Match Day 9 19 October 2019
Crystal Palace 0 Manchester City 2
20 October 2019
Man UTD 1 Liverpool 1
EPL เริ่มต้นจากเบรกทีมชาติ แมนฯ ซิตี้ไม่พลาดในการเยือนพาเลซ เวลา 17.30 น ประตูจากแกเบรียล เจซูสและดาบิด ซิลบา ช่วยให้ทีมของเป็ปชนะพาเลซของรอย ฮ็อดจ์สัน 2-0 ไล่ตามลิเวอร์พูล 5 คะแนน เลสเตอร์กลับมาเก็บชัยชนะเหนือเบิร์นลี่ย์ 2-1 แต่เกมสำคัญของสัปดาห์คือ แมนฯ ยูฯ-ลิเวอร์พูล ที่โอลด์ แทรฟเฟิร์ด
แดงเดือดแต่ละเกมไม่เคยง่ายคลอปป์บอกนักข่าวอย่างนั้น ไม่เคยมีพรีเมียร์ ลีกเกมไหนง่าย ต่อให้ลิเวอร์พูลนำแมนฯ ยูฯ อันดับ 12 15 คะแนนก็ตามที สื่อในอังกฤษโดยเฉพาะสกาย สปอร์ตส์ พยายามเน้นให้เห็นคุณภาพของปีศาจแดงยุคโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ จัดทีมผสมนักเตะปัจจุบันของ 2 ทีม โดยแดนนี่ มิลล์สอดีตนักเตะลีดส์ มีแต่นักเตะลิเวอร์พูลล้วนๆ
“สกาย สปอร์ตส์ จัดทีมรวมสองทีม มีแต่ลิเวอร์พูล แค่เรื่องตลก เหมือนละครสัตว์ เราอยู่ตรงกลาง บางคนอยากให้เราชนะ บางคนอยากให้เราแพ้ ผมรู้ว่าแมนฯ ยูฯ มีความสามารถอย่างไร”
อาการนักเตะบาดเจ็บก่อนเกม อลิซง มาติป และซาลาห์ หมดสิทธิ์ แต่เด เคอาและป็อกบา ซึ่งข่าวว่าเจ็บโดยเฉพาะประตูชาวสเปน คลอปป์บอกว่า วันนี้เจ็บพรุ่งนี้ก็อาจเล่นดี ตามธรรมชาติ ผจก.ทีม ยิ่งฝ่ายตรงข้ามรู้เรื่องทีมน้อยเท่าไร ยิ่งเป็นการดี และลิเวอร์พูลไม่กังวลเรื่องสถิติชนะรวด
แน่นอน สถิติของคลอปป์กับแมนฯ ยูฯ ไม่ค่อยดี เขาไม่เคยชนะที่โอลด์ แทรฟเฟิร์ด และแมน ฯยูฯไม่แพ้ลิเวอร์พูลในบ้านตัวเอง 5 เกมติด ชนะ 3 เสมอ 2 เป็นสถิติดีที่สุด หลังจากเคยไม่แพ้ยาวนาน 10 เกมนับตั้งแต่ 1991-2000
แม้กองเชียร์ปีศาจแดงไม่น้อยอาจไม่พอใจผลงาน ณ เวลานั้นของโซลชาร์ ซึ่งนักข่าวบอกว่า 29 เกมแรกของเขาดีกว่าคลอปป์ก็ตามที ทุกคนพร้อมหนุนหลังกุนซือนอร์วีเจี้ยนเต็ม เมื่อโซลชาร์ตอบรับเสียงเชียร์ด้วยการชูกำปั้นเหนือศีรษะก่อนเกม
