ครบรอบ 10 ปีพอดี สำหรับดาร์บี้แม็ทช์เมอร์ซี่ย์ไซด์คราวนี้
ทั้งวัน เวลา และสถานที่ 17 ตุลาคม 18.30 น และกูดิสัน พาร์ค
แต่ผลการแข่งขันเป็นอย่างไร ยากจะคาดเดา แต่อาจเป็นการเจอกันในช่วงเหมาะที่สุด
เอฟเวอร์ตัน ผลงานดีเป็นอันดับ 1 ของลีก
ลิเวอร์พูลบาดเจ็บจากการโดนแอสตัน วิลล่าถล่ม 7-2 ในเกมล่าสุด
17 ตุลาคม 2010 ทั้ง 2 ทีมแพ้ 3 จาก 7 เกมแรก เอฟเวอร์ตันอยู่อันดับ 17 ในตาราง ประตูได้เสีย -1 มี 6 คะแนน ลิเวอร์พูลอยู่ที่ 18 ประตูได้เสีย -4 มี 6 คะแนน เป็นการเริ่มต้นฤดูกาลแย่ที่สุดของลิเวอร์พูลนับจากปี 1953 และอาจเลวร้ายกว่านั้น เพราะสถานการณ์นอกสนาม และ ผจก. ทีม รอย ฮ็อดจ์สัน
จบเกม แฟนเอฟเวอร์ตันร้อง ตกชั้น ตกชั้น พร้อมจะโกนบอกจอห์น ดับเบิ้ลยู เฮนรี่ว่า ซื้อผิดทีมของเมืองลิเวอร์พูล
เอฟเวอร์ตันชนะ 2-0 ด้วยประตูของทิม เคฮิลล์และมิเคล อาร์เตต้า เอฟเวอร์ตันขึ้นไปอยู่ที่ 11 ส่วนลิเวอร์พูล ตกไปอยู่ที่ 19 แต้มเท่าเวสต์ แฮม อันดับ 20 นั่นเป็นประวัติศาสตร์ที่ไม่น่าจดจำของลิเวอร์พูล สโมสรนี้ไม่เคยอันดับต่ำเท่านี้มาก่อนและไม่เคยเกิดขึ้นอีกเลย
มกราคม 2011 รอย ฮ็อดจ์สันโดนปลด เคนนี่ ดัลกลิชเข้ามาแทนที่ เขานำทีมจบเป็นที่ 6 เหนือเอฟเวอร์ตัน 1 ทีม มีคะแนนมากกว่า 4 คะแนน
3 ฤดูกาลเท่านั้นที่เอฟเวอร์ตัน อันดับเหนือลิเวอร์พูล คือ 04/05 4-5 11/12 7-8 และ 12/13 6-7 นี่อาจเป็นฤดูกาลที่เอฟเวอร์ตันมองว่าพวกเขาอาจทำได้ดีกว่าลิเวอร์พูล แต่นั่นคือการมองจากเกมแค่ 4 นัด ต้องไม่ลืมว่า ฤดูกาลที่ผ่านมา ลิเวอร์พูลคือแชมป์ เหนือกว่าเอฟเวอร์ตัน 50 อันดับ 12 ถึง 50 คะแนน
เอฟเวอร์ตันเล่นดาร์บี้แม็ทช์โดยอันดับเหนือกว่าลิเวอร์พูล 13 ครั้งจาก 56 นัดในพรีเมียร์ ลีก แต่เอาชนะได้ในปีที่อันดับเหนือกว่าก่อนเกมแค่ 4 ครั้ง ขณะที่เอฟเวอร์ตันไม่ชนะลิเวอร์พูลอีกเลยหลังจากปี 2010 19 เกม เสมอ 11 แพ้ 8 และลิเวอร์พูลไม่แพ้เอฟเวอร์ตันติดต่อกัน 22 นัดในทุกรายการ ถือเป็นสถิติไม่แพ้ทีมเดียวยาวนานที่สุด เท่าแอสตัน วิลล่า
17 ตุลาคมยังเป็นเกมแรกของเยอร์เก้น คลอปป์ในการคุมลิเวอร์พูล เมื่อปี 2015 เสมอท็อตแน่มที่ลอนดอน 0-0 ตลอด 5 ปีที่คุมลิเวอร์พูล คลอปป์ไม่เคยแพ้เอฟเวอร์ตันจาก 11 นัด ชนะ 7 เสมอ 4 แต่ 3 เกมล่าสุดที่กูดิสัน พาร์ค จบด้วยการเสมอ 0-0 ยังไม่เคยมีเกมพรีเมียร์ ลีกคู่ไหนที่เสมอ 0-0 ติดต่อกัน 4 ฤดูกาล
เอฟเวอร์ตันยังไม่เคยชนะ 5 เกมรวดในลีกนับจากนัดแรก มาตั้งแต่ปี 1938/39 เกมที่ 5 ดังกล่าวชนะอาร์เซน่อล ซี่งเป็นแชมป์ลีก ด้วยสกอร์ 2-1
เยอร์เก้น คลอปป์ให้สัมภาษณ์กับฟุตบอลโฟกัสทางบีบีซีเมื่อ 16 ตุลาคมว่า “ทัศนคติของผมต่อคาร์โล อันเชล็อตติ ชัดเจนมาก ผมนับถือเขาอย่างสูงสุด เขาเป็นมนุษย์ที่ยอดเยี่ยม ตอนได้ข่าวว่าเขาเซ็นสัญญากับเอฟเวอร์ตัน ผมบอกตัวเองว่า นี่แหละคุ่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง พวกเขาได้นักเตะที่ต้องการสำหรับการพัฒนาทีม จากเดิมที่ดีอยู่แล้ว ตอนนี้พวกเขาคุ้นเคยสิ่งที่คาร์โลต้องการ เพราะฉะนั้นเอฟเวอร์ตันคือทีมที่แข็งแกร่ง”
