ลิเวอร์พูลจะหนีจากตัวเองได้หรือไม่

ลิเวอร์พูลชนะอาร์เซน่อลที่แอนฟิลด์ 4 เกมติดต่อกันสำหรับศึกพรีเมียร์ ลีก

ลิเวอร์พูลชนะอาร์เซน่อลที่แอนฟิลด์ 4 เกมติดต่อกันสำหรับศึกพรีเมียร์ ลีก

นี่คือช่วงดีที่สุดเหนือทีมปืนใหญ่ของหงส์แดงหลังจากยุค 1981-88

ลิเวอร์พูลชนะอาร์เซน่อลที่แอนฟิลด์ 4 เกมติดต่อกันสำหรับศึกพรีเมียร์ ลีก

ซึ่งลิเวอร์พูลเก็บชัยชนะเหนืออาร์เซน่อลในบ้านได้ 7 เกม

อาร์เซน่อลชนะลิเวอร์พูล 2 เกมติดต่อกัน 2-1 เมื่อกรกฎาคมที่เอมิเรตส์ และล่าสุดในคอมมิวนิตี้ ชิลด์ด้วยการยิงจุดโทษ บวกกับการเริ่มต้นที่ดีสำหรับทีมของมิเคล อาร์เตต้าในฤดูกาลนี้ ทำให้หลายคนคิดว่า อาร์เซน่อลมีโอกาสชนะลิเวอร์พูลในลีกติดต่อกัน 2 เกมเป็นครั้งแรกนับจากปี 2012

ไม่มีผจก. อาร์เซน่อลคนไหนที่ชนะลิเวอร์พูลในครั้งแรกที่เยือนแอนฟิลด์ นับจากทอม วิทเทเกอร์ เมื่อปี 1947 จากนั้น ผจก.ปืนใหญ่ 9 คนล้มเหลว 8 คนกลับออกมาด้วยความพ่ายแพ้

คลอปป์พูดถึงเรื่องนี้เมื่อวันศุกร์ว่า “ชัยชนะทำให้คุณมั่นใจ แต่ข้อมูลก็มีอยู่ทำให้คุณวิเคราะห์เกมได้ถูกต้อง อาร์เซน่อลไม่ได้ถล่มเราและลิเวอร์พูลไม่มีทางสู้ พวกเขารู้ว่านี่คือเกมใหม่ เรารู้นี่คือเกมใหม่ ผลงานจากนัดล่าสุด ซี่งไม่นานนี้เอง เป็นแค่ข้อมูลหนึ่ง และไม่ใช่ข้อมูลเดียว”

“เราต้องการเอาคืน” คลอปป์เสริม “เอาเป็นแบบนี้แล้วกัน นี่คือสิ่งที่เราต้องเจอ แต่มันจะดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับการใช้สถานการณ์นั้นให้เป็นประโยชน์”

แต่สถานการณ์ของฟุตบอลเปลี่ยนแปลงเร็วมาก วันอาทิตย์มีรายงานข่าวว่า ลิเวอร์พูลประสบปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บสองคน อลิซง เบ๊คเกอร์และธิอาโก้ อัลคันทาร่า คลอปป์ชลอการตัดสินใจเรื่องผู้เล่นจนกว่าการซ้อมวันอาทิตย์ตามเวลาที่อังกฤษสิ้นสุดลง

วันศุกร์เช่นกัน นักข่าวพยายามแคะวิธีการเล่นกับอาร์เซน่อลจากคลอปป์ เขาบอกว่า รอดูแล้วกัน มีเวลาซ้อม 2-3 วันสำหรับการรับมืออาร์เซน่อล ผมรู้อยู่แล้วว่าจะเล่นอย่างไร แต่ทำไมผมต้องตัดสินใจตั้งแต่วันนี้ เรามีเวลาจนถึงวันจันทร์นะ ส่วนธิอาโก้ เขามีโอกาสลง เอาแบบนี้ดีกว่า

ธิอาโก้คือ Solution การแก้ปัญหาอย่างเป็ป ไลน์เดอร์ส กล่าวระหว่างการแถลงข่าวคาราบาว คัพเมื่อกลางสัปดาห์ เวลาเจอทีมที่รับลึก ซึ่งสร้างปัญหาให้ลิเวอร์พูลในฤดูกาลที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 9 เกมสุดท้ายซึ่งลิเวอร์พูลผลงานตก หากเทียบเกมก่อนหน้าฤดูกาลต้องเบรกเพราะโควิค-19