คำถามของนักข่าวช่วงแถลงข่าวก่อนเกม ลิเวอร์พูลจะเล่นได้ดีกว่าที่เป็นอยู่หรือไม่ คลอปป์ตอบว่า “ได้ แต่ก่อนจะทำให้ดีกว่าเดิม คุณต้องเล่นให้ดีเท่าปัจจุบันก่อน” อาจด้วยอะไรก็ตามที นี่คือเกมที่น่าสียดายสำหรับลิเวอร์พูล โซลชาร์ปรับเกมเล่น 3 เซนเตอร์ มาร์คอส โรโฮ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ และวิคเตอร์ ลินเดอลอฟ ส่วนดาบิด เด เคอาลงเล่นตามปกติ
ลิเวอร์พูลไม่มีโม ซาลาห์ บาดเจ็บจากเกมเลสเตอร์ อลิซงเจ็บตั้งแต่นัดเปิดฤดูกาล ลงเล่นเป็นนัดแรกหลังพักไป 10 สัปดาห์ โจเอล มาติปที่เจ็บตั้งแต่เกมกับเชฟฟิดลด์ ยูฯ เมื่อสิ้นเดือนกันยายน เป็นตัวจริงแทนเดยัน ลอฟเร็น ดิว็อค โอริกี้เป็นตัวจริงแทน และเขามีส่วนกับเหตุการณ์นำไปสู่การเสียประตูของลิเวอร์พูล
แมนฯ ยูฯ นำในนาที 36 เมื่อลินเดอลอฟกระแทกโอริกี้จากด้านหลังในแดนแมนฯ ยูฯ ลิเวอร์พูลเชื่อมั่นว่า นั่นคือการฟาวล์ แต่ผู้ตัดสินแอตกินสัน ให้สัญญาเล่นต่อ
สก๊อต แม็คโทมินเนย์ออกบอลให้แดเนี่ยล เจมส์ อาศัยความเร็วพาบอลขึ้นหน้า เกมป้องกันกราบซ้ายของลิเวอร์พูลไม่อยู่ในสภาพที่จะทำอะไรได้ โรเบิร์ตสันลงไม่ทัน ไวนัลดุมไม่ใช่คู่ต่อกรเจมส์เรื่องความเร็ว ฟาน ไดค์ พยายามขยับมาปิดทางขแต่ดาวรุ่งแมนฯ ยูฯเปิดบอลเข้ากลางได้ก่อน และมาร์คัส แรชเฟิร์ด เข้าฮอส เปลี่ยนทางบอลด้วยข้างเท้าด้านนอก ผ่าน
อลิซง สกอร์ 1-0 สำหรับเจ้าถิ่นเมื่อจบครึ่งแรก
ครึ่งแรก ลิเวอร์พูลเล่นต่ำกว่ามาตรฐาน คลอปป์อาจไม่อยากเชื่อว่า ลูกทีมจะแย่ขนาดนั้น เขาไม่รอให้สิ้นเสียงนกหวีดของมาร์ติน แอตกินสันเมื่อจบ 45 นาที คลอปป์รีบวิ่งเข้าห้องแต่งตัว เพื่อปรับแผนการเล่น
นั่นคือสิ่งที่โซลชาร์บอกลูกทีม “ป้องกันให้ดี ให้บอลกับพวกเขาถูกจังหวะ” พวกเขาหมายถึง เจมส์และแรชเฟิร์ด ซึ่งทั้งสองไม่ทำให้โซลชาร์ผิดหวัง ตลอดครึ่งแรก ลิเวอร์พูลเล่นต่ำกว่ามาตรฐานของตัวเองก็จริง แต่ยังครองบอลมากกว่าเจ้าถิ่น เพียงแค่โอกาสทำประตูเท่ากัน แมนฯ ยูฯ เปลี่ยนเป็นคะแนนได้
นักเตะลิเวอร์พูลพยายามประท้วง โดยกัปตันทีม จอร์แดน เฮนเดอร์สัน แต่ผู้ตัดสิน VAR เดวิด คูต สนับสนุนมุมมองของแอตกินสัน กรณีฟาวล์ของลินเดอลอฟ พรีเมียร์ ลีกให้เหตุผลว่า การเล่นระหว่างลินเดอรอฟกับโอริกี้ ไม่เห็นชัดว่าฟาวล์ แต่ที่แน่คือ ลินเดอรอฟกระแทกโอริกี้จากด้านหลัง
