อลิซงยังเป็นอลิซง

บางคนเริ่มคิดว่า อลิซง เบ๊คเกอร์ ฟอร์มตก ไม่มีภาพของแนวสุดท้ายที่เหนียวแน่น

จนไม่มีการยิงครั้งไหนที่อลิซงไม่สามารถเซฟได้

ผิดกับผู้รักษาประตูที่ลิเวอร์พูลจ่ายเงิน 67 ล้านปอนด์ “หากผมรู้ว่าอลิซงเก่งขนาดนี้ ผมคงยอมจ่ายค่าตัวเพิ่มเป็น 2 เท่า” เยอร์เก้น คลอปป์เคยยกย่องอลิซงไว้แบบนี้ หลังการเซฟลูกยิงของอาร์คาดิยูซ มิลิค นักเตะนาโปลีในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีกที่แอนฟิลด์ เมื่อพฤศจิกายน 2018

67 ล้านปอนด์ ฝีมือขนาดนี้ยังไม่ถูกใจเดอะ ค็อปบางส่วน นี่ต้องนึกถึง 71 ล้านปอนด์กับเกป้า อาร์ริซาบาลาก้า

สำหรับผม หลังสิ้นยุคเรย์ ไคลเมนซ์ (Clemence) หากประตูลิเวอร์พูลที่ผมประทับใจด้วยยากเต็มที แต่ละคนมักมีข้อบกพร่อง ไล่ตั้งแต่กร็อบเบลล่าร์ เจมส์ เวสต์เฟลด์ ดูเด็ค เรย์น่า มินโญเล่ต์ คาริอุส ไม่มีใครเทียบอลิซงได้แม้แต่คนเดียว

แชมป์ยุโรป 2019 น่าจะสำคัญต่อคลอปป์และลิเวอร์พูลชุดนี้ เหมือนเอฟเอ คัพ 1990 กับเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันและแมนฯ ยูฯ นำไปสู่ความยิ่งใหญ่ของแมนฯ ยูฯ จนทาบรัศมีลิเวอร์พูลได้สำเร็จ

ลิเวอร์พูลอาจไม่สามารถก้าวมาถึงปัจจุบัน หากไม่มีการเซฟข้างต้น ก็ไม่มีค่ำคืนสุดมหัศจรรย์กับบาร์เซโลน่า ชัยชนะเหนือท็อตแน่มที่มาดริด ไม่มีแชมป์ยุโรป ก็ไม่มีแชมป์ซูเปอร์ คัพ ไม่มีแชมป์สโมสรโลก และอาจไม่มีแชมป์พรีเมียร์ ลีก ครั้งแรกในรอบ 30 ปี

65 ล้านปอนด์เพื่ออลิซงลบรอยรั่วทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากเทียบผลงานกับลอรีส คาริอุสและซิมง มินโญเล่ต์ ซึ่งไม่เคยประสบความสำเร็จในการเข้าชิงยุคของคลอปป์ ตั้งแต่เอฟเอ คัพ ยูโรป้า ลีกและแชมเปี้ยนส์ ลีก

การเสียประตูของลิเวอร์พูลก่อนยุคอลิซง เสียจริงมากกว่า xG หรือ ประตูที่คาดว่าจะเสีย (expected goals) วิธีคำนวน xG คือ ระยะทางที่โดนยิง มุมของจุดยิง (มุมแคบยิงยาก) ประเภทลูกยิง(โหม่งโอกาสเป็นประตูยากกว่ายิงด้วยเท้า) การเพรซของกองหลัง (กองหลังเพรซมาก โอกาสยิงก็น้อย) แต่ยังมีอีกหลายปัจจัย

XG ลิเวอร์พูลคือ 36.6 ในฤดูกาล 15-16 37 ใน 16-17 และ 34.4 ใน 17-18 แต่เสียจริงคือ 50 42 และ 38 โดยฤดูกาล 18-19 ค่า xG ลดต่ำมากเมื่ออลิซงเป็นผู้รักษาประตู อยู่ที่ 30 และเสียจริง 22 ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี จนกระทั่งลิเวอร์พูล ได้แชมป์เมื่อมิถุนายน 2020 xG อยู่ที่ 18.5  เมื่ออลิซงเล่น โดยลิเวอร์พูลเสียจริง 11 ประตูเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม มาตรฐานลิเวอร์พูลใน 7 นัดสุดท้ายตกลง เพราะการคว้าแชมป์ที่รอคอยมายาวนาน รวมกับเกมเปิดฤดูกาล 20-21 กับลีดส์ อลิซงโดนฝ่ายตรงข้ามยิง 25 ครั้ง เสีย 15 ประตู xG อยู่ที่ 10.5 คือเสียมากกว่าที่ควรจะเป็น กลายเป็นอลิซงไม่แตกต่างจากประตูระดับคาริอุส มินโญเล่ต์หรืออาเดรียน

