วิกฤตผู้เล่นหลักบาดเจ็บทำให้หลายคนเคลือบแคลงศักยภาพลิเวอร์พูลของเยอร์เก้น คลอปป์

จะมีปัญหาอะไร ขาดเวอร์จิล ฟาน ไดค์ กองหลังดีที่สุดในโลก

จิ๊กซอว์ที่แก้ปัญหาทุกอย่างให้ลิเวอร์พูลตั้งแต่ลงสนามนัดแรก โหม่งประตูให้ทีมชนะเอฟเวอร์ตัน 2-1

จะมีปัญหาอะไร ขาดเวอร์จิล ฟาน ไดค์ กองหลังดีที่สุดในโลก

ฟุตบอลเอฟเอ คัพรอบ 3 แต่การเล่นพรีเมียร์ ลีกนัดแรกกับลิเวอร์พูลจบด้วยการพ่ายแพ้สวอนซี 1-0 ที่ลิเบอร์ตี้ สเตเดี้ยม

ลิเวอร์พูลเสีย 2 ประตูใน 79 นาทีแรกเมื่อปราศจากฟาน ไดค์หลังเล่นได้ 11 นาทีกับดาร์บี้แม็ทช์เมื่อ 17 ตุลาคม ใน 32 วัน 7 นัดของการแข่งขันฟุตบอล ลิเวอร์พูลเสียประตูแค่ 3 ลูกด้วยเซนเตอร์ที่ต้องสลับสับเปลี่ยนกันถึง 7 คู่จาก 9 เกม เริ่มตั้งแต่ โกเมซ-ฟาน ไดค์ เล่นกัน 3 เกม  /  ฟาน ไดค์-ฟาบินโญ่ /ฟาน ไดค์-มาติป / โกเมซ—ฟาบินโญ่ / โกเมซ-มาติป / โกเมซ-ฟิลลิปส์ และฟาบินโญ่-มาติป เล่นคู่กันเป็นครั้งแรก

 

เวอร์จิล ฟาน ไดค์คือกองหลังที่ยอดเยี่ยมและมีความสำคัญต่อความสำเร็จของลิเวอร์พูลตั้งแต่เกมแรกกับสโมสรเมื่อปี 2018 แต่เขาทำให้การมองความแข็งแกร่งของลิเวอร์พูลในภาพรวมผิดไป หรือหลายคนมองว่า หากลิเวอร์พูลปราศจากเขาต้องพังไม่เป็นท่าอย่างแน่นอน ไม่มีใครให้โอกาสลิเวอร์พูลมากนักในการป้องกันแชมป์ฤดูกาลนี้ ตั้งแต่แรกเมื่อ แมนฯ ซิตี้โถมซื้อกองหลัง เชลซีทุ่มเงิน 200 กว่าล้านปอนด์ ซื้อนักเตะ

 

และการเล่นที่ไม่อาจเทียบกับฤดูกาล 2019-20 โดยเฉพาะอย่างยิ่งโดนแอสตัน วิลล่าถล่ม 7-2 ทั้งที่โกเมซจับคู่เวอร์จิล ฟาน ไดค์ แต่เกมนั้นปราศจากอลิซงด้วย

 

ถูกต้องครับ นอกจากฟาน ไดค์ แกนสำคัญในเกมรับของลิเวอร์พูลยังมีอลิซง เบ๊คเกอร์ ที่ทำให้ลิเวอร์พูลสามารถใช้เกมรุกเป็นเกมรับมาโดยตลอด การขาดฟาน ไดค์ นอกจากทำให้ลิเวอร์พูลต้องเปลี่ยนการเล่น ดันกองหลังน้อยกว่าเดิม และใช้ผู้เล่นทำเกมรุกน้อยกว่าเดิม โดยเฉพาะฟูลแบ๊ค 8 ข้าง โรเบิร์ตสันและอเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์  ไม่อาจทำหน้าที่เพลย์ เมคเกอร์หรือนัมเบอร์ 10 ได้เหมือนเดิม

 

ความแข็งแกร่งหรือตัวเลือกสำหรับคลอปป์เป็นที่น่าเคลือบแคลง ตลอดทุกนัด เพราะนักเตะบาดเจ็บกันทุกนัด เพราะกร่ำศึกหนักเหลือเกิน แถมพรีเมียร์ ลีกยังไม่อนุญาตให้เปลี่ยนตัวสำรองได้เกมละ 5 คน เพราะเสียงส่วนใหญ่มองว่า เกิดความได้เปรียบ-เสียเปรียบระหว่างทีมใหญ่-ทีมเล็ก ตอนนี้ ผจก.ทีมพรีเมียร์ ลีก ประชุมร่วมกันแล้วออกเสียงให้กลับมาเปลี่ยนตัวสำรองได้ 5 คน ด้วยคะแนน 15-5

