คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ชนะคือแชมป์ แพ้ก็แค่อุ่นเครื่อง

คอมมิวนิตี้ ชิลด์ คือเราว่า ลิเวอร์พูลต้องเจออะไรบ้าง

กับความพยายามคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก 2 ฤดูกาลติดต่อกัน

นั่นสำคัญกว่าการแพ้จุดโทษ 2  ฤดูกาลติดต่อกัน

อาร์เซน่อลกลับสู่ยุคจอร์ช เกรแฮม ถึงแม้ไม่น่าเบื่อขนาดเรียกว่า Boring Boring อาร์เซน่อล แต่มิเคล อาร์เตต้าใช้นักเตะได้เหมาะสมตามความสามารถ เขาเคารพความเป็นลิเวอร์พูล รู้ว่าลิเวอร์พูลมาไม้ไหน

ลิเวอร์พูลมาถึงจุดที่ว่า เล่นด้วยเอกลักษณ์และอัตตลักษณ์ของตัวเอง อย่างที่เยอร์เก้น คลอปป์ต้องการ มีสักกี่ทีมที่กล้าเปิดแกมแลกกับลิเวอร์พูลชุดนี้ ความจริง อาร์เซน่อลไม่ได้เล่นแบบนี้กับลิเวอร์พูลเท่านั้น มันคือแผนเดียวกับที่ปราบแมนฯ ซิตี้และเชลซีในเอฟเอ คัพ

ตั้งรับแล้วโต้กลับ

ขาดนักเตะหลักๆไป 6 คน คือบททดสอบว่า ลิเวอร์พูลจะเอาตัวรอดอย่างไรจากฤดูกาลที่ยาวนาน ผมเชื่อว่า หากเกมนี้ลิเวอร์พูลมีเทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์และจอร์แดน เฮนเดอร์สัน เกมจะต้องดีกว่านี้ โดยเฉพาะจังหวะสร้างเกมและโอกาสทำประตู

ลิเวอร์พูลคือเครื่องจักร หรืออะไรสักอย่างที่ทำงานด้วยชิ้นส่วนจำเพาะ นีโก วิลเลี่ยมส์คือนักเตะซึ่งลิเวอร์พูลพยายามปั้นให้เหมือนอเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ด้วยวัย 19 ปี เวลาอยู่ข้างเด็กคนนี้ และผมไม่คิดว่า จังหวะที่ลิเวอร์พูลเสียประตู พี่เทรนต์จะทำได้ดีกว่าวิลเลี่ยมส์

อย่าลืมว่า ปีแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง คือกองหน้าระดับเวิร์ลด์ คลาสคนหนึ่ง เปิดพื้นที่นิดเดียวเขาเปลี่ยนสกอร์ได้

แต่เกมรุกด้านขวา และเกมรุกโดยรวมของลิเวอร์พูลจะดีกว่านี้ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ สามารถดึงทำให้โม ซาลาห์ ไวนัลดุมกับมิลเนอร์กลับมาสู่เกม และสร้างปัญหาให้เกมรับด้านซ้ายของอาร์เซน่อลมากกว่าที่เป็นอยู่

ผมเห็นเช่นเดียวกับเยอร์เก้น คลอปป์ ลิเวอร์พูลไม่แพ้เกม แต่แพ้การแข่งขันหรือการชิงแชมป์

สำหรับผม สิ่งสำคัญคือพรีเมียร์ ลีก แชมเปี้ยนส์ ลีก เอฟเอ คัพ และลีก คัพ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ นับเมื่อได้แชมป์ แต่ถ้าแพ้นี่แค่เกมอุ่นเครื่องให้รู้ข้อผิดพลาด อีก  สัปดาห์ข้างหน้า ลิเวอร์พูลจะพลาดไม่ได้แม้แต่เกมเดียว นั่นคือกรอบความคิดของทีมชุดนี้ ในเกมที่มีผล

