ซื้อไม่ใช่คำตอบ และอาจเป็นแค่ความฝัน

คำถาม บอสสนใจลิโอเนล เมสซี่หรือไม่

JK: สนใจ (เสียงสูง) โค้ชคนไหนบ้างไม่อยากได้เมสซี่อยู่ในทีม

คำถาม บอสสนใจลิโอเนล เมสซี่หรือไม่

 

แต่ไม่มีทาง ตัวเลขต่างๆสูงเกินเอื้อม เพราะฉะนั้นเราไม่แม้แต่จะคิด ชัดเจนมาก ไม่มีทาง แต่เขาคือนักเตะที่เก่ง บอกตรงๆ ”

เพราะฉะนั้นใครที่ฝันอยากได้ลิโอเนล เมสซี่อยู่ในทีมลิเวอร์พูลเลิกฝันได้ ผมว่าเดอะ ค็อปจริงๆคงไม่มีใครคิดเรื่องนี้หรอก เพราะตัวเลขเกินจริงไปหน่อย แต่ถ้าเมสซี่มาอยู่แมนฯ ซิตี้ล่ะ คัลดรูน มูบารัค ประธานสโมสรเรือใบสีฟ้า ประกาศกึกก้องว่า พร้อมทำทุกอย่างเพื่อตอบสนองความต้องการของเป็ป อยากได้นักเตะคนไหนว่ามา เมสซี่เหรอ ขอให้อยากย้ายจริงเหอะ

“ถ้ามาจริง คงทำให้การชนะแมนฯ ซิตี้เป็นเรื่องยากกว่าเดิม แค่นี้ก็ยากอยู่แล้ว และดีสำหรับพรีเมียร์ ลีกแน่นอน มีนักเตะเก่งที่สุดในโลกอยู่ในพรีเมียร์ ลีก ผมไม่แน่ใจว่า พรีเมียร์ ลีกต้องการแรงโปรโมทอีกหรือไม่ แต่เมสซี่ทำให้ลีกนี้โด่งดังกว่าเดิมแน่”

ฤดูกาล 2020-21 ของลิเวอร์พูลเริ่มต้นแล้ว เดือนกว่าๆ หลังปิดฤดูกาลที่เกือบสมบูรณ์แบบ มีหลายอย่างที่ลิเวอร์พูลพลาดโอกาสไป เช่น แชมเปี้ยนส์ ลีกอีกสมัย สถิติไม่แพ้ใครตลอดฤดูกาล ชนะรวดทุกนัดในแอนฟิลด์ แต่ใกล้เคียงคำว่า สมบูรณ์แบบ ก็ยากที่จะทำให้ฤดูกาลใหม่นี้ดีกว่าเดิม

นั่นคือคำถาม และหลายทีมพยายามหาคำตอบว่า ทำอย่างไร พวกเขาจะโค่นลิเวอร์พูลได้ ไม่น่าแปลกใจ คู่แข่งลงทุนครึ่งพันล้านปอนด์เพื่อลดช่องว่างหรือทำให้ดีกว่าลิเวอร์พูลของเยอร์เก้น คลอปป์

“กว่าจะคว้าแชมป์แต่ละปีก็ยากอยู่แล้ว ฤดูกาลที่แล้วง่ายไหม ไม่ง่าย ดูเหมือนง่ายนะ แต่ตอนนั้นเราเหมือนเครื่องจักรเก็บคะแนน แต่เราต้องสู้เต็มที่ทุกนัด ทุกคนรู้ว่า ฤดูกาลใหม่ยากกว่าเดิม ไม่ใช่เพราะเราเป็นแชมป์เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา แต่เพราะฟุตบอลไม่เคยหยุดการพัฒนา”

“น่าแปลกใจ คนชอบคิดว่า เมื่อคุณทำได้เป็นครั้งแรก คุณจะทำไม่ได้อีกแล้ว ผมไม่รู้สึกแบบนั้น ผมอายุ 53 เป็นโค้ขมา 20 ปี ความมุ่งมั่นเหมือนเดิม แม้ผมจะไม่ได้แชมป์ทุกปีก็ตามที แต่ความมุ่งมั่นของผมไม่เปลี่ยนแปลง”

