Diogo J ซูเปอร์สตาร์นอกสายตา 1

ชีวิตนี้เคยไหมที่คิดว่า “ตัวเองคือบุคคลนอกสายตา”

ชีวิตนี้เคยไหมที่คิดว่า “ตัวเองคือบุคคลนอกสายตา”

ถ้าคุณเคย อย่าเพิ่งน้อยใจ เพราะดีโอโก้ โชต้าเป็นแบบนั้น เขาใช้ชีวิตแบบนักเตะปลายแถวเพื่อถีบตัวเองสู่ดวงดาว

ชีวิตนี้เคยไหมที่คิดว่า “ตัวเองคือบุคคลนอกสายตา”

เขาไม่ใช่นักเตะที่พรสวรรค์ดีที่สุด ประมาณตนแต่ไม่เคยขาดความเชื่อมั่น

การดำเนินชีวิตแบบนี้ ทำให้เส้นทางค้าแข้งของโชต้าแตกต่างจากคนอื่น จากทีมเล็กสุดบนแผ่นดินเกิด สู่นักเตะไร้ค่าของแอตเลติโก้ มาดริด กลายเป็นดาวจรัสแสงแห่งแชมเปี้ยนของอังกฤษ ลิเวอร์พูลในเวลา 4 ปี

 

“ไม่มีใครทำแบบโชต้าโดยปราศจากความฝันที่แท้จริง” ชอร์เก้ ซิเมา โค้ชทีมชุดใหญ่ของปาโกส์ เดอ เฟอร์ไรร่ากล่าว “เมื่อเขาเซ็นสัญญายืมตัวไปปอร์โต้เมื่อปี 2016 ผมบอกสื่อโปรตุกีสว่า สำหรับผม โชต้าคือตัวแทนของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ถือว่าเป็นคำอวดที่อาจเกินจริง เพราะขณะนั้น โชต้าเล่นให้ปาโกส์และไม่ประสบความสำเร็จกับแอต. มาดริด”

 

“เมื่อโชต้าเซ็นสัญญากับลิเวอร์พูล ผมส่งข้อความไปแสดงความยินดี เขาตอบกลับมาใน 5 วินาที พร้อมลิงก์บทความที่พูดถึงเขากับโรนัลโด้ นั่นคือสิ่งแรกที่เขาส่งมา เขาน่าจะบุ๊กมาร์คเรื่องไว้ มหัศจรรย์มากที่เขาไม่ลืม”

 

โชต้ามีอะไรคล้ายคลึงกับสตีเว่น เจอร์ราร์ด ตำนานของลิเวอร์พูล เขายิ่งใหญ่ แต่ชีวิตไม่ได้เริ่มต้นบนเส้นทางแห่งกลีบกุหลาย ถูกปฏิเสธแต่นั่นไม่ใช่ปัญหา แต่เป็นแรงผลักดันให้พยายามยิ่งขึ้น อดีตกัปตันลิเวอร์พูล ถูกปฏิเสธโดยโครงการค้นหาสุดยอดนักเตะแห่งอังกฤษโดยสมาคมฟุตบอล สถาบันลิลล์แชลล์ เมื่อทีมเยาชนลิเวอร์พูลเจอเยาวชนท็อตแน่ม ซี่งหลายคนอยู่ในโครงการลิลล์แชลล์ มีดีกรีทีมเยาวชนอังกฤษ เขาลุย ทำทุกอย่าง จนบันทึกว่า เกมนั้น ลิเวอร์พูลชนะเพราะเจอร์ราร์ด โดยแท้

 

โชต้าถูกมองข้ามโดยปอร์โต้ สโมสรบ้านเกิด แต่ปาโก้ส์ ทีมคู่แข่งยอมรับ ขณะที่ทีมเยาวชนปอร์โต้โดดเด่นเรื่องการค้นหานักเตะ ยิ่งน่าแปลกใจว่าทำไมเด็กที่บ้านอยู่ห่างสนามแค่ 5 ไมล์ ไม่มีโอกาสกับทีมนั้น แม้ต่อมา เขามีโอกาสเล่นให้ปอร์โต้ แต่ด้วยเส้นทางที่ไกลกว่าเดิม เพราะผ่านปาโก้ส์และแอตเลติโก้ ไม่ใช่เด็กอาแคเดอมี่ปอร์โต้โดยตรง

 