ฤดูกาลที่แล้ว ลิเวอร์พูลมีคำตอบให้เกือบทุกอย่าง อย่างน้อยก็  27 เกมแรกของฤดูกาล ณ เวลานั้นเหมือนแชมป์อยู่ในมือลิเวอร์พูล ไม่ใช่ว่าเกมรุกลิเวอร์พูลดีอย่างเดียว แต่คลอปป์แก้ปัญหานักเตะบาดเจ็บได้ นักเตะที่บาดเจ็บคือตัวหลัก ไล่ตั้งแต่โจเอล มาติป อลิซง ฟาบินโญ่และนาบี เคต้า

ระหว่างทางยังโม ซาลาห์ก็เจ็บ หรือแม้แต่จอร์แดน เฮนเดอร์สันเจ็บและพลาดการลงเล่น 4 นัดสุดท้ายของฤดูกาล สถานการณ์ไม่แตกต่างจากเกมคอมมิวนิตี้ ชิลด์ เช่นเดียวกับการเล่นของคู่ต่อสู้

ลิเวอร์พูลจะสร้างโอกาสเข้าทำอย่างไร เมื่อคู่ต่อสู้รับลึกแบบนี้ กับอาร์เซน่อลที่แอนฟิลด์ อูไน เอเมอรี่พยายามเล่นเกมรุกสู้ แต่เมื่ออาร์เตต้าเข้ามา ความกดดันต่อผจก. มีน้อยกว่า เขาแค่ประคองเอาตัวรอด แล้วหวังว่าฤดูกาลใหม่จะมีอะไรใหม่ๆ แต่ถึงตอนนี้ ผมว่า อาร์เตต้าคงเน้นเกมรับแล้วโต้ อาร์เซน่อลไม่มีศักยภาพที่ดีเหมือนยุคอาร์แซน เวนเกอร์ และเกมแบบนี้ทำให้พวกเขาแพ้ยาก อาจไม่ได้แชมป์ลีก แต่บอลถ้วยก็ไม่แน่เหมือนกัน

กลาง 3 คนที่ออกสตาร์ท ไว้ไจได้เรื่องประสบการณ์ ไวนัลดุม มิลเนอร์ ฟาบินโญ่ แต่ อาจมีแค่ไวนัลดุมคนเดียวที่ลักษณะการเล่นขยับช่วย ฟีร์มีโน่ที่แทบโดนตัดจากเกม นั่นนำไปสู่การส่งเคต้าและมินามิโนะ ลงสนามในครึ่งหลักง และเกมรุกลิเวอร์พูลหวือหวากว่าเดิม

คลอปป์เปลี่ยนแท็คติก ส่งเคต้าแทนมิลเนอร์ และมินามิโนะแทนวิลเลี่ยมส์ น 59 เพราะทีมต้องการเกมรุก ต้องการประตูตีเสมอ และสร้างโอกาสให้ดีกว่าเดิม ครึ่งแรก ลิเวอร์พูลเล่นดีกว่า ครองบอลดีกว่าก็จริง แต่แทบทำอะไรร็อบ โฮลดิ้ง ดาวิด รุยซ์และพอล เทียร์นี่ย์ไม่ได้เลย

ความสำคัญของไวนัลดุมกับทีมจากเกมนี้ อาจส่งผลให้ลิเวอร์พูลต้องคิดมากขึ้น เจรจาต่อสัญญา หรือปล่อยให้เวลาผ่านไป พร้อมหาคนใหม่มาแทนมิดฟิลด์ดัตช์

กลางสามคนได้รับการป้องจากนักเตะอีก 5 คน เหลือโอบาเมยองไว้รอสวนกลับ ลิเวอร์พูลพยายามต่อบอล เพื่อหาทางเจาะเข้าทำให้ได้ เมื่อเคต้าและมินามิโนะเล่นเกมรุกดูหวือหวากว่าเดิม  จนนำมาสู่การตีเสมอของมินามิโนะ วีเออาร์เช็คยืนยันว่า ไม่อาจบอกได้ว่าบอลโดนแขนโม ซาลาห์อย่างชัดเจน แต่ถ้าโดนก็อาจเป็นเซดริก ซัวเรสมากกว่า