อาร์เซน่อลในยุคของมิเคล อาร์เตต้า คือหนึ่งในทีมที่เล่นแบบนั้น

“ผมเครียดทุกครั้งเวลาเราเตะบอลโด่งไปข้างหน้า เพราะยิ่งมันเดินทางเร็วเท่าไร มันจะกลับมาเร็วเท่าเท่านั้น”

การเล่นจากแดนหลังค่อยๆเอาชนะการเพรซซิ่งคือวิธีการที่อาร์เซน่อลยุคอาร์เตต้าทำได้ดีกว่าอูไน เอเมอรี่ เราได้เห็นประสิทธิ์ภาพการเล่นอย่างนี้ในคอมมิวนิตี้ ขิลด์ เมื่ออาร์เซน่อลได้ประตูขึ้นนำขณะลิเวอร์พูลพยายามบดขยี้ อาร์เซน่อลค่อยๆ เล่นจากหน้าประตู หนีการเพรซของลิเวอร์พูล ก่อนโฮลดิ้งให้เบญารินในตำแหน่งแบ๊คขวา เปิดขึ้นหน้าให้ซาก้า แล้วบอลเปลี่ยนทิศทางข้ามมาซ้ายให้โอบาเมยาง นำไปสู่ประตูของอาร์เซน่อล

กับฟูแล่มก็มีลักษณะคล้ายกัน จากหน้าประตู อาร์เซน่อลค่อยๆเลาะริมเส้นด้านขวา เบญาริน เอลเนอนี่ ลากาเซ็ตต์ วิลเลี่ยน บอลข้ามฟากถึงโอบาเมบอง และอาร์เซน่อลได้ประตู

อาร์เตต้ายิ่งระวังมากกว่าเดิมเมื่อศึกษาสถิติต่างๆที่อาร์เซน่อลต้องเจอในแอนฟิลด์ ยุคของคลอปป์ อาร์เซน่อลแพ้ 4 เสมอ 1 เสีย 18 ประตู

อาร์เตต้าไม่เพียงแต่จัดการลิเวอร์พูลสำเร็จ ด้วยการตัดผู้เล่นคนสำคัญของลิเวอร์พูลออกจากเกม โดยเฉพาะโม ซาลาห์ เกมที่เอมิเรตส์นั้น นักเตะอียิปต์สัมผัสบอลเพียง 27 ครั้ง ขณะที่ค่าเฉลี่ยของซาลาห์ตลอดฤดูกาลที่ผ่านมาคือ 43.9 ครั้งต่อ 90 นาที

เขาเริ่มงานด้วยการเล่นกองหลัง 5 คน 5-3-2  ก่อนเปลี่ยนเป็น 3-4-3 เหมือนหลักการของเป็ป กวาดิโอล่า ต่อมาเกมของอาร์เซน่อลพลิกไปตามสถานการณ์ รับและรุก คนละสูตร ไม่ตายตัว

การแบ่งสนามออกเป็นโซนต่างๆ กำหนดจำนวนผู้เล่นในแนวดิ่ง 1  โซนไม่เกิน 2 คน และแนวนอน 1 โซนไม่เกิน 3 คน สังเกตว่า หากมองแนวตั้ง จะไม่มีผู้เล่นอาร์เซน่อล 3 คนอยู่โซนเดียวกัน เช่น เทียร์นี่ย์ แม็ตแลนด์-ไนล์สและโอบาเมยาง แต่จะมีหนึ่งคนขยับเข้าตรงกลาง

พอล เทียร์นี่ย์บอกว่า “คุณต้องรู้ว่ามิดฟิลด์ด้านซ้ายจะอยู่ตรงไหน มิดฟิลด์ตัวกลาง เพื่อเล่นให้เป็นระบบ ทุกคนคิดเหมือนกัน”  นี่คือหลักการของอาร์เตต้า

เมื่อก่อนมีแนวคิดฟุตบอลที่ว่า เปิดลูกไกลๆ เพื่อเล่นสั้น แต่ปัจจุบันทำตรงกันข้ามคือ เล่นสั้นแล้วค่อยยาว การเล่นจากแดนหลังคือการเริ่มเพื่อดึงฝ่ายตรงข้ามให้บีบพื้น ลิเวอร์พูลทำแบบนั้น เช่น เกมเชลซีหรือกับอาร์เซน่อล

“เราต้องหาทางเล่นงานพวกเขา ลิเวอร์พูลเล่นงานทีมอื่นแบบนั้น เสี้ยววินาทีที่คุณคิดว่าสบายล่ะ มีพื้นที่ แต่ฉับพลันคุณโดนพวกเขาเล่นงาน”