ขณะเดียวกัน คาร์โล อันเชล็อตติก็ยอมรับคลอปป์ไม่น้อย “ถือเป็นเกียรติที่เขานับผมเป็นเพื่อน ทุกครั้งที่เจอกัน เขาทำให้ผมคึกคัก เขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก”
เอฟเวอร์ตันอาจผลงานดีก็จริง ยิงได้ 12 เสีย 5 โดยเฉพาะ 2 เกมในบ้านกับไบรท์ตันและเวสต์ บรอม ซึ่งอาจเป็นการเสียเพราะความผิดพลาด “เล่นโดยไม่มีคนดู คุณกังวลเรื่องการป้องกันน้อยลง แต่ในอนาคต ทีมเราจะระวังในการป้องกันมากกว่าเดิม” คาร์โลกล่าวก่อนเกม และพูดถึงเกมเมื่อ 10 ปีก่อนว่า “ผมไม่สนใจเรื่องนั้น เราอยู่ในปัจจุบัน การเล่นฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมและน่าตื่นเต้น แต่คุณต้องพร้อม ตอนนี้ ความมุ่งมั่นในทีมเปลี่ยนไป มีความมั่นใจ และต้องรักษาให้ได้ เมื่อเจออุปสรรค”
อุปสรรคหรือบททดสอบอาจไม่มีอะไรยากกว่า ดาร์บี้แม็ทช์ การเจอแชมป์ที่ต้องการเลียแผล
“การแพ้ 7-2 อาจมีข้อดี เพราะเราต้องการโดนต่อยหน้าจังๆ (เตือนสติ) สักที ผมไม่มั่นใจกับเรื่องนั้น แต่เอาเป็นว่า ผมมองแบบนั้น ตอนนี้ ไม่มีปัญหาแล้ว อีกอย่าง การแพ้ 7-2 ไม่มีอะไรดีเลย นั่นอาจเป็นเกมสำคัญที่สุดในฤดูกาลของเรา ดังนั้นใช้ให้เป็นประโยชน์”
“เอฟเวอร์ตันเล่นดีก่อนเบรกทีมชาติ ฟอร์มดีไม่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ เรามีปัญหาที่วิลล่า มันก็ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติเหมือนกัน เรายังเป็นทีมที่ทุกคนไม่อยากเจอ ไม่ว่าจะทีมไหนก็ตาม เอฟเวอร์ตันก็เหมือนกัน”
ลิเวอร์พูลอยู่ในระดับสูงสุดของการป้องกันเชื้อโควิคสำหรับอังกฤษ กิจกรรมหลายอย่างไม่อาจทำได้ ฟุตบอลอาจเป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะช่วยเมืองนี้
“เราคือสองทีมจากเมืองนี้ ทั้งเมืองรวมเป็นหนึ่งเดียว ดูเกมนี้ นั่นอาจทำให้เกมนี้สำคัญกว่าเดิม ผมคิดว่าฟุตบอลคือเรื่องสำคัญองเมืองนี้ 2-3 เดือนก่อน เราถกกันว่าฟุตบอลสำคัญหรือไม่ ฟุตบอลมีหน้าที่อะไรในสังคม ในความเห็นของผม ตอนนี้เราได้เห็นแล้ว”
“ฟุตบอลมีความสำคัญต่อสังคม ชาวลิเวอร์พูลเจอปัญหา ผมไม่อยู่ในเมือง ผมไม่รู้ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร แต่มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น เมืองจะสามัคคีกัน พยายามทำให้ดีที่สุด ในสนามฟุตบอล เราจะพยายามให้ดีที่สุดเหมือนกัน”
FSG อาจได้รับการยกย่องจากเดอะ ค็อป แต่พวกเขาถูกมองว่าผิดพลาดในกรณี Big Picture Project ซึ่งร่วมมือกับแมนฯ ยูฯ และอีก 4 ทีมใหญ่ ขณะที่ 72 ทีมใน EFL เห็นด้วย 16 ทีมในพรีเมียร์ ลีกปฏิเสธ และอีกครั้งที่คลอปป์เหมือนเป็นนักการทูตที่ดีของสโมสร ไม่เช่นนั้น ลิเวอร์พูลอาจเจอมรสุมมากกว่านี้
เมืองสามัคคีกันเมื่อเกิดปัญหา แต่คงไม่ใช่ในสนาม นี่คือเกมเดียวที่มีใบแดงมากสุดในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ ลีก 21 ใบจาก 56 นัดก่อนหน้านี้ เป็นของเอฟเวอร์ตัน 14 ใบ แลด 7 ใบของลิเวอร์พูล ซึ่งลิเวอร์พูลชนะ 24 เอฟเวอร์ตันชนะ 9 เสมอกัน 23
บทความโดย :: กิตติกร อุดมผล
อ่านข่าวฟุตบอลต่างประเทศ :: ข่าวฟุตบอลวันนี้
บทความฟุตบอล :: บทความฟุตบอลก่อนหน้านี้
เว็บดูบอลออนไลน์ :: ดูบอลออนไลน์ฟรี