การมาของเคต้าเท่ากับโกเมซต้องเล่นแบ๊ค ซึ่งไม่ใช่ปัญหา แต่ฟาบินโญ่ต้องเล่นเซนเตอร์ เพราะคลอปป์ต้องการเกมรุก จะเปลี่ยนตัวแบบกั๊กๆ คงไม่ให้คำตอบ เพราะทีมต้องการประตู ไม่งั้นก็แพ้เหมือนกัน

ที่สำคัญเขามั่นใจว่าอาร์เซน่อลไม่น่าจะผ่านเกมรับของทีมได้ดี เมื่อตีเสมอ ผมคิดว่า เกมนี้ลิเวอร์พูลไม่แพ้ใน 90 นาทีแน่ แต่จุดโทษไม่แน่

เรียน บริวส์เตอร์ ผมอยากเห็นเขาลงสนาม และนานกว่านี้ คิดเล่นลองสลับกัน เคอร์ตีส โจนส์ลงเล่นน 82 แทนบ๊อบบี้ ฟีร์มีโน่ หากเป็นบริวส์เตอร์ อาจมีผลต่อเกมมากกว่านี้ หากมองว่า บริวสเตอร์มีหน้าที่ทำประตู แต่โจนส์ลงมาเพื่อทำเกม

จุดโทษ มันก็ต้องมีคนพลาดสักคนแหละ โชคร้ายที่เป็นบริวสเตอร์ สำหรับถือว่า การยิงจุดโทษคือวินาทีสำคัญของบริวสเตอร์ที่บอกว่าเขาพร้อมแล้วสำหรับบทบาทมากกว่านี้ในทีมลิเวอร์พูล จุดโทษไม่ง่ายอย่างที่คิด แต่อย่าลืมว่า  9/10 ครั้งต้องเข้า

เท่าที่ดูการเล่นของบริวสเตอร์ก่อนหน้านี้  ผมว่าเขาเป็นคนที่ยิงบอลดี จุดโทษไม่น่าใช้ปัญหา เหมือนที่คลอปป์บอก “มันคือการเรียนรู้ บริวสเตอร์เป็นส่วนหนึ่งของความพ่ายแพ้ ที่เราต้องยอมรับ ผมไม่เคยเห็นเรียนพลาดจุดโทษตั้งแต่รู้จักกันมา แต่มันเกิดขึ้น ผมเปลี่ยนไวนัลดุมออก เพราะต้องการให้เรียนอยู่ในสถานการณ์ยิงจุดโทษ ผมว่าเขาเป็นคนมั่นใจ ยิงดี ถ้าจะพลาดก็เป็นผมนี่แหละที่ตัดสินใจแบบนั้น”

ลิเวอร์พูลคงไม่ปรับการเล่นอะไรจากการแพ้นัดนี้ อยู่ที่ผู้เล่นหลักๆ หายเจ็บพร้อมลงสนามหรือไม่ การเจอลีดส์ ผมคิดว่ามาเซโล่ เบลซ่าจะใช้แผนแบบอาร์เตต้าด้วยซ้ำไป พวกเขาต้องการทดสอบตัวเองว่า อยู่ระดับไหนของลีก ฟุตบอลแบบตั้งรับแล้วสวนกลับได้ สร้างตำนานหรือเทพนิยายมาพอสมควร

แต่ฟุตบอลบุกสร้างผลงานและความสำเร็จมาทุกยุค

หากลิเวอร์พูลใช้โอกาสที่สร้างได้ ฤดูกาลนี้ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่ไม่ใช่ว่า ทีมจะได้แขมป์ แค่มีโอกาสลุ้นไปยาวๆ แต่ลงเอยอย่างไรก็ติดตามดูกันไป สุดท้ายมันเป็นการแข่งกับตัวเอง เล่นให้ได้ตามมาตรฐานเดิม ที่เหลือให้คู่ต่อสู้ดิ้นรนเอง

บทความโดย  :: กิตติกร อุดมผล

อ่านข่าวฟุตบอลต่างประเทศ :: ข่าวฟุตบอลวันนี้

บทความฟุตบอล :: บทความฟุตบอลก่อนหน้านี้

เว็บดูบอลออนไลน์ :: ดูบอลออนไลน์ฟรี