3 แต้มแบบวิ่งสู้ฟัดอีกนัด

การหมุนเวียนทีม ชนะ2-0 แบบยากเย็น คือเรื่องที่คาดหวังว่าต้องเจอ

แต่การบาดเจ็บของฟาบินโญ่นี่ซิ

การหมุนเวียนทีม ชนะ2-0 แบบยากเย็น คือเรื่องที่คาดหวังว่าต้องเจอ

เกมเมื่อคืน เยอร์เก้น คลอปป์ จัดผู้เล่นสลับสับเปลี่ยนตามความจำเป็น เนื่องจากลิเวอร์พูลเล่นเกมที่ 4 ใน 10 เดือนตุลาคม มีโปรแกรมทั้งหมด 7 เกม รวมทีมชาติอีก 3 นั่นคือภาระที่นักเตะต้องเผชิญ

 

4-2-3-1 เกมที่สองติดต่อกัน และเล่นแบบนั้นค่อนข้างเด่นชัด มิดต์จิลลันด์ (บางท่านอาจอ่าน มิดทิลลันด์ ก็เอาที่สะดวกนะครับ แต่ผมพอการออกเสียงของคนเดนมาร์ก ได้ยินว่า มิดต์จิลลันด์) ก็เล่นแบบนั้นเหมือนกัน

 

ความมุ่งมั่นที่จะพลิกล็อคเหนือแชมป์ยุโรป 6 สมัย เป็นพลังบวกมากกว่าเดิม เดินหน้าเข้าใส่แบบไม่ต้องยั้ง ขณะที่ลิเวอร์พูลต้องเล่นแบบระมัดระวังการบาดเจ็บ

 

มิดต์จิลลันด์อาจไม่น่ากลัว หากเทียบหลายเกมที่ลิเวอร์พูล แต่พวกเขาเกือบขึ้นนำเมื่ออันเดอร์ส เดรเยอร์อดีตกองหน้าไบรท์ตันมีโอกาสหลุดเดี่ยว แต่อลิซงป้องกัน ท้ายเกมเขาเกือบตีเสมอได้ เมื่อหลบ โจ โกเมซแบบง่ายๆ แต่ยิงไม่เข้ากรอบ

 

หลายคนอยากเห็นผลงานของรีห์ส วิลเลี่ยมส์มากกว่าเป็นตัวสำรอง 1 นาที ก็คงพอใจ แต่น่าจะดีกว่านี้หากไม่ใช่การเล่นแทนฟาบินโญ่ที่บาดเจ็บในนาที 27 ทำเอาเกมกับเวสต์ แฮม เสาร์นี้กลายเป็นคำถามว่า ลิเวอร์พูลจะเอาใครเล่นเซนเตอร์ โจเอล มาติปฟิตแค่ไหน วิลเลี่ยมส์ เนธาเนี่ยล ฟิลลิปส์ และบิลลี่ คูเมติโอ คนใดคนหนึ่งต้องเล่นกับโจ โกเมซ

 

คลอปป์อาจต้องคิดล่วงหน้าว่า เกมเยือน 2 นัดถัดไปจะเอาอย่างไร แบร์กาโม่ต่อด้วยอีสต์แลนด์ที่แมนเชสเตอร์

 

เกมนี้ผมว่า คลอปป์จัดทีมโดยมองว่า จะเล่นอย่างไรกับเวสต์ แฮม เพราะฉะนั้นมิลเนอร์ โอริกี้ มินามิโนะและชาคีรี่ได้เล่น ส่งผลให้ลิเวอร์พูลไม่มีมาเน่ ฟีร์มีโน่และซาลาห์ เป็นครั้งแรกนับจากปี 2015 และส่งผลให้ลิเวอร์พูล ไม่สามารถยิงเข้ากรอบคู่แข่งใน 45 นาทีแรกที่แอนฟิลด์เลยแม้แต่ครั้ง

 

ครั้งแรกในรอบ 51 เกมที่เกิดเรื่องแบบนี้ บ่งบอกว่า วันนี้เกมรุกชุดสองของลิเวอร์พูล ไม่อาจทดแทนชุดแรกได้ แต่เป็นผม ก็ไม่เสี่ยง หรือยังไงก็ต้องพัก 3 ประสานไว้บ้างแล้วหวังว่าโชคเข้าข้าง

 

ประตูขึ้นนำเป็นมากกว่าโชค เมื่อเทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เติมเกมรุกชิ่งกับชาคีรี่ ก่อนเปิดให้ดีโอโก้ โชต้ายิงประตูที่ 10,000 ในประวัติศาสตร์ของสโมสร เป็นแอสซิสต์ที่ 35 ของอาร์โนลด์ในทุกรายการกับลิเวอร์พูล หลังจากเล่นนัดแรกเมื่อ 2015

 

เหมือนเกมอาแจ๊กซ์ ลิเวอร์พูลพยายามประคองตัว รักษาความได้เปรียบให้นานที่สุด เรียกว่าอลิซงพยายามถ่วงเวลาให้มากที่สุด หรือการครองบอลในแดนตัวเอง จนเกมอยู่หน้าประตูลิเวอร์พูลมากกว่ามิดต์จิลลันด์

 

ไม่นับโชต้าที่ผลงานสม่ำเสมอ โอริกี้ มินามิโนะไม่สามารถเป็นที่พึ่งพิงได้ ทั้งการครองบอล การกดดันกองหลังมิดต์จิลลันด์ จนในที่สุด มาเน่ ฟีร์มีโน่และซาลาห์ต้องทยอยกันลงสนามโดยลำดับ แต่ก็ไม่อาจทำให้เกมลิเวอร์พูลดีขึ้นสักเท่าไร แต่อย่างน้อย กองหลัง มิดต์จิลลันด์ต้องพะวงกับความเร็วของมาเน่และซาลาห์มากขึ้น

 

จนในที่สุด ความเร็วของซาลาห์ทำให้ 3 คะแนนอยู่ในมืออย่างแน่นอน และนั่นคือจุดโทษในนาที 93

 

ไม่หวือหวา แต่ก็ตามเป้าประสงค์ 2 นัด 6 คะแนน ฤดูกาล 2020-21 คือการเอาตัวรอดเท่าที่ทรัพยากรจะมีและโชคชะตาจะเข้าข้าง โดยเฉพาะการบาดเจ็บ

 

อีกอย่างที่ผมว่าสำคัญคือ การจัดตัวที่ไม่ใช่ชุดหลัก สามารถเอาตัวรอดได้ และดีขึ้นเมื่อเปลี่ยนนักเตะที่ดีกว่าลงมา นั่นบ่งบอกคุณภาพของทีมได้ กลางมีตัวเลือกเยอะทำให้คลอปป์ทำงานง่ายขึ้น ส่วนกองหน้าถ้าต้องการพัก 3 ประสานจริงๆ โชต้าและชาคีรี่คือตัวหมุนเวียนที่ดี

 

ส่วน 4-2-3-1 ผมว่าไม่ค่อยเวิร์ค หากไม่ธิอาโก้ อัลคันทาร่า 4-3-3 แบบครึ่งหลัง เกมแดนกลางแน่นกว่า

 

บทความโดย  :: กิตติกร อุดมผล

อ่านข่าวฟุตบอลต่างประเทศ :: ข่าวฟุตบอลวันนี้

บทความฟุตบอล :: บทความฟุตบอลก่อนหน้านี้

เว็บดูบอลออนไลน์ :: ดูบอลออนไลน์ฟรี