อเเรย์ คลีเมนซ์ ประตูที่สุดตลอดกาลของ LFC

“ผมไม่มีตำแหน่งลง ผมไม่อยากเป็นผู้รักษาประตู แต่ครูพละสั่งให้ผมไปเล่นตรงนั้น

“ผมไม่มีตำแหน่งลง ผมไม่อยากเป็นผู้รักษาประตู แต่ครูพละสั่งให้ผมไปเล่นตรงนั้น

ผมยืนหน้าประตูและทุกอย่างลงตัว”เรย์ คลีเมนซ์ ที่แฟนบอลรุ่นใหญ่ของไทยคุ้นเคย

“ผมไม่มีตำแหน่งลง ผมไม่อยากเป็นผู้รักษาประตู แต่ครูพละสั่งให้ผมไปเล่นตรงนั้น

(ไคลเมนซ์ถ้าจะออกเสียงให้ตรง) เล่าจุดเริ่มต้นของการเป็นผู้รักษาประตูให้ทีมโรงเรียนมัธยมลัมลี่ย์

 

จากเด็กที่อยากเป็นกองหน้าและกองหลัง แต่ลงเอยที่ตำแหน่งซี่งไม่อยากเล่น กลับเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความยิ่งใหญ่ และทำให้หลายคนชื่นชอบลิเวอร์พูล รวมถึงผม

 

ชีวิตคนเราไม่แน่ไม่นอน15  พฤศจิกายน รอน ยีตส์ อดีตกัปตันทีมและกองหลังระดับตำนานคนหนึ่งฉลองวันเกิดปีที่ 83 กลับเป็นวันสุดท้ายที่เรย์ คลีเมนซ์ ผู้รักษาประตูและนักเตะคนแรกๆในดวงใจของหลายคนจากลาด้วยวัย 72 ปี

 

คลีเมนซ์เกิดที่สเค็กเนสส์ ลินคอนเชียร์เมื่อ 5 สิงหาคม 1948 พลาดหวังที่จะเล่นฟุตบอลกับน็อตต์ เคาน์ตี้ ก่อนเซ็นสัญญากับสคันโธร์ปด้วยวัย 17 ปี (1965) ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เคยโดนยิง 7 ประตูในเกมกับกริมสบี้ ทาวน์ แต่ผลงานของเขาดึงดูดใจบิลล์ แชงค์ลี่ย์ให้ไปดูการแข่งขันเมื่อปี 1967 ซึ่งสคันโธร์ปแพ้ดอนคาสเตอร์ 3-0 แทนที่จะได้เห็นลีลาเหนือดุจเทวดา คลีเมนซ์พลาดทำให้ทีมเสียถึง 2 ประตู

 

“ผมบอกพ่อแม่ว่า โอกาสำคัญลอยหายไปกลางอากาศ” คลีเมนซ์เล่าถึงเกมสุดท้ายของเขากับสคันโธร์ป “หน้าร้อนนั้น ผมได้ค่าจ้างสัปดาห์ละ 11 ปอนด์ ต้องพับเก้าอี้ชายหาดที่สเค็กเนสส์หารายได้เสริม”

 

ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา ขณะทำงานที่หาดสเค็กเนสส์ มีชายคนหนึ่งวิ่งเลิกหลั่กมาหา

 

“แม่โทรไปที่สภาเมือง(ประมาณสำนักงานเทศบาล)  รบกวนให้ส่งคนมาหาผม สคันโธร์ปโทรมาบ้าน พอดีแม่รับสาย เลยรู้ว่าสคันโธร์ปตกลงค่าตัวกับลิเวอร์พูลได้ อยู่ที่ผมยอมย้ายทีมหรือไม่ ชีวิตผมเปลี่ยนในบัดดล ท่ามกลางเก้าอี้ชายหาด”

แชงค์ลี่ย์ตะล่อมว่าทอมมี่ ลอว์เรนซ์น่ะเดี๋ยวก็เลิกเล่นแล้ว (แต่ความจริงลอว์เรนซ์เพิ่งอายุ 27 ปี ในเวลานั้น)  ใน 6 เดือน รับรองว่าเรย์ คลีเมนซ์คือมือหนี่งของลิเวอร์พูลอย่างแน่นอน เป็นเหตุให้คลีเมนซ์ยอมเซ็นสัญญากับลิเวอร์พูล 22 กรกฎาคม 1967 (ก่อนผมเกิดอีก)ค่าตัว 20,000 ปอนด์  (บางสื่อบอกว่า 18,000 ปอนด์)

 

จาก 6 เดือน คลีเมนซ์ต้องรอ 2 ปีครึ่งกว่าจะมีโอกาสลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ลิเวอร์พูลเป็นครั้งแรก ลีก คัพรอบ 3 เจอสวอนซี ทาวน์เมื่อ 25 กันยายน 1968 จบด้วยชัยชนะ 2-0 แต่นั่นไม่ใช่ใบเบิกทางสู่ความยิ่งใหญ่ เพราะคลีเมนซ์ต้องอดทนเป็นตัวสำรองของลอว์เรนซ์อีกจนกระทั่งปี 31 มกราคม 1970 แชงค์ให้เขาเป็นตัวจริงนัดแรกในเกมลีก เจอน็อตติงแฮม ฟอเรสต์ที่ซิตี้ กราวน์ด เจ้าป่าชนะ 1-0

 

ปลายฤดูกาลคลีเมนซ์เริ่มยึดตำแหน่งตัวจริงจากลอว์เรนซ์ได้ แล้วเริ่มเป็นมือหนึ่งเต็มตัวในฤดูกาล 1970-71

สมัยผมเด็กๆ เรย์ คลีเมนซ์คือฮีโร่ของหลายคน ยุค 70  ปลายๆต่อต้น 80 ผมว่าไม่มีผู้รักษาประตูคนไหนลีลาโดดเด่นกว่าเรย์ คลีเมนซ์อีกแล้ว ผมจำได้ดูไฮไลท์ฟุตบอลดิวิชั่น 1 ทางช่อง 5 พี่โย่งยังพากย์ถึงบรูซ กร็อบเบล่าร์ว่าจะเหนียวเหมือนคลีเมนซ์หรือไม่ เพราะเขาย้ายไปท็อตแน่ม ทำให้ผมติดตามไก่เดือยทองเพิ่มอีกทีมเพราะมีเรย์ คลีเมนซ์เป็นผู้รักษาประตู

 

ไม่มีใครสาเหตุผลที่แท้จริงของการย้ายทีม บางคนบอกว่าคลีเมนซ์กลัวกร็อบเบล่าร์แย่งตำแหน่ง แต่เขาบอกว่า ตลอดชีวิตเจอผู้รักษาประตูมากมาย ลอว์เรนซ์  เลน แม็คดาโนลด์ อ๊อกริโซวิช และกร็อบเบล่าร์ ทุกคนกดดันพร้อมแย่งตำแหน่งจากเขา เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรหากจะอยู่ลิเวอร์พูล

 

คลีเมนซ์เล่นให้ท็อตแน่มตั้งแต่ 1981-88 ซึ่งผมยังคิดว่ายังไงก็เหนียวกว่าบรูซี่อย่างแน่นอน แต่ลิเวอร์พูลตอนนั้นใครเป็นผู้รักษาประตูก็ได้เพราะองค์ประกอบอื่นยอดเยี่ยมเหลือเกิน

 

13 ปีกับลิเวอร์พูล คลีเมนซ์เล่น 665 นัด คว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ 3 สมัย (นัดสุดท้ายที่เล่นให้ลิเวอร์พูลคือนัดชิงยูโรเปี้ยน คัพ 27 พฤษภาคม 1981 ปาร์ก เดส์ แปร็งซ์ กับเรอัล มาดริด) แชมป์ลีก 5 สมัย แชมป์ยูฟ่า คัพ 2 สมัย เอฟเอ คัพและลีก คัพ 1 สมัย 11  ฤดูกาลแรกเขาไม่ได้เล่นแค่ 11 เกมเท่านั้น และเล่นทุกนัด ในฤดูกาล 1978-79 ซึ่งลิเวอร์พูลเสีย 16 ประตู จาก 42  เกม เป็นสถิติดีที่สุดของสโมสร

 

ฤดูกาล 1978/79 บ๊อบ เพสลี่ย์เป็นผจก. ลิเวอร์พูล คลีเมนซ์และกองหลังช่วยกันสร้างประวัติศาสตร์ที่ไม่มีทางถูกทำลายได้

 

ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ลีก ชนะน็อตติงแฮม ฟอเรสต์ 8 คะแนน ยิงประตูมากที่สุดในลีก 85 ลูก เสียแค่ 16 ประตูจากการเล่น 42 นัด ประตูได้บวก 69 ที่สำคัญเขาเสียแค่ 4 ประตูในแอนฟิลด์ คลีเมนซ์ทำคลีนชีตถึง 28 นัดด้วยกัน

 

“วันนี้ เราสูญเสียตำนานตัวจริง” เซอร์เคนนี่ ดัลกลิชทวีตข้อความถึงรุ่นพี่ “เคลมเป็นเพื่อนร่วมทีมที่สุดยอดและยอดเยี่ยมที่ได้อยู่กับเขา ผมจะไม่ลืมวันที่เขาช่วยให้ผมตั้งหลักได้ที่แอนฟิลด์ ขอส่งใจให้ครอบครัวคลีเมนซ์ RIP เคลม” เช่นเดียวกับฟิล ธอมป์สัน ซี่งมีส่วนโรมรันในสนาม ฐานะหนึ่งในกองหลังของลิเวอร์พูล ทวีตว่า “เสียใจกับข่าวการจากไปของเรย์ คลีเมนซ์ เขาคือเพื่อนคนสำคัญ ประตูที่ยอดเยี่ยม เป็นที่รักของเพื่อนและครอบครัวลิเวอร์พูล YNWA”

 

เยอร์เก้น คลอปป์พูดถึงคลีเมนซ์ว่า “แค่ฟังบรรดาตำนานของลิเวอร์พูล คุณจะเข้าใจความสำคัญของเขา พวกเขาพูดได้ดีกว่าผม และอธิบายว่า เรย์ คลีเมนซ์เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้สโมสรของเราเป็นทีมพิเศษหลังจากยุคเขา เขาเป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้ลิเวอร์พูลประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้พวกเราตกอยู่ในความเศร้า แต่รำลึกถึงคุณค่าด้วยความเคารพ”

 

คลีเมนซ์ย้ายจากลิเวอร์พูลไปท็อตแน่มด้วยค่าตัว 300,000 ปอนด์ เมื่อปี 1981 ได้แชมป์ยูฟ่า คัพและเอฟเอ คัพอย่างละครั้งตลอด 7 ปีที่ไวต์ ฮาร์ท เลน ออสซี่ อาร์ดิเลส อดีตเพื่อนร่วมทีมสเปอร์สทวีตว่า “เศร้ามากเมื่อได้ข่าวเรย์มอนโด้จากไป เขาคือประตูผู้ยิ่งใหญ่ คู่ชีวิตมหัศจรรย์ เพื่อน เขาต่อสู่กับการเจ็บปวดอย่างเต็มที่จนวาระสุดท้าย เราจะคิดถึงคุณ ขอให้ไปสู่สคตินะเพื่อน”

 

หลังแขวนถุงมือคลีเมนซ์เป็นสตาฟโค้ชสเปอร์ส ปี 1996  เป็นโค้ชผู้รักษาประตูทีมชาติอังกฤษทำงานกับเกล็นน์ ฮ็อดเดิ้ล เควิน คีแกน สเวน โยรัน อีริคสัน และสตีฟ แม็คลาเร็น ยังเป็นหัวหน้าฝ่ายพัฒนานักเตะของสมาคมฟุตบอลอังกฤษ

 

อีริคสันให้สัมภาษณ์กับสกาย สปอร์ตส์ “ตอนเป็นผู้เล่น เขาเก่งที่สุดคนหนึ่ง ได้ทำงานกับเขาถือว่าสุดยอดมาก ผมขอให้เขาเป็นสตาฟของผมเมื่อคุมทีมชาติอังกฤษ เขามองโลกในแง่ดี มีความสุข อารมณ์ดี เชี่ยวชาญในทุกอย่างที่ทำ”

 

“บางครั้งตอนแรกที่เขาผู้เลือกรักษาประตูทีมชาติ ก็มีน่าสงสัยเหมือนกัน แต่ผมเชื่อว่าเขาตัดสินใจถูกต้อง ผมไว้ใจเขา 110 % เขาคือคนที่ยอดเยี่ยมสำหรับผม ไม่แต่เฉพาะการทำงาน แต่ในชีวิตส่วนตัว เราเป็นเพื่อนสนิทกัน”

เขาติดทีมชาติอังกฤษ 61 นัด (กับลิเวอร์พูล 56 นัด) และน่าจะติดทีมชาติมากกว่านี้ หากไม่มีปีเตอร์ ชิลตัน

 

ผมจำได้พยายามลุ้นให้เรย์ คลีเมนซ์ได้เล่นบ้างในฟุตบอลโลก 1982 ที่สเปน แต่มันก็ไม่เกิดขึ้น เพื่อนผมซี่งเป็นผู้รักษาประตูทีมโรงเรียนบอกว่ายาก เขาเป็นแค่ไม้ประดับของอังกฤษในฟุตบอลโลกคราวนั้น ยากที่ผจก.ทีมจะเปลี่ยนผู้รักษาประตูหากไม่จำเป็นจริงๆ

 

2005 เรย์ คลีเมนซ์ป่วยเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากและต่อมามีเนื้องอกในสมอง ต่อสู้อยู่นานก่อนจะลาลับตามสังขารของมนุษย์ทุกคน

 

บทความโดย  :: กิตติกร อุดมผล.  

อ่านข่าวฟุตบอลต่างประเทศ :: ข่าวฟุตบอลวันนี้

บทความฟุตบอล :: บทความฟุตบอลก่อนหน้านี้

เว็บดูบอลออนไลน์ :: ดูบอลออนไลน์ฟรี