ครั้งใดที่โชต้าโดนปฏิเสธ เขาจะหิวกระหายมากกว่าเดิม

 

เปเล่ หนึ่งในเพื่อนร่วมทีมปาโก้ส์ เขาอายุ 24 ปี ถือว่าเก๋าเกมคนหนึ่ง ผ่านเกมให้กับเจนัว เอซี มิลานและเบนฟิก้า

 

ช่วงคริสต์มาส 2015 โชต้าอายุ 19 ปี เมื่อปาโก้ส์ไปเยือนเมืองหลวง เจอสปอร์ติ้ง ลิสบอน ณ สนามโชเซ่ อัลวาลาด ในลีก คัพ ตามหน้าเสื่อ ไม่มีใครคิดว่าปาโก้ส์จะมีโอกาสแม้แต่เสมอ  ตอนนั้นสปอร์ติ้งผลงานดี และได้ที่สองเมื่อจบฤดูกาลดังกล่าว แพ้แชมเปี้ยน เบนฟิก้าแค่ 2 คะแนน

 

“โชต้าเด็ดเดี่ยวเกินอายุ” เปเล่บอก “ผมจำเกมที่อาเวลาดได้ พักครึ่ง สกอร์ 1-1 เราอยู่ในห้องแต่งตัว เขาเดินเข้ามาแล้วถามทุกคน เพื่อน ไม่มีใครอยากชนะเกมนี้หรือ ผมกับบรูโน่ โมเรร่า (ศูนย์หน้าอายุ 28 ปีในตอนนั้น) มองหน้ากันแล้วถามเขา ทำไมถามอย่างนั้น เขาบอกว่า อยากชนะก็ส่งบอลให้ผมมากกว่านี้ ผมมองเขาแล้วคิดในใจว่า เด็กอายุ 19 จิตใจทำด้วยอะไร มันยอดเยี่ยมมาก”

 

โชต้าเป็นตัวจริงในลีกแค่ 21 นัดก่อนเกมกับลิสบอน แต่เขามั่นใจพอที่จะบอกนักเตะรุ่นใหญ่ว่าควรทำอะไร จบฤดูกาล ปาโก้ส์ชวดโอกาสเล่นฟุตบอลยุโรปไปนิดเดียว โชต้ายิง 12 ประตู หนึ่งในนั้นคือประตูท้ายเกม ช่วยให้ชนะปอร์โต้  1-0

 

เปเล่บอกว่า โชต้าทำตัวสบายๆ ชอบอยู่หอพักสโมสรแทนที่จะแยกตัวออกไปเหมือนนักเตะทีมชุดใหญ่ ตอนนั้นโชต้าคบกับแฟนคือรูเต้ คาร์โดโซ่แล้ว ยามว่างเขาเล่นเกมฟีฟ่าในเพลย์ สเตชั่น กับเพื่อนๆที่ยังอยู่อาแคเดอมี่

 

มอเตอร์เวย์สาย เอ20 รอบเมืองปอร์โต้ นี่คือทางสะดวกที่สุดเพื่อไปกอนโดมาร์ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมือง หากคุณอยุ่มาสซาเรลอสด้านตะวันตก ย่านอยู่อาศัยเงียบๆ เรียบแม่น้ำโดอูโร่ เป็นถิ่นเกิดของโชต้า

 

ถนนพาดผ่านอัฒจันทร์ด้านตะวันออกของเอสตาดิโอ ดราเกาของปอร์โต้ อยู่ใกล้เหมือนอยู่ไกล โชต้ากลับอยู่ทีมเยาวชนของกอนโดมาร์ ซี่งไม่เคยอยู่สูงกว่าดิวิชั่น 2 โปรตุเกส นักเตะที่เขาชื่นชอบคือ พาโบล ไอมาร์แห่งเบนฟิก้า โค้ชเยาวชนของกอนโดม่าร์ รูเบน คาร์วัลโญ่บอก เอ โบล่า หนังสือพิมพ์โปรตุกีสว่า “เขารักการซ้อม ขยัน ทำเต็มกำลังเสมอ”

 

เพื่อให้คนอื่นจำได้ โดยเฉพาะเด็กดีโอโก้ส์ทั้งหลาย เขาติดชื่อ ดีโอโก้ โชต้า (J ในภาษาโปรตุกีส ไม่ใช่ เจ แต่เป็น โชต้า เพราะฉะนั้น Diogo J คือ ดีโอโก้ โชต้า นั่นคือที่มาว่า ทำไมเราเรียกเขาแบบนั้น) ชื่อเต็มของโชต้าคือ ดีโอโก้ โชเซ่ เทไซร่า ดา ซิลวา และปัจจุบันทุกคนรู้จักเขาในนาม Diogo Jota – ดีโอโก้ โชต้า