คลอปป์มีเรื่องต้องจัดการมากมาย หากอลิซงและธิอาโก้เล่นไม่ได้ ฟาน ไดค์น่าจะยืนเซนเตอร์คู่กับโกเมซ และฟาบินโญ่กลับไปสู่นัมเบอร์ 6 ตามเดิม และจอร์แดน เฮนเดอร์สัน กรณีไม่ฟิต ใครจะเป็นมิดฟิลด์ด้านขวา ในทางกลับกัน หากธิอาโก้เล่นได้ เขาจะจัดการอย่างไร นี่คือสิ่งที่เรายังไม่รู้

“ห้ามยอมแพ้ นี่คือสิ่งสำคัญเวลาเจอลิเวอร์พูล” อาร์เตต้าพูดถึงวิธีเอาชนะลิเวอร์พูล “คุณต้องคิดว่า พวกเขาท็อปฟอร์มเวลาเจอเรา เพื่อดึงสมาธิของเราให้มากขึ้นด้วย สมาธิความตั้งใจสูงขึ้น คุณจะวิ่งเข้าหาบอลทุกลูก นี่คือหัวข้อสำคัญในการเล่นกับลิเวอร์พูล”

ความมุ่งมั่นของลิเวอร์พูลคงไม่น้อยกว่าอาร์เซน่อล และผมเชื่อเมื่ออ่านคำพูดของคลอปป์ข้างต้น เขาเจ็บปวดที่แพ้อาร์เซน่อลในเกมพรีเมียร์ ลีกเมื่อกรกฎาคม ผิดหวังที่ทีมแพ้ทั้งที่เล่นดีกว่า แต่ความผิดพลาดของลูกทีมทำให้อาร์เซน่อลกลับมาสู่เกมก่อนชนะไปในที่สุด

ขณะลิเวอร์พูลครองบอล 69 % มีโอกาสยิง 24 ครั้ง อาร์เซน่อลได้ยิง 3 ครั้ง กลับเป็นอาร์เตต้าที่ได้ 3 คะแนน

จากการเล่นของ 2 ทีม ณ เวลานี้ ลิเวอร์พูลครองบอล เดินหน้าเข้าใส่ อาร์เซน่อลโดนกดให้อยู่ในแดนของตัวเอง หากวิธีแก้การเพรซซิ่ง ครองบอลให้ได้นานที่สุด เพราะถ้าเตะทิ้งเมื่อไร บอลนั้นจะกลับมากดดันพวกเขาทันที แต่ลิเวอร์พูลจะมีการเล่นตายกระนั้นหรือ ฟังเยอร์เก้น คลอปป์ก่อน

“ผมไม่แน่ใจว่า นี่เป็นเรื่องที่ห้ามเปลี่ยนแปลงด้วย ถูกต้อง เรามีเอกลักษณ์ เรายึดมั่นตามนั้น ไม่ผิด แต่ตอนนี้เราเล่นด้วยวิธีการอื่นได้  ทุกทีมปรับตัวเวลาเจอเรา เราก็ปรับตัวเหมือนกัน แต่ปรับในอีกแบบเท่านั้น ผมรู้ว่าเชลซี เวลาเจอเราเล่นเกมรับแตกต่างกับเวลาเจอทีมอื่น นั่นเพราะดูจากผลงานเกมก่อนหน้าชองเรา แต่เวลาพวกเขาได้บอล พวกเขาก็ทำแบบเดิม”

“การป้องกัน เรารู้ว่าพวกเขาพยายามตอบโต้การรุกโดยฟูล-แบ๊คของเรา นี่คือสิ่งที่แฟรงค์พยายามวางหมากเมื่อเจอลิเวอร์พูล”

อาร์เตต้าก็ต้องอ่านใจคลอปป์เช่นกันว่าคืนนี้เขาจะมาไม้ไหน หลังประกาศว่า “ผมรอเอาคืนอยู่นะ”

ปล ลิเวอร์พูลไม่แพ้ที่แอนฟิดล์ในลีกมา 60 เกม สถิติยาวนานที่สุดคือ 63  เกม ถามคลอปป์ คลอปป์บอกไม่รู้จนนกระทั่งมีคนถามนี่แหละ เพราะเกมนี้ สำคัญกว่า 60 เกมที่ผ่านมา

 

 

บทความโดย  :: กิตติกร อุดมผล

อ่านข่าวฟุตบอลต่างประเทศ :: ข่าวฟุตบอลวันนี้

บทความฟุตบอล :: บทความฟุตบอลก่อนหน้านี้

เว็บดูบอลออนไลน์ :: ดูบอลออนไลน์ฟรี