กว่าจะได้มาซึ่ง ร็อบโบ้

กว่าจะได้นักเตะแต่ละคน ลิเวอร์พูลยุคปัจจุบันค่อนข้างละเอียด

กว่าจะได้นักเตะแต่ละคน ลิเวอร์พูลยุคปัจจุบันค่อนข้างละเอียด

มีแผน1 แผน2 เพื่อได้สิ่งที่เหมาะสมกับทีม

กว่าจะได้นักเตะแต่ละคน ลิเวอร์พูลยุคปัจจุบันค่อนข้างละเอียด

 

จามาล ลูอิส ได้ย้ายทีมเสียที หลังอกหักกับลิเวอร์พูล ในที่สุดนอริชก็ยอมลดราคาที่ตั้งไว้ นั่นอาจแสดงให้เห็นว่า ลิเวอร์พูลไม่ได้เล็งว่า ลูอิสคือเป้าหมายอันดับหนึ่ง การย้ายไปนิวคาสเซิ่ลด้วยสัญญา 5  ปี จบที่ 15 ล้านปอนด์ แล้วค่อยบวกขึ้นไปตามความสามารถและผลงานของลูอิส จนถึง 20  ล้านปอนด์ในที่สุด

ลึกๆแล้ว ผมคิดว่า ลูอิสไม่ใช่เป้าหมายอันดับหนึ่งของลิเวอร์พูล ไม่เช่นนั้น พวกเขาคงต่อรองราคาจนได้นักเตะไอร์แลนด์ผู้นี้

ทำไมพูดถึงแบ๊คซ้าย เพราะอยากเล่าเรื่องแอนดี้ โรเบิร์ตสัน หนึ่งในทีมยอดเยี่ยม PFA ฤดูกาล 2019-20 ที่ผ่านมา  หนึ่งใน 4  นักเตะลิเวอร์พูลที่ติดทีมยอดเยี่ยม พร้อมกับเวอร์จิล ฟาน ไดค์ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (ดาวรุ่งยอดเยี่ยม) และซาดิโอ มาเน่

ปัจจุบัน โรเบิร์ตสันคือหนึ่งในนักเตะสำคัญด้านซ้ายของลิเวอร์พูล ทุกคนรู้ว่า เขาไม่ใช่นักเตะค่าตัวแพงและเป็นการพิสูจน์ วิธีการทำงานของไมเคิ่ล เอ๊ดวาร์ดส์ ด้านการค้าหาของดีราคาถูก บวกฝีมือการพัฒนานักเตะของเยอร์เก้น คลอปป์และทีมงาน แต่การเป็นนักเตะโนเนม แทบไม่มีใครต้องการ ไม่ใช่ว่า ลิเวอร์พูลจะได้ตัวร็อบโบ้โดยง่าย

ปี 2017 ระหว่างลิเวอร์พูลทัวร์เอเซีย เดอะ ไทม์สของอังกฤษรายงานสั้นๆว่า เควิน สจ๊วร์ต ฟูล-แบ๊ควัย 23 ปี บินกลับอังกฤษเพื่อเจรจากับฮัลล์ ซิตี้ เมื่อลิเวอร์พูลยอมรับข้อเสนอ 8 ล้านปอนด์ ให้กับนักเตะที่ลงเล่