ความหิวกระหาย

ความหิวกระหาย คือเครื่องหมายคำถามอันใหญ่สำหรับลิเวอร์พูล

หลังจากความสำเร็จต่างๆ เกิดขึ้นต่อเนื่อง ตั้งแต่แชมป์ UCL 19  แชมป์สโมสรโลก แชมป์พรีเมียร์ ลีก 19-20

ความหิวกระหาย คือเครื่องหมายคำถามอันใหญ่สำหรับลิเวอร์พูล

“ลิเวอร์พูลไม่หิวกระหายเหมือนเดิม ผมมั่นใจ” เปาโล ดิ คานิโอ นักเตะอิตาเลี่ยนให้สัมภาษณ์กับ เลโก้ ดิ แบร์โกมาโม่ก่อนเกมอตาลันต้า-ลิเวอร์พูลเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา

หลายต่อหลายคนถามแบบนี้ แต่มันไม่เคยเกิดขึ้นในใจเยอร์เก้น คลอปป์ ซึ่งพูดเสมอว่า เขาดีใจที่นักเตะแสดงความมุ่งมั่นเหมือนเดิม “ผมไม่เคยเคลือบแคลงความมุ่งมั่นและหิวกระหายของเด็กผม” เขาตอบเช่นนี้ทุกครั้งที่ คนพูดถึง ความหิวกระหายของนักเตะ

ลิเวอร์พูลเริ่มฤดูกาลไม่ดี เกือบไม่ชนะลีดส์ 4 นัดรวดในทุกรายการ จนกระทั่งตกรอบ 4  คาราบาว คัพเพราะแพ้จุดโทษอาร์เซน่อล นั่นคือจุดเริ่มต้นการไม่ชนะ 3 เกมในทุกรายการ และการสูญเสียเวอร์จิล ฟาน ไดค์ กองหลังดีที่สุดในโลก ซึ่งมีแต่คนมองว่า แบกความสำเร็จของลิเวอร์พูลไว้แต่เพียงผู้เดียว

คลอปป์และลิเวอร์พูลจะตอบสนองต่อการสูญเสียนักเตะที่ดีขนาดนั้นได้อย่างไร แถมตัวเลือกที่มีอยู่ ไม่ได้กระพี้ของบิ๊กเวิร์จ

โจ โกเมซ เนท ฟิลลิปส์และรีหส์ วิลเลี่ยมส์ แสดงให้เห็นมาสเตอร์ คลาสของลิเวอร์พูลในการค้นหานักเตะ เช่นเดียวกับคุณภาพของทีม รวมถึงการโค้ชนักเตะ

ใช่แล้วครับ ฟุตบอลเล่นเป็นทีม ต่อให้คุณมีนักเตะระดับโลกอยู่ในทีม แต่ต้องการความสามารถของนักเตะอีก 10 คนในสนาม หรือตัวสำรองอีก 3-5 คนในแต่ละเกม

 

นับแต่เสียฟาน ไดค์ ลิเวอร์พูลขนะรวดทุกรายการ อาจไม่เลอเลิศนัก อาแจ๊กซ์ด้วยประตูที่นักเตะเจ้าถิ่นสกัดเข้าเอง เชฟฟิลด์ ยูฯ ก็ไล่ตามตีเสมอและแซงชนะ มิดต์จิลลันด์ก็ดูไม่สมน้ำสมเนื้อ หากเทียบกับอตาลันต้าที่บุกถล่มทีมเล็กๆจากเดนมาร์ก เวสต์ แฮมก็จุดโทษ

การพ่ายแพ้ในบ้านหนักสุดเป็นลำดับ 2 ของทีมอิตาลีสำหรับการเล่นฟุตบอลยุโรป หลังบาเยิร์นเคยถล่มโรม่า 7-1 เมื่อปี 2014 ที่สำคัญเยอร์เก้น คลอปป์ไม่เคยชนะในอิตาลีเลย แพ้รวด 5 นัด แพ้นาโปลี 3 ครั้ง ยูเวนตุสและโรม่า ทีมละนัด

ด้วยการส่งผู้เล่นอายุไม่ถึง 20 ปี ลงสนามพร้อมกัน 2 คนเป็นครั้งแรก หลังจากปี 2006 เกมเจอกาลาตาซาราย มีแดนนี่ กัตธรี่และลี เพลเทียร์ลงเล่น

3 ปีก่อนที่เพรนตัน พาร์ค ของทรานเมียร์ โรเวอร์ ทีมเยาวชนลิเวอร์พูลลงเล่นยูฟ่า ยูธ ลีกกับมาริบอร์ มีรีหส์ วิลเลี่ยมส์และเคอร์ตีส โจนส์ลงเล่น และลิเวอร์พูลชนะ 3-0 ข้างสนามคนที่คุมทีมคือ สตีเวน เจอร์ราร์ด อดีตกัปตันทีมผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง กับการคุมทีมชุดแรกในชีวิต