แต่การโหวตไม่มีผล ถ้าจะให้ได้ผลต้องเป็นการโหวตโดยผู้ถือหุ้นหรือเจ้าของสโมสรเท่านั้น

วิกฤติบาดเจ็บของนักเตะลิเวอร์พูล 9 เกมก่อนเกมเลสเตอร์ รวมกองหลังตัวจริง 3 คนยิ่งทำให้หลายคนมองว่า เกมกับเลสเตอร์คือบททดสอบสำคัญ และ Deja Vu เมื่อทีมของบ๊อบ เพสลี่ย์ จะทำสถิติไม่แพ้ใครในบ้านติดต่อกัน 64 นัด เมื่อ 31 มกราคม 1981 เลสเตอร์คือทีมดับฝันลิเวอร์พูล

เลสเตอร์ชนะนอกบ้าน 4 นัดรวด ยิงลีดส์ 4 ประตู ยิงแมนฯ ซิตี้ 5 ประตูและยิงเวสต์ บรอม 3  ประตู ขณะที่ลิเวอร์พูลเสียประตูในบ้านทุกนัดสำหรับฤดูกาลนี้ นักวิจารณ์อย่างเอียน ไรท์ สรุปได้ดีก่อนเกมถึงสถานการณ์ของ 2 ทีม นี่คือศึกหนักของลิเวอร์พูล เลสเตอร์จะประกาศการเป็นผู้ท้าชิงตัวจริงให้ได้ ต้องชนะลิเวอร์พูลที่กระเสือกกระสนด้านผู้เล่น แต่ถ้าลิเวอร์พูลผ่านเกมนี้ได้ มันก็เหมือนเดิม นี่คือลิเวอร์พูลที่เป็นลิเวอร์พูลอันสุดยอด

 

ถ้าจะชนะลิเวอร์พูลในบ้านครั้งแรก หลังจาก 23 เมษายน 2017 ไม่มีโอกาสดีไหนกว่าครั้งนี้อีกแล้ว วันนี้ทำไม่ได้ ด้วยลิเวอร์พูลสภาพนี้ ก็อย่าหวังที่จะทำหากลิเวอร์พูลกลับมาสมบูรณ์

 

ทุกคนได้คำตอบว่า ลิเวอร์พูลยังเป็นหนึ่งในทีมลุ้นแชมป์หรือไม่ จาก 9 นัดแรก ที่ต้องผ่านทั้งเชลซี อาร์เซน่อล แมนฯ ซิตี้ และเลสเตอร์ เหนือสิ่งอื่นใด คือทางเลือกของเยอร์เก้น คลอปป์ ท่ามกลางวิกฤติ

 

มาติป-ฟาบินโญ่เล่นคู่กันเป็นครั้งแรก เจมส์ มิลเนอร์เล่นแบ็คขวา จีนี่ ไวนัลดุมคือจอมทัพแดนกลาง ประคอง นาบี เคต้าและเคอร์ติส โจนส์ มาเน่-ฟีร์มีโน่-โชต้า 3 ประสาน ทำให้คริสเตียน ฟุคส์อาจคิดว่า อยากเจอโม ซาลาห์มากกว่าเพราะโชต้าโหดกว่าบังโมในเวลานี้

 

คู่เซนเตอร์อาจมีเพลี่งพล้ำบ้าง แต่เลสเตอร์ไม่อาจฉวยโอกาสได้ โดยเฉพาะฮาร์วี่ย์ บาร์นส์และมาร์ก ออลไบรตัน เจมส์ มิลเนอร์แสดงให้เห็นว่า เขาสามารถเติมเกมรุกได้ดีแม้จะไม่ปรู๊ดปร๊าดแบบอเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แต่เก๋าและแน่นอน ขณะที่โรเบิร์ตสัน มาตรฐานเกมนี้ดีมาก การเล่นกับมาเน่ และแอสซิสต์ให้ดีโอโก้ โชต้า เติมทุกครั้งที่มีโอกาส

 

ปัญหาเกมรับของลิเวอร์พูลคือการป้องกันลูกตั้งเตะ ด้วยวิธีการดันแนวรับสูง คู่แข่งมีพื้นที่ระหว่างแนวสุดท้ายกับผู้รักษาประตูเยอะ หากพวกเขาไม่อาจชิงจังหวะตัดบอลแรกได้

 