VAR เกี่ยวข้องกับประตูในเกมนี้อีก ก่อนหมดครึ่งแรก บอลโด่งจากอเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ถึงมาเน่ที่ตัดเข้าในชิงจังหวะได้เปรียบลินเดอรอฟ เขาจับบอลแรกไม่ได้ แต่กองหลังแมนฯ ยูฯกะจังหวะพลาดเช่นกัน ทำให้มาเน่ได้โอกาสที่ 2 เขาเอาบอลลงพื้นก่อนยิงเรียด ย้อนไปเสาแรก ส่งบอลสู่ก้นตาข่ายสำเร็จ แต่ VAR แสดงให้เห็นว่า มาเน่แฮนด์ บอลจริง
คลอปป์ปรับทุกอย่าง และที่ขาดหายไปคือ ความเร็วของซาลาห์ เขาใช้ตัวสำรอง 3 คน อ๊อกซ์แทนโอริกี้ ลัลลาน่าแทนเฮนเดอร์สัน และเคต้าแทนไวนัลดุม ก่อนลิเวอร์พูลได้ประตูตีเสมอ ก่อนเปลี่ยนลัลลาน่าลง คลอปป์ให้เฮนเดอร์สันขยับขึ้นเล่นด้านขวา ซึ่งไม่เลวเหมือนกัน แต่ยังไม่ได้ประตู
โจเซ่ มูรินโญ่แซวคลอปป์ระหว่างทำหน้าที่กับสกาย สปอร์ตส์ว่า สงสัยคลอปป์ไม่ชอบเมนูอาหารที่โอลด์ แทรฟเฟิร์ดเท่าไร
“เขาชอบเนื้อ แต่ต้องกินปลา”
แมนฯ ยูฯ พยายามป้องกันความได้เปรียบจากครึ่งแรก เล่นแบบที่เรียกว่า Low Block พยายามสวนกลับ และเกือบทำได้ จากแรชเฟิร์ดและเฟร็ด
น 85 เคต้าเปิดบอลจากมุมเขตโทษย้อนให้โรเบิร์ตสัน ซี่งวันนี้แทบไม่ได้เติมเกมรุกให้ทีม ฟีร์มีโน่ขยับที่เสาแรก แต่ไม่เล่น นั่นอาจเป็นการหลอกเด เคอา บอลถึงอดัม ลัลลาน่า สามารถตีเสมอให้ลิเวอร์พูลสำเร็จ ประตูแรกของลัลลาน่าในรอบ 2 ปีครึ่ง แมนฯ ยูฯ ทำแต้มหลุดมือ 8 แต้มจากเกมที่พวกเขาขึ้นนำ มากสุดในลีกเท่าแอสตัน วิลล่า
ส่วนประตูของลัลลาน่า คือลูกที่ 28 ของลิเวอร์พูลที่ยิงได้ใน 15 นาทีสุดท้ายของเกม มากสุดในบรรดาทุกทีมนับตั้งแต่ต้นฤดูกาลที่แล้ว จบเกมลิเวอร์พูลได้ 1 คะแนน นำแมนฯ ซิตี้ 6 คะแนน และคลอปป์ยังไม่ชนะที่โอลด์ แทรฟเฟิร์ดต่อไป