เคอร์ตีส โจนส์ ได้โอกาสเล่นทีมชุดใหญ่ก่อนวิลเลี่ยมส์ โลกแห่แหนเมื่อทำประตูให้ทีมชนะเอฟเวอร์ตันในเอฟเอ คัพเมื่อฤดูกาลที่แล้ว แต่เสียงวิจารณ์เยอะในเกมกับเวสต์ แฮมที่คลอปป์หยิบยื่นโอกาสให้เป็นตัวจริงในพรีเมียร์ ลีก ขณะที่รีหส์ วิลเลี่ยมส์ มีโอกาสเรียนรู้ด้วยการเล่นเคียงข้างบิ๊กเวิร์จในคาราบาว คัพ เหมือนชะตาลิขิตให้สักวันหนึ่ง เขาต้องทำหน้าที่สำคัญแทน

ปิดฤดูกาลที่แสนสั้น ลิเวอร์พูลคว้าคอสตาส ซิมิกาสมาร่วมทีม ซึ่งอาจไม่สร้างความพึงพอใจให้แฟนบอลที่เสพย์ติดความสำเร็จในช่วงสั้นๆ ต่อด้วยธิอาโก้ อัลคันทาร่า ก็พอจะดับอารมณ์พลุ่งพล่านของแฟนบอลที่อยากเห็นลิเวอร์พูลครองความยิ่งใหญ่ด้วยนักเตะระดับโลก

19 กันยายน ลิเวอร์พูลคว้าดีโอโก้ โชต้าแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย หลายคนบอกว่าแพงไป 45 ล้านปอนด์ แต่ตอนนี้เชื่อเถอะว่า โชต้าแสดงให้เห็นความเฉียบแหลมของทีมงานค้นหานักเตะ โดยเฉพาะเป็ป ไลน์เดอร์สที่รู้จักโชต้าตั้งแต่สมัยอยู่ปอร์โต้

เหนือสิ่งอื่นใด คือมันสมองของคลอปป์ในการเลือกใช้โชต้า จังหวะ ตำแหน่ง และโอกาส

โชต้าให้สัมภาษณ์หลังเกมกับเวสต์ แฮมว่า ขณะนั่งเป็นตัวสำรอง เขาพยายามศึกษาเกม เผื่อว่าผจก.จะเรียกใช้ตอนไหน จะได้พร้อมที่สุด

ส่วนคลอปป์ไม่เคยเลยที่จะเอาเครดิตต่างๆ มาเป็นเรื่องของตัวเอง เหมือนการชนะอตาลันต้า

“นี่คือผลงานที่เราต้องการ เพราะคู่ต่อสู้แข็งแกร่งมาก สร้างปัญหาให้เรามากมาย เด็กๆเล่นได้ยอดเยี่ยม กองหน้าก็ป้องกัน เล่นเกมรุก เฉียบขาด มิดฟิลด์มีระบบ จัดการดี มุ่งมั่น เข้าใจเกมในระดับท็อป แนวรับดันขึ้นสูง เพราะรู้ว่า มูเรียลและซาปาต้าอันตรายแค่ไหน”

แม้แต่โกเมซที่เจอความกดดันเพราะต้องเป็นเสาหลัก ยามไม่มีทั้งฟาน ไดค์และมาติป คลอปป์ก็รู้ว่า เกมของโกเมซไม่ดีสุด 100 % แต่คืนนี้เขารู้จังหวะที่จะให้กำลังใจนักเตะ

“โกเมซคือนักเตะหลักคนหนึ่งของเรา คืนนี้ ผมไม่คิดว่า คุณจะปกป้องเขาได้3-4 เกมติดต่อกัน แต่คืนนี้ผมเถียงแทนเขาได้ นั่นคือหัวใจ คุณชนะ 5-0 อาจยิงได้มากกว่านี้ แต่ประตูของเรายังต้องเซฟระดับโลกถึง 3 ครั้ง”

นอกจากความสามารถ โชคก็มีส่วน เช่นการยิงของซาปาต้าหลังจากโกเมซเข้าพรวด หากเป็นเกมกับแอสตัน วิลล่า ลูกยิงของมูเรียลและซาปาต้าที่อลิซงรับกระฉอก อาจแฉลบโกเมซเข้าประตูทั้งหมด

ต้องขอบคุณแอสตัน วิลล่าจริงๆ ที่ช่วยกระตุ้นลิเวอร์พูลว่า พวกคุณไม่ใช่ที่สุดของโลก หรือไม่มีวันแพ้

แต่ถ้าสู้เต็มที่เหมือนทุกเกมหลังจากนั้น อะไรก็เกิดขึ้นได้ การเป็นที่หนึ่งในตาราง การชนะรวด 3 นัดแรกของรอบแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ ลีกครั้งแรก และไม่เสียประตูเลย

เกมนี้ไม่จำเป็นต้องพูดหรืออธิบายเรื่องแท็คติกแบบเยอร์เก้น คลอปป์บอก เพราะด้วยมาตรฐานนี้ ต่อให้แท็คติกแบบไหนก็อาจไม่อาจหยุดลิเวอร์พูลที่แบร์กาโม่ได้

ปล ดีโอโก้ โชต้าผลงานดี บ๊อบบี้จะได้พักบ้าง ไม่ต้องเหนื่อยจนรู้สึกว่า ห้ามเจ็บห้ามป่วยห้ามลาอีกต่อไป

 

 

บทความโดย  :: กิตติกร อุดมผล

อ่านข่าวฟุตบอลต่างประเทศ :: ข่าวฟุตบอลวันนี้

บทความฟุตบอล :: บทความฟุตบอลก่อนหน้านี้

เว็บดูบอลออนไลน์ :: ดูบอลออนไลน์ฟรี