แดนกลาง คือหัวใจของการเล่น 4-3-3 ไวนัลดุมนำการไล่ตัดเกมเลสเตอร์ เคต้าและโจนส์เพรซซิ่งแบบไม่เคยเห็นมาก่อน เคต้าเล่นดีจนน่าเสียดายหากต้องบาดเจ็บยาวๆอีก และโจนส์ฉายแววให้เห็นว่า ทำไมคลอปป์ถึงมีความหวังกับนักเตะคนนี้มาก อาจไม่ทำให้อุ่นใจที่สุด แต่ถ้าไม่มีจอร์แดน เฮนเดอร์สัน ผมว่าไม่มีทางเลือกดีกว่านี้

 

กระทั่งเคต้าบาดเจ็บ ตั้งแต่นาที 53 คลอปป์ส่งนีโก้ วิลเลี่ยมส์เล่นแบ็ค ดันมิลเนอร์เล่นมิดฟิลด์ซ้าย ด้วยความมุ่งมั่นของนักเตะแบบที่คลอปป์บอก “เด็กเครื่องติด ฟอร์มดีในแง่ของการเล่นฟุตบอล กองหน้าเล่นเกมรับ และเราน่ายิงได้มากกว่านี้ พวกเขาไม่ได้เล่นกันบ่อยนัก แต่วันนี้ถือว่าไม่เลว เกมรับเราไม่เสียประตู ผมชอบผลงานโดยรวมของทีม”

 

จะว่าไปแล้วบอสถ่อมตัวไปหน่อย นี่น่าจะเป็นเกมที่ลิเวอร์พูลเล่นดีกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งและเข้าฟอร์ม เจมี่ วาร์ดี เจมส์ แมดดิสันโดนตัดจากเกม ด้วยนักเตะที่ไม่ใช่ชุดดีสุดหรือเป็นการแก้ปัญหา มันสำคัญยิ่งกว่าการเป็นที่สองในตาราง แต้มเท่าท็อตแน่ม นั่นคือ ตัวเลือกที่แข็งแกร่งและโดนมองข้ามโดยตลอดว่า ลิเวอร์พูลมีดีแค่ 11 คน

 

ผมว่า ชุดแชมป์ 19-20 ยังมีทางเลือกไม่ครบเครื่องเท่านี้ และอาจแก้ปัญหาได้ไม่ดีเท่านี้ แต่นั่นเพราะความมั่นใจจากการคว้าแชมป์

 

ดีโอโก้ โชต้า คนแรกในประวัติศาสตร์ของลิเวอร์พูล ยิง 4 ประตูจาก 4 เกมแรกที่แอนฟิลด์ มากกว่านักเตะแมนฯ ยูฯ ทั้งทีมยิงรวมกันที่โอลด์ แทรฟเฟิร์ด (อันนี้แถมให้เพื่อความสบายใจ ถ้าได้พูดถึงแมนฯ ยูฯ นิดๆ) มาเน่ไม่ต้องพูดถึง มาตรฐานดี ขาดแต่การยิงประตู เหนือสิ่งอื่นใดคือ บ๊อบบี้ ฟีร์มีโน่ แสดงให้เห็นคลาสของฝีเท้า ประตูที่ได้คือโบนัส

 

ทุกคนมีช่วงฟอร์มตก มาเน่ก็ยิงไม่ได้มาหลายนัด บ๊อบบี้ ยิงที่แอนฟิลด์ฤดูกาลนี้ 2 ประตู มากกว่าฤดูกาลที่แล้วทั้งฤดูกาล แต่การเชื่อมเกมของบ๊อบบี้กลับมาเหมือนเดิม และบ่อยครั้งที่เขาลงมาล้วงบอลในแดนลึก

 

ดีโอโก้ โชต้า ผมว่าเขาคือ มาเน่-ฟีร์มีโน่-ซาลาห์ รวมอยู่ในคนๆเดียว

 

เวลานี้ เรื่องเดียวที่เสียหายคือฟุตบอลไม่อาจมีคนดูในสนาม เยอร์เก้น คลอปป์ ที่ปกติไม่ค่อยใส่ใจสถิตินัก ยังบอกว่า “เวลาในอนาคต เมื่อผมคิดถึงเรือ่งนี้ หวังว่าตัวเลขจะไม่หยุดแค่ 64 แต่มากกว่านี้ เราสนุกกับการเล่นที่นี่ สนามของเรา บ้านเรา ทุกอย่างเหมือนบ้านแม้จะไม่มีคนดู ซึ่ง b******s and b******* ไม่ถูกต้อง แต่เราต้องทำ”

 

 

บทความโดย  :: กิตติกร อุดมผล.  

อ่านข่าวฟุตบอลต่างประเทศ :: ข่าวฟุตบอลวันนี้

บทความฟุตบอล :: บทความฟุตบอลก่อนหน้านี้

เว็บดูบอลออนไลน์ :: ดูบอลออนไลน์ฟรี