อย่างไรก็ตาม โซลชาร์บอกว่า นี่คือค่ำคืนที่ต้องการจากโอลด์ แทรฟเฟิร์ด สามารถหยุดลิเวอร์พูลจากการทำสถิติชนะรวดไว้แค่ 17 เกม ยูไนเต็ดช่วยให้สถิติของซิตี้คงอยู่ แต่นั่นไม่สำคัญเท่าการกระตุ้นตัวเองให้พลิกสถานการณ์ที่ย่ำแย่ ครึ่งหลังลิเวอร์พูลเล่นดีขึ้น มีโอกาสยิงมากกว่าแมน ฯยูฯ ซึ่งยิงไม่เข้ากรอบลิเวอร์พูลแม้แต่ครั้งเดียว พร้อมสถิติครองบอลน้อยที่สุด นับจากปี 2003-04 พวกเขาครองบอลแค่ 32 % เท่านั้น
คลอปป์กล่าวหลังเกมว่า พอใจกับผลการแข่งขัน แม้ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ แต่เรามีความสุขกับเกมที่ค่อยๆดีขึ้น ผมไม่ชอบครึ่งแรก เพราะเราให้โอกาสแมนฯ ยูฯ ทำสิ่งที่พวกเขาอยากทำ นั่นคือกดดันเรา และเล่นดุดัน พวกเขาไม่ได้ดีกว่าเรา แต่ทำในสิ่งที่อยากทำได้
สำหรับประตูที่เสีย คลอปป์บอกว่า พวกเขายิงประตู ซึ่งแสดงว่า VAR มีปัญหา มร. แอตกินสันให้เกมดำเนินต่อไป เพราะมี VAR สำหรับ ลูกนั้นฟาวล์แน่นอน และมันคือปัญหาของทุกคน VAR ดูภาพแล้วบอกว่า คุณตัดสินนะ แต่ผมว่า ยังไงก็ฟาวล์ จากนั้นเราได้ประตู แต่ VAR เช็คว่า แฮนด์บอล ทุกอย่างตรงกันข้ามเราหมด แต่เราไม่แพ้ก็ดีแล้ว เราคุมเกมได้หมด เราอยากชนะ แต่จะทำได้ คุณต้องเล่นดีกว่านี้”
โซลชาร์พูดถึงจังหวะระหว่างลินเดอรอฟและโอริกี้ว่า “อาจโดนกันนิดหน่อย แต่ไม่ชัดเจนว่าฟาวล์ มันคือเกมของผู้ชายนะ คุณสามารถปะทะกันได้ ส่วนเหตุการณ์ที่สอง มาเน่ทำแฮนด์บอล ก็ไม่เป็นประตู โชคดีที่วันนี้ เราได้ประโยชน์จาก VAR”
11 ตัวจริง อลิซง โรเบิร์ตสัน ฟาน ไดค์ มาติป อาร์โนลด์ ไวนัลดุม ฟาบินโญ่ เฮนเดอร์สัน โอริกี้ ฟีร์มีโน่ มาเน่ (สำรอง อ๊อกซ์แทนโอริกี้ น 60 ลัลลาน่าแทนเฮนเดอร์สัน น 71 และเคต้าแทนไวนัลดุม น 82)
ตารางคะแนนจาก 9 นัด
1 ลิเวอร์พูล เล่น9 ชนะ8 เสมอ1 แพ้- ได้21 เสีย7 25 คะแนน
2 แมนฯ ซิตี้ เล่น9 ชนะ6 เสมอ1 แพ้2 ได้29 เสีย9 19 คะแนน
3 เลสเตอร์ เล่น9 ชนะ5 เสมอ2 แพ้2 ได้16 เสีย8 17 คะแนน
4 เชลซี เล่น9 ชนะ5 เสมอ2 แพ้2 ได้19 เสีย14 17 คะแนน
แมนฯ ยูฯ อยู่ที่ 14 ห่างโซนตกชั้น 2 คะแนน
บทความโดย :: กิตติกร อุดมผล
อ่านข่าวฟุตบอลต่างประเทศ :: ข่าวฟุตบอลวันนี้
บทความฟุตบอล :: บทความฟุตบอลก่อนหน้านี้
เว็บดูบอลออนไลน์ :: ดูบอลออนไลน์ฟรี