 

ปีสุดท้ายกับกอนโดมาร์ โชต้าอายุ 17 ปี เขายิงได้ 39 ประตูจาก 37 เกม เป็นดาวยิงสูงสุดของลีกเยาวชนโปรตุเกส บางที เขาเล่นทีมยู-17 คืนวันเสาร์ และเล่นทีมยู-19 คืนวันอาทิตย์ บางสุดสัปดาห์ เขาทำแฮตทริคได้กับสองทีม อัลวาโร่ เซอร์คีร่า ประธานสโมสรบอกว่า “ก็ยิงประตูคนเดิมนั่นแหละ”

กอนโดมาร์ยกย่องเขาในเวลาต่อมา ด้วยการเรียกอาแคเดอมี่ของทีมตามชื่อโชต้า แต่เขาตัดสินใจย้ายไปปาโกส์เพราะไม่มีโอกาสเล่นทีมชุดใหญ่กอนโดมาร์ เขาเคยซ้อมกับสปอร์ติ้ง บราก้า ซึ่งอยู่ทิศเหนือของเมือง ระหว่างเล่นให้กอนโดมาร์ แต่บราก้าไม่เคยคิดว่าเขาดีพอ เบนฟิก้าและปอร์โต้จับตามองเขา แต่ไม่มีการติดต่อเป็นทางการ

 

โดดเด่นเมื่อลงสนาม แต่เส้นทางค้าแข้งไม่เคยง่ายสำหรับโชต้า ปาโก้ส์พร้อมปล่อยตัวเขาก่อนประสบความสำเร็จ เพราะมองว่า เขาไม่ตั้งใจ  เกมแรกกับทีมชุดใหญ่ ปาโกส์ คือศึกโปรตุกีส คัพ พร้อมประวัติศาสตร์นักเตะอายุน้อยที่สุดของสโมสรที่ยิงได้ และโชต้ามีอีก 2 แอสซิสต์ในเกมนั้น ฤดูกาลแรกที่เล่นอาชีพ เขายิง4 ประตูจาก 12 นัด ในที่สุด ปาโก้ส์ตัดสินใจเซ็นสัญญากับเขารวดเดียว 4 ปี ทั้งที่ปกติจะเซ็นแค่สองปีเท่านั้น

 

โชต้าวาดแผนอนาคตให้ตัวเองตั้งแต่นั้น “ผมมีสัญญากับทีมถึงปี 2019 แต่ไม่โกหกหรอกว่า ผมคงไม่อยู่จนครบสัญญา ฤดูกาล 15-16 คือโอกาสที่ผมจะผลักดันตัวเองให้ไปไกลกว่านี้”

 

เขาเล่นหลายตำแหน่ง “เริ่มจากมิดฟิลด์ซ้าย หรือมิดฟิลด์ตัวซ้ายของการเล่น 4-3-3 ผมเป็นมิดฟิลด์ที่ชอบเข้ากรอบเขตโทษ กับปาโก้ส์ ผมเป็นศูนย์หน้า แต่ผมชอบเล่น ฟอล์ซ นาน์ย หรือหน้าต่ำ”

 

ฤดูกาล 2014-15 เปาโล ฟอนเซก้า ให้โชต้าเล่นเป็นหน้าตัวที่สอง ต่อมา ซิเมา เข้ามารับช่วงเป็นโค้ชต่อ เขาย้ายโชต้าออกไปริมเส้น “ผมรู้สึกเหมือนปีกหรือไม่” เขาตั้งคำถาม “แต่ผมรู้ว่า ตามแผนผัง ผมเล่นตำแหน่งหนึ่ง เมื่อลงสนามจริง ผมชอบเล่นกลาง มีส่วนร่วมกับเกม เป็นปีกที่ไม่เหมือนใคร”

 

ซิเมา ยอมรับว่า ในปี 2015 เมื่อรับตำแหน่งผจก. ปาโก้ส์ เขาไม่รู้จักโชต้ามากนัก แต่รู้สึกประทับใจช่วงพรี-ซีซั่น

 