ลิเวอร์พูลชุดนี้อิ่มตัวแล้ว “แรงจูงใจไม่เคยเป็นปัญหา” คำตอบของคลอปป์อธิบายได้เป็นอย่างดี “ผมรู้ดี ทีมชุดนี้ไม่เคยหยุดพยายาม ผมต้องการแค่นี้ เราจะแพ้การแข่งขันไหม ผมไม่ชอบความพ่ายแพ้ แต่เราต้องแพ้เข้าสักที เราจะชนะแม็ทช์หรือไม่ หวังว่าจะชนะ นี่คือความท้าทายใหม่ เรารับมือกับสิ่งเหล่านี้อย่างไร จริงๆแล้วไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย ผมทุ่มเททุกอย่าง ผมตั้งมาตรฐานว่า นักเตะต้องทำแบบนั้นเหมือนกัน ซึ่งทำให้เรามีโอกาสดีทีเดียว นั่นคือบันไดขั้นแรกสู่การเป็นแขมป์”

แต่ละปี คลอปป์มีวิธีการจูงใจนักเตะต่างไป ฤดูกาลที่ผ่านมา เขาเชิญ นักเซิร์ฟเยอรมัน เซบาสเตียน สติวด์เนอร์ มาพูดเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ลูกทีม คราวนี้ ไม่มีอะไรแหวกแนว แต่เชื่อว่า การเข้าแคมป์ที่ออสเตรีย ขณะทีมอื่นลงสนามแข่งแชมเปี้ยนส์ ลีก อาจกระตุ้นให้นักเตะ  อยากทำให้ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม คว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก และแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2020-21

เคยรู้สึกไหมว่า เวลาคู่แข่งเจอลิเวอร์พูลแล้วเก่งจัง หรือพยายามกันสุดชีวิต ถ้าคิดแบบนั้นก็ไม่แปลก เพราะขนาดคลอปป์ยังคิดเช่นเดียวกัน

“ผมไม่แน่ใจว่า เราตกเป็นเป้าได้มากกว่าที่เป็นอยู่ เหมือนมีคนมองว่าแผนหลังเราคือเป้าขนาดใหญ่ นับตั้งแต่ผมอยู่ลิเวอร์พูล อดแปลกใจไม่ได้ว่า ทำไมเกมกับลิเวอร์พูลถึงมีความหมายกับทุกทีม แม้กระทั่งช่วงที่เราไม่แข็งแกร่งเหมือนอดีต อยู่ที่ 7 ที่8 ในลีก แต่ถ้าใครก็ตามมาเยือนแอนฟิลด์ พวกเขาจะสู้แบบสุดๆ เรื่องนี้ไม่เคยเปลี่ยน ฤดูกาลที่แล้วทุกทีมอยากชนะเรา แต่ไม่กี่ทีมทำได้”

“นี่แหละคือการแข่งขัน  ไม่สำคัญหรอกที่ทีมอื่นอยากชนะเรามากสิ่งสำคัญกว่า เราอยากชนะมากแค่ไหน”

การแถลงข่าวเกมคอมมิวนิตี้ ขิลด์กับอาร์เซน่อลหนีไม่พ้นเรื่องธิอาโก้ อัลคันทาร่า ลักษณะการทำธุรกิจของลิเวอร์พูลชัดเจน ขายเดยัน ลอฟเรน ซื้อคอสตาส ซิมิกาส แล้วมิดฟิลด์ชาวสเปนต้องแลกด้วยใคร

“เราไม่เคยมีเงื่อนไขแบบนี้ และจะไม่มีเด็ดขาด ประมาณว่า ผมบุกเข้าห้องทำงานไมค์ กอร์ดอน แล้วบอกว่า “ผมต้องการเงินซื้อนักเตะ หากไม่ได้เราต้องตายแน่ๆ ทีมอื่นดำเนินนโยบายอย่างไร แตกต่างกับเรา ฤดูกาลที่แล้ว ฤดูกาลก่อนก็เหมือนกัน เรามีวิธีการของเรา และไม่ทำให้เราเสียหายนะ ผมไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ และไม่ต้องการเปลี่ยนด้วย ทุกอย่างของเราลงตัว เรามีทีมที่ดี”

แต่คู่แข่งก็ซื้อกันแบบไม่เกรงใจ เปิดตัวนักเตะวันละคนสองคน “เราไม่สามารถซื้อนักเตะมารวดเดียว 5 คน เพราะคนอื่นอยากให้เราซื้อ ผมไม่เคยซื้อนักเตะเพื่อความพอใจของคนอื่น ทุกคนจะคิดว่า เราต้องซื้อเพิ่ม แต่ตอนนี้ วิธีการของเราได้ผล แต่ใช่ว่า มันจะได้ผลตลอดไป”

วิธีการที่เราคุ้นเคยคือ ซื้อขายแลกเปลี่ยน จนกว่าจะได้ทีมที่พอใจ คำว่าพัฒนา ปรับปรุงให้ดีขึ้นไม่ค่อยได้เห็น นอกจากวิธีของคลอปป์ในปัจจุบัน

“ความจริงคือการสร้างทีม ที่แพ้ยาก ทีมที่สร้างปัญหาให้คู่ต่อสู้ นั่นคือสิ่งสำคัญที่สุด คุณไม่สามารถซื้อทุกอย่างที่ต้องการได้หรอก ชีวิตนี้ เชลซีดูดีนะ จากนักเตะที่พวกเขาซื้อมา แมนฯ ยูฯก็คงซื้อ แมนฯ ซิตี้ซื้อแน่นอน สุดท้าย เวลาลงสนาม คุณใช้นักเตะได้แค่ 11 คน และตัวสำรองอีก 3 คน บางเกมเราก็ไม่ใช้นะ การเสริมทีมเป็นเรื่องดีต่ออนาคต ในระยะยาว แต่กับปัจจุบัน ไม่ใช่ เพราะคุณต้องปรับให้นักเตะคุ้นเคยกันก่อน”

“ทีมเราคุ้นเคยกัน ไม่ใช่ข้อได้เปรียบมากมายอะไร แค่ดีต่อเรา แต่เรารู้ว่า เรากำลังทำอะไรอยู่ ณ เวลานี้”

เวลาเตรียมตัวมีไม่มากนัก ไม่มีนักเตะชื่อดังเข้ามา แต่ลิเวอร์พูลมีเยอร์เก้น คลอปป์

“ผมมีความสุขนะ ที่ฟุตบอลแข่งขันได้อีก  เราพยายามทำให้ทีมดีขึ้น ด้วยการการพัฒนาพวกเรากันเอง เราจะพัฒนาพวกเขาอย่างไร ทำให้พวกเขาพร้อมสำหรับการแข่งขันได้อย่างไร นื่คืองานของเรา ทีมขนาดใหญ่จำเป็นสำหรับฤดูกาลหน้าไหม ผมไม่รู้ เราคงได้เห็นกัน แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรบอกว่า จำเป็น”

“ผมไม่ใช้ชีวิตกับความฝัน มีคนบอกว่า ต้องซื้อ ต้องซื้อ คนนั้นคนนี้ พอซื้อแล้วถึงรู้ว่า ของใหม่ก็สร้างปัญหาได้เหมือนกัน ดังนั้น เรารับมือด้วยสิ่งที่เรามีอยู่ ซึ่งดีอยู่แล้ว รับมือกับสถานการณ์เรา ซึ่งทำมาได้สักระยะ และเราจะทำให้นานกว่านี้”

 

 

บทความโดย  :: กิตติกร อุดมผล

อ่านข่าวฟุตบอลต่างประเทศ :: ข่าวฟุตบอลวันนี้

บทความฟุตบอล :: บทความฟุตบอลก่อนหน้านี้

เว็บดูบอลออนไลน์ :: ดูบอลออนไลน์ฟรี