หนึ่งในความผิดพลาดคือ เกมกับอาร์เซน่อลทีเอมิเรตส์เมื่อกรกฎาคม อลิซงพลาดเมื่อรับบอลจากแอนดี้ โรเบิร์ตสัน ส่งผลให้รีสส์ เนลสันฉวยโอกาสยิงให้อาร์เซน่อลขึ้นนำ ก่อนชนะไป 2-1  เกมกับนิวคาสเซิ่ลก็เช่นกัน เมื่อโดนดไวท์ เกล ยิงให้เจ้าถิ่นนำก่อน

เขาควรเซฟลูกยิงของแจ๊ค แฮร์ริสันหรือการยืนตำแหน่งระหว่างเขากับเวอร์จิล ฟาน ไดค์ ก่อนโดนแพททริค แบมเฟิร์ดยิงได้ “น่ากังวลมาก เหมือน 12 เกมที่ผ่านมา ลิเวอร์พูลได้มินโญเล่ต์เป็นผู้รักษาประตู” เจมี่ คาร์ราเกอร์ วิจารณ์ขณะทำหน้าที่ให้สกาย สปอร์ตส์ ก่อนเกมชนะเชลซีเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว “เขาจะกลับมาเหมือนเดิมหรือไม่ ผมก็ไมอยากหวังมากนัก แต่เป็นเรื่องน่ากังวลทีเดียว”

เมื่อจบเกมกับเชลซี ไม่มีใครพูดถึงอลิซง แต่ชื่นชมซาดิโอ มาเน่ ฟาบินโญ่กับตำแหน่งเซนเตอร์ และธิอาโก้กับการทำสถิติในเกมแรก

ผลงานของอลิซงที่สแตมฟอร์ด บริดจ์เป็นอย่างไร

อลิซงเซฟ 3 ครั้ง จากโอกาสยิง 3 ครั้งของเชลซีที่เข้ากรอบในครึ่งหลัง ผ่านบอล 19 ครั้ง ประสบความสำเร็จทั้ง 19 ครั้ง ที่สำคัญ ลิเวอร์พูลไม่เสียประตูเป็นนัดแรกในฤดูกาล และนัดแรกจาก 7เกมล่าสุดในพรีเมียร์ ลีก เกมดังกล่าว อลิซงไม่มีงานหนักอะไรมาก แต่เมื่อต้องทำหน้าที่ เขาไม่เคยพลาด เช่นเดียวกับจุดโทษของจอร์จินโญ่ ผู้ไม่เคยพลาดจุดโทษให้เชลซี

กฎสำหรับผู้รักษาประตูทำให้การเซฟจุดโทษยากกว่าเดิม ห้ามออกนอกเส้นก่อนคนยิงเตะบอล

อลิซงเซฟจุดโทษไม่ได้เลยในคอมมิวนิตี้ ขิลด์ ไม่ว่าจะเป็นกับอาร์เซน่อลหรือแมนฯ ซิตี้เมื่อฤดูกาลก่อน นี่คือจุดโทษแรกที่ประตูลิเวอร์พูลเซฟได้ นับจากคาริอุสเซฟลูกยิงของแฮร์รี่ เคนในเกมเสมอท็อตแน่ม 2-2 ที่แอนฟิลด์ เมื่อกุมภาพันธ์ 2018

ทีมวิเคราะห์ของลิเวอร์พูลให้ข้อมูลว่า จอร์จินโญ่มีลักษณะการยิงคือ กระโดดก่อนแล้วยิง เพื่อรอให้ผู้รักษาประตูขยับ จากนั้นเขายิงไปทิศทางตรงกันข้าม อลิซงเชื่อมั่นในวิธีการ เขารอจนจอร์จินโญ่ยิงแล้วขยับ ซึ่งสามารถปัดบอลได้ แม้จะต้องอาศัยกองหลังช่วยเคลียร์ไปก็ตาม แต่นั่นก็สำคัญ

“ผมว่า ในพรีเมียร์ ลีก ผมมีโอกาสเซฟจุดโทษ 3 ครั้ง” อลิซงให้สัมภาษณ์ “ผมดีใจมาก หลังเซฟไม่ได้เลยในคอมมิวนิตี้ ชิลด์ เวลายิงจุดโทษเพื่อตัดสินเกม ผู้รักษาประตูต้องเซฟให้ได้บ้าง ผมก็ผิดหวังที่ทำไม่สำเร็จ ผมบอกตัวเองว่า ผมน่าเซฟได้หรือทำอะไรแตกต่างไปจากนั้น เคล็ดลับคือพยายามต่อไป มั่นใจว่าเรามาถูกทางแล้ว ซ้อมอย่างเต็มที่ ด้วยความช่วยเหลือของทุกในทีม”

ทุกเกม อลิซงจะดูฟุตเทจการเล่นย้อนหลังร่วมกับโค้ชจอห์น อัคเตอร์เบิร์ก หาจุดบกพร่องแต่ละเกม แล้วพัฒนาการเล่นให้ดีกว่าเดิม แฟนบอลอาจกังวลเมื่อลิเวอร์พูลเสียประตู เช่นเดียวกับนักวิจารณ์ แต่คลอปป์ไม่เคยโทษผู้รักษาประตู แต่ให้เหตุผลว่า มันเป็นความรับผิดชอบของทุกคน เหมือนกรณีอาเดรียนพลาดในเกมเซาท์แฮมป์ตันเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา

คลอปป์เชื่อว่า ลิเวอร์พูลเสียประตู เพราะการเปิดเกมรุก เปิดพื้นที่ให้ฝ่ายตรงข้ามมากเกินไป และความล้มเหลวในการเพรซคู่ต่อสู้ สมาธิของผู้เล่นคนอื่นที่อยู่ด้านหน้าอลิซง

กับเชลซีหมือนคลอปป์แก้จุดอ่อนต่างๆ ได้ รวมกับการเหลือ 10 คนของเจ้าถิ่น แต่ใช่ว่าอลิซงไม่ต้องทำงาน นอกจากจุดโทษยังมีแทมมี่ เอบราแฮมช่วงท้ายเกมอีก จุดสำคัญคือผู้เล่นคนอื่นปกป้องอลิซงได้

xG บอกถึงคุณภาพของโอกาสที่ฝ่ายตรงข้ามได้ยิง สถิติสำคัญอีกประการคือ xGOT (expected goals on target)  โอกาสยิงเข้ากรอบ เพราะนั่นบ่งบอกว่า ประตูและกองหลังทำงานดีแค่ไหน

2015-16 xG36.6 xGOT39.7 ความแตกต่าง  1.08

2016-17  xG37 xGOT39.4 ความแตกต่าง1.06

2017-18  xG34.4  xGOT36.6 ความแตกต่าง1.06

2018-19 xG30  xGOT27.5  ความแตกต่าง 0.92

2019-20 จนได้แชมป์  xG18.52 xGOT10.27 ความแตกต่าง 0.55

หลังได้แชมป์ถึงเกมเชลซี xG10.5 xGOT11.19 ความแตกต่าง 1.07

ตัวเลขนี้บอกผลงานของอลิซงและการเล่นเกมรับของลิเวอร์พูลได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะ 2 ฤดูกาลล่าสุด

อย่างที่บอก ขณะที่อลิซงสร้างปัญหาให้แฟนบอลลิเวอร์พูลบางคน หรือนักวิจารณ์ มองปัญหาของเชลซีน่าปวดหัวกว่า เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า 71 ล้านปอนด์ วิลลี่ กาบาเยโร่ และเอดูอาร์ เมนดี้ 22 ล้านปอนด์ จะแก้ปัญหาให้แฟรงค์ แลมพาร์ดได้หรือไม่

ผมอ่านรายงานผลการแข่งขัน เวสต์ บรอมวิช อัลเบี้ยน-เชลซี บางสำนักบอกว่า ต่อให้เอาลงพร้อมกัน 3  คน แลมพาร์ดก็ไม่สบายใจอยู่ดี

หากลิเวอร์พูลมีอาการแฮงค์ โอเวอร์หลังคว้าแชมป์ ไม่ว่าจะเป็นเกมแพ้แมนฯ ซิตี้ แพ้อาร์เซน่อล 2  นัด หรือชนะลีดส์แบบอกสั่นขวัญแขวน หลังจากนี้ลูกทีมของคลอปป์น่าจะลบอาการดังกล่าวได้

อลิซงบอกว่า “แน่ล่ะ เกมกับลีดส์คือการเตือนสติ วันแข่งขัน หากสถานการณ์ไม่เป็นอย่างที่เราต้องการ เราต้องวิเคราะห์ หากจุดต้องปรับปรุง เกมนั้นสอนเรามากมาย พัฒนามาสู่เกมเชลซี ซึ่งประสบความสำเร็จ เราไม่เสียประตู”

“ฤดูกาลที่แล่ว เราไม่คิดถึงการคว้าแชมป์เลย แต่ละนัดที่เล่น เราทุ่มเทเต็มที่ มีสมาธิคิดถึงเกมต่อไป ความท้าทายต่อไปเท่านั้น ปีนี้เราจะทำเหมือนเดิม”

แบบนี้คงพอตอบคำถามในใจของเดอะ ค็อปได้ว่า อลิซงยังเป็นอลิซงเหมือนเดิม

สำหรับผม ยังคิดเหมือนเดิมแม้จะมีข้อผิดพลาดบ้างว่า ถ้ามีอลิซง ไม่มีลูกยิงไหนผ่านมือเขาได้อย่างแน่นอน ถ้าจะต้องเสีย มันก็เหตุสุดวิสัย หากอลิซงเซฟไม่ได้ ไม่มีประตูคนไหนในโลกเซฟได้

บทความโดย  :: กิตติกร อุดมผล

อ่านข่าวฟุตบอลต่างประเทศ :: ข่าวฟุตบอลวันนี้

บทความฟุตบอล :: บทความฟุตบอลก่อนหน้านี้

เว็บดูบอลออนไลน์ :: ดูบอลออนไลน์ฟรี