ทักษะดีที่สุดของโจเซ่ในสายตา JK 

ทักษะดีที่สุดของโจเซ่ในสายตา JK 

 

การแถลงข่าวของโจเซ่ มูรินโญ่ก่อนท็อตแน่มเจอลิเวอร์พูล มีสีสัน มีประเด็นให้พูดถึงและสร้างศัตรูได้อีกเยอะ

ไม่แปลกสำหรับกุนซือชาวโปรตุกีสที่คุ้นเคยกับความขัดแย้ง 

 

หลังจากบอกว่า คลอปป์ทำงานถึง 1,840 วันกับลิเวอร์พูล ขณะที่เขาทำงานได้แค่ 390 วัน โดยไม่ตอบว่านับวันมาเองหรือให้คนอื่นนับให้ เรื่องหนึ่งที่เขายอมรับว่าตัวเองไม่เคยมีคือความผูกพันกับทีม “สำหรับผม เป็นแค่คว้าชัยชนะแล้วก็ลาก่อน” 

 

มูรินโญ่ไม่เคยทำงานกับใครเกิน 3 ปี ขณะที่เซ็นสัญญากับท็อตแน่ม 3 ปีครึ่ง ผ่านมาแล้ว 1 ปี “คุณจะเทียบงานเกือบ 2,000 วันกับ 300 กว่าได้อย่างไร” มูรินโญ่ก็เป็นจ้าวแห่ง Mind Game หรือการเล่นคำให้เกิด Impact ต่อใจผู้ฟังเช่นเดียวกับคลอปป์ 

1,894 วันที่มูรินโญ่พูดถึง หมายถึง โอกาสซื้อนักเตะ 10 ครั้ง แต่เขายอมรับว่า ความสำเร็จของคลอปป์ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะการซื้ออย่างเดียว “ผมเชื่อว่าทีมที่จะประสบความสำเร็จเหมือนลิเวอร์พูลทำได้ และพยายามประสบความสำเร็จมากขึ้น งานทุกอย่างต้องสมบูรณ์แบบ ไมใช่โอกาสซื้อนักเตะ เงินเท่าไร หลายอย่างประกอบเข้าด้วยกัน” 

 

ถือว่าเป็นคำชม แน่นอนมูรินโย่ย่อมรู้ดีเพราะเขาอยู่ในสถานการณ์นี้มาก่อน จะว่าไปแล้วชีวิตการเป็นผจก. มูรินโญ่ประสบความสำเร็จมากกว่าคลอปป์ และครั้งหนึ่งเขาคือคนที่ลิเวอร์พูลสนใจ เพียงแต่บุคลิกดุดันแบบนี้ ทำให้ลิเวอร์พูลมองว่า นี่ไม่ใช่ลักษณะที่ลิเวอร์พูลต้องการ

 

ศึกชิงจ่าฝูง คือฉลากของเกมระหว่าง ลิเวอร์พูล-ท็อตแน่ม ความจริงหากลิเวอร์พูลไม่พลาดโอกาส ทำแต้มหลุดมือ ไม่ว่าจะเป็นเกมเอฟเวอร์ตัน แมนฯ ซิตี้ ไบรท์ตัน นี่คือ 3 เกมที่ลิเวอร์พูลขึ้นนำและไม่สามารถเก็บ 3 คะแนนได้ ผิดกับฤดูกาลที่ผ่านมา หากทำได้ ท็อตแน่มถือว่าไม่ใช่คู่แข่ง และนั่งแท่นที่หนึ่งของตาราง ประตูได้เสียดีกว่า 

 

ลิเวอร์พูลแพ้แอสตัน วิลล่าเพราะประมาทไหม เหตุการณ์นั้นเกือบเกิดขึ้นกับฟูแล่ม แต่คลอปป์ปลุกเร้าลูกทีมให้ฮึดสู้ได้ในครึ่งหลัง

 

ทุกทีมที่เจอลิเวอร์พูลพยายามบ่นว่า คลอปป์บ่นเกินไปเรื่องการบาดเจ็บ โปรแกรม มูรินโญ่พูดเรื่องนี้เหมือนสนับสนุน แต่ที่จริงแดกดันทุกครั้ง ตั้งแต่โปรแกรมถี่ยิบ เจอมาก่อนคลอปป์ อังกฤษไม่เคยเปลี่ยน และนักเตะบาดเจ็บก็เป็นเรื่องปกติ 

 