“ระหว่างซ้อมเกมหนึ่ง เขาทำบางอย่างที่ผมคิดว่า ที่ผมเห็นคือเรื่องจริง เขารับบอลนอกเขตโทษ หันหลังให้ประตู เขาสะบัดบอลข้ามหัวไหล่กองหลังด้วยสัมผัสแรก กลับตัวจากนั้นยิงเต็มแรง บอลเฉี่ยวพื้นก่อนเข้ามุมบนประตู คงเข้าใจนะว่าผมประทับใจแค่ไหน ประตูที่ยอดเยี่ยม เด็กอายุ 18 ปี ทำได้อย่างนี้ ผมบอกตัวเองว่า หมอนี่มีทีเด็ดเลย”

 

 

ซิเมาให้อันเดรซินโญ่ อายุมากกว่าโชต้า 16 เดือนเป็นนัมเบอร์เทน เพราะเทคนิคดี จ่ายคิลเลอร์พาสได้ “ผมขยับโชต้าออกปีกซ้าย เขาเลี้ยงบอลจี้หากองหลัง แล้วยิง เขาเหมาะกับตำแหน่งนี้มาก เราอยากให้เขารับบอลด้านข้าง มีพื้นที่เยอะๆ จากนั้นตัดเข้าใน” ซิเมาเล่าถึงการเปลี่ยนตำแหน่ง

 

เมื่อโค้ชสี่งให้เปลี่ยนตำแหน่ง โชต้าซ้อมมากขึ้น เพื่อปิดจุดอ่อนของตัวเอง

 

“ผมดูเขาซ้อมหลายๆช่วงระหว่างฤดูกาลนั้น สังเกตุว่าเขาพยายามใช้เท้าซ้าย เราไม่เคยคุยกันว่าทำไม แต่ผมเชื่อว่า เขารู้ว่านั่นคือจุดที่ต้องปรับปรุง เพื่อเปิดบอลให้ดีขึ้น ยิงดีขึ้น เลี้ยงบอลดีขึ้นด้วยเท้าที่ไม่ถนัด เป็นการพัฒนาตนเอง และเขาทำเพื่อตัวเอง”

 

ขณะที่ซิเมาเห็นว่าโชต้าพยายามพัฒนาเท้าซ้าย โมเรร่า กองหน้าเพื่อนร่วมทีมปาโก้ส์คิดว่า โชต้าถนัดทั้งสองเท้า และมั่นใจว่า โชต้าสามารถก้าวไปได้ไกลมาก โดยไม่ต้องเล่นกับทีมเยาวชนทีมใหญ่ของโปรตุเกส เพราะคุณสมบัติ 3 ประการ “จิตใจเข้มแข็ง” “พรสวรรค์” และ “ขยันตั้งอกตั้งใจ”

 

ซิเมาย้ายไปอยู่ ชาเวส อีกทีมในดิวิชั่น 1 โปรตุเกส เมื่อโชต้าเซ็นสัญญายืมตัวจากแอต. มาดริดมาปอร์โต้ในหน้าร้อนปี 2016 แม้ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ซิเมายังมองออกว่า ปอร์โต้ไม่ได้เชื่อมั่นโชต้าสักเท่าไร

 

“เขาไม่ใช่เด็กปั้นของทีม ไม่มีชื่อเสียง มาจากระดับล่างสุด เล่นกับทีมเล็กๆ ต่อสู้เพื่อชื่อเสียงตัวเอง เขามีจิตใจแบบนั้น เป็นนักสู้ มีคนถามผมว่า แปลกใจกับผลงานของเขาไหม ไม่เลยเพราะเขาทำแบบนี้เป็นประจำ เพียงแต่เล่นในเวทีที่ใหญ่กว่า เขาเล่นให้ลิเวอร์พูลเหมือนอยู่กอนโดมาร์ ไม่ว่าจะเป็นในเอสตาดิโอ ดา ลูซ ต่อหน้าคนดู 70,000 เกมสมัครเล่นต่อหน้าคนดู ไม่กี่คน ฟุตบอลเหมือนกันสำหรับโชต้า”

 

 

บทความโดย  :: กิตติกร อุดมผล.  

อ่านข่าวฟุตบอลต่างประเทศ :: ข่าวฟุตบอลวันนี้

บทความฟุตบอล :: บทความฟุตบอลก่อนหน้านี้

เว็บดูบอลออนไลน์ :: ดูบอลออนไลน์ฟรี