช้งานทุกครั้ง รวมถึงวันแข่ง

วันแข่งขัน
1 ต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา ยกเว้นนักเตะ หรือสตาฟโค้ชที่ต้องเคลื่อนไหวแบบปัจจุบัน ระหว่างวอร์มอัพ การแข่งขัน ทุกคนบนม้านั่งสำรองต้องสวมหน้ากาก
2 งดเว้นการสัมผัสโดยไม่ตำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระหว่างนักเตะและสตาฟจากสโมสรอื่น
3 เจ้าหน้าที่พรีเมียร์ ลีก มีสิทธิ์เข้าห้องแต่งตัวเพื่อตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัย และทุกพื้นที่ของสนาม เช่น ตรวจว่า ผู้เล่นสำรองมีการรักษาระยะห่างหรือไม่

หากพบว่ามีการฝ่าฝืนหรือทำผิดกฏ จะมีการลงโทษทางวินัย เพียงแต่ไม่ระบุว่าโทษคืออะไร ซี่งเป็นการเปิดกว้างให้ลีกพิจารณาโทษได้ทั้งเป็นบุคคลและระดับสโมสร

การที่ฟุตบอลอาชีพในอังกฤษดำเนินต่อไปได้ เพราะพรีเมียร์ ลีก EFL สโมสรยืนยันกับรัฐบาลว่า มาตรการที่ใช้อยู่รัดกุมดี แต่ถ้าการติดเชื้อเพิ่มขึ้นรัฐบางอาจแทรกแซง

และนั่นคือหายนะทางธุรกิจเลยทีเดียว

ขณะเดียวกัน สตีฟ บรูซ ผจก.นิวคาสเซิ่ล ซึ่งนักเตะเจอผลกระทบเรื่องนี้ อย่างล่าสุดก็เป็นประเด็น อแลง แซงต์ แม็กซิแมง เซลฟี่ในซูเปอร์ มาร์เก็ต ว่าผิดกฏหรือไม่ สโมสรยืนยันว่าแซงต์ แม็กซิแมงไม่ได้ทำผิดระเบียบ

บรูซอยากให้ลีกเลื่อนหรือหยุดพักไปก่อน เพราะมองว่า มันโหดร้ายเกินไปสำหรับการเล่นฟุตบอล ขณะที่การงานอาชีพอื่นๆหยุดพักทั้งหมดเพราะอันตราย แต่นักฟุตบอลต้องเสี่ยงภัยด้วยการลงสนามและทำให้แฟนบอลมีความสุข

การมีฟุตบอลแข่งคือความบันเทิงที่พอจะคลายเครียดช่วงโควิดได้ แต่ถ้าบรูซบอกว่าเสี่ยงเกินไปต้องเลิก ปัญหาใหญ่คงไม่ได้เกิดกับแฟนบอลอย่างเดียว แต่สโมสรนั่นแหละรับไปเต็มๆ ค่าเสียหายต่างๆ โดยเฉพาะลิขสิทธิ์ นักเตะ สตาฟ หรือแม้แต่บรูซซี่เองก็อาจโดนลดเงินเดือน เพราะสโมสรไม่มีเงิน

ดังนั้นก่อนจะเรียกร้องอะไรบางทีสตีฟ บรูซ ควรมองให้รอบด้านก่อนจะดีกว่า

ที่สำคัญนักเตะ สตาฟ สโมสรต้องมีวินัยมากขึ้นถึงจะลดจำนวนผู้ตัดเชื้อได้

กิตติกร อุดมผล

 

อ่านข่าวฟุตบอลต่างประเทศ :: ข่าวฟุตบอลวันนี้

บทความฟุตบอล :: บทความฟุตบอลก่อนหน้านี้

เว็บดูบอลออนไลน์ :: ดูบอลออนไลน์ฟรี