นอกจากพยายามจัดตัวจริงให้ลิเวอร์พูลคืนนี้ อลิซงไม่เจ็บ เทรนต์ไม่เจ็บ มาติปลงแน่ ฟาบินโญ่ไม่เจ็บ เฮนเดอร์สันไม่เจ็บ โรเบิร์ตสันไม่เจ็บ ไวนัลดุมไม่เจ็บ ซาลาห์ไม่เจ็บ ฟีร์มีโน่ไม่เจ็บและมาเน่ไม่เจ็บ ความจริงน่าจะบอกให้ครบ 11 ตัวไปเลย 

 

ขณะที่ทีมเขา ลอริสไม่เจ็บ อัลเดอร์ไวเรลไม่เจ็บ ดายเยอร์ไม่เจ็บ เรกูล่อนไม่เจ็บ เคนไม่เจ็บ ซนไม่เจ็บ ลูคัสไม่เจ็บ แล้วจะเหลือไว้ทำไมอีก 4 ตำแหน่ง ท็อตแน่มจะใช้ผู้เล่นชุดที่เสมอกับพาเลซมาก็ได้ เพราะไม่มีใครบาดเจ็บ

 

ลิเวอร์พูมีนักเตะบาดเจ็บ แต่ 10คนที่เขาเอ่ยมาไม่ทำให้ลิเวอร์พูลอ่อนลง แต่ประเด็นคือเขาพูดไม่หมด 

 

12 นัดที่ผ่านมา ลิเวอร์พูลใช้นักเตะ 24 คน สเปอร์สใช้ 22 คนไม่ต่างกันมาก ลิเวอร์พูลมีผู้เล่นคนเดียวที่เล่นเกินพันนาทีคือโรเบิร์ตสัน ซี่งตอนนี้ห้ามเจ็บ เพราะตัวสำรองแบ็คซ้าย 2 คน มิลเนอร์และซิมิคาสชิงเจ็บไปก่อน แต่ท็อตแน่มมี 3คนที่เล่น 12 นัด มากกว่า 1 พันนาที คือฮอย เบียค เคน และลอรีส ขณะที่ซน เล่น 995 นาที ห่างจากการเล่นสูงสุดไม่กี่นาที

 

ท็อตแน่มมีผู้เล่นลงสนามเกิน 10  นัดคือ ฮอย เบียค ลอริส เคน ซน ดายเยอร์ ซิสโซโก้ เอ็มดอมเบเล่ มูร่า 8 คน นั่นหมายความว่าแกนของทีมอยู่ครบ ที่สำคัญ ฮฮย เบียค ลอริส เคนและซนเป็นตัวจริงทุกนัด  

 

สำหรับลิเวอร์พูล คนที่ลงสนามถึง 10 นัดมี โรเบิร์ตสัน ฟีร์มีโน่ ไวนัลดุม ซาลาห์ มาเน่ อาร์โนลด์ และฟาบินโญ่ 7 คน เท่ากับคลอปป์มีหน้าที่ต้องสลับผู้เล่นนัดละ 4 คน  มีแค่โรเบิร์ตสันและฟีร์มีโน่ที่เป็นตัวจริงครบ 12 นัด ขนาดผู้รักษาประตูยังต้องเปลี่ยน 3 คน 

 

คิดเฉพาะพรีเมียร์ ลีก ซึ่งถือว่าไม่ปกติ เพราะการสลับส่วนใหญ่ก่อนหน้านี้เกิดขึ้นเพราะการพักผู้เล่นระหว่างทัวร์นาเมนต์ พรีเมียร์ ลีกและแชมเปี้ยนส์ ลีก แต่นี่สลับเพราะบาดเจ็บ และที่ลงเล่นหนัก 7 คน ต้องเล่นนอกตำแหน่งคือ ฟาบินโญ่ หากมาติปเจ็บ เท่ากับลิเวอร์พูลไม่เหลือเซนเตอร์ที่มีประสบการณ์ และเซนเตอร์จริงๆที่มีประสบการณ์สูงสุดในทีม เฉพาะเกมพรีเมียร์ ลีกคือ เนท ฟิลลิปส์ เล่นไป 2 นัด 

 

การบาดเจ็บที่มูรินโญ่บอกธรรมดา ท็อตแน่มก็เจ็บตั้ง 10 คน เอาความจริง โน่นลากจากทีมชุดใหญ่ลงไปยู -23 ยู-16 แต่ข้อเท็จจริงคือท็อตแน่มมีผู้เล่นเจ็บแค่ 3 คน ทังกังก้า ลาเมล่าและเบล เทียบกับสิ่งที่ลิเวอร์พูลเผชิญแล้วเด็กๆ เพราะทังกังก้าไม่ได้เล่นแม้แต่นัดเดียว ลาเมล่าเล่น 5 นัดเป็นตัวจริง 2 นัด เบล มีก็เหมือนไม่มี เล่น 3 นัด เป็นตัวจริง 1 นัด แทบไม่มีผลอะไร แต่ถามว่า เป็นตัวเลือกที่มูรินโญ่ใช้ได้หรือไม่ 

 

สบายมาก หากไว้ใจ

 

คลอปป์ไม่เคยบ่นเรื่องการบาดเจ็บ และใช้เป็นข้อแก้ตัว แค่พยายามบอกว่า โปรแกรมมันถี่ยิบ ควรเปลี่ยนตัวสำรอง 5 คน เพื่อป้องกันการบาดเจ็บ ซึ่งทำแบบนั้นเป็นผลดีต่อทุกทีม ไม่ใช่แค่ลิเวอร์พูลเท่านั้น และตอนนี้ เรื่องจะเรียกร้องการเปลี่ยนตัว 5 คน เขาก็ขี้เกียจจะพูด แถมบอกว่า “ผมก็ไม่มีนักเตะที่จะเปลี่ยน 5 คนหรอก” 

 

จริงๆแล้ว ผมไม่เคยเห็น คลอปป์พูดจากแดกดันใครระหว่างการแถลงข่าวก่อนเกมหรือหลังเกม เว้นแต่คริส ไวล์เดอร์ที่ เจาะจงพูดถึงเขาด้วยคำพูดที่ไม่ดีก่อน 

“คุณไม่มีทางเป็นที่หนึ่งของลีกด้วยการเล่นสวนกลับอย่างเดียว” คลอปป์กล่าว และผมถือเป็นการชื่นชม มากกว่าเล่นจิตวิทยาแบบที่แฟรงค์ แลมพาร์คมอง และตอนนี้ หลังจากคลอปป์ชม เชลซีแพ้ 2 นัดติด 

 

ผมก็อยากให้คำชมของคลอปป์ต่อมูรินโญ่เป็นวาจาสิทธิ์กับสเปอร์สเหมือนกัน 

 

“สไตล์การเล่น ผมว่าสเปอร์สเล่นคล้ายเรา การทำเกม การเล่นฟุตบอล ถ้าวิเคราะห์เกมฟุตบอลนะ พวกเขาเป็นทีมที่ดีเลย ผมเห็นการถอยลงต่ำของเคน เหมือนบ๊อบบี้ ฟีร์มโน่ มีปีกเร็วๆ 2 ข้าง ฝ่ายตรงข้ามป้องกันเกมตรงนี้ยากมาก พวกเขามีมิดฟิลด์รุก 2 คน มิดฟิลด์รับ 2 คน เล่นฟุตบอล ไม่เอาแต่สวนกลับ และป้องกันดี” 

 

ท็อตแน่มคือทีมเสียประตูน้อยสุดในลีก 10 ประตู มี 5 คลีนชีตจาก 12 เกม สูงสุดทีมหนึ่งในลีก ขณะที่ลิเวอร์พูลเสีย 18 เกินนัดละประตู และมีแค่ 3 คลีน ชีต 

 

“แต่สื่อพูดถูกต้องสเปอร์สไม่สนหรอกหากจะตั้งรับ ป้องกันเพื่อเก็บชัยชนะ รอสวนกลับ แต่นั่นไม่ใช่จุดแข็งเดียวของท็อตแน่ม แต่พวกคุณอาจมองแค่นั้น เท่าที่อ่านจากสื่อ แต่ผมพูดสิ่งที่ผมเห็น และน่าเสียดาย ที่ผมเห็นถือว่าดี”

 

“สุดท้าย ทุกอย่างขึ้นอยู่กับชัยชนะ บางที นี่อาจเป็นทักษะดีที่สุดของโจเซ่ ในช่วงชี้เป็นชี้ตาย เขาไม่สนใจหรอก ทีมจะเล่นแบบไหน สนแค่ผลเท่านั้น นั่นทำให้เขาประสบความสำเร็จ สูงสุดคนหนึ่ง ผมนับถือเขาในเรื่องนี้ แต่เขาเปลี่ยนโฉมตัวเองไหม ผมไม่รู้ แต่อาจเป็นแบบนั้น หากลองดูเขาในอินสตาแกรม” 

 

คลอปป์คงแอบส่องโจเซ่ด้วยเหมือนกัน นอกจากลูกทีม 

 

กิตติกร อุดมผล

 

ปล สถิติของโจเซ่ มูรินโญ่กับการเล่นที่แอนฟิลด์ ชนะ 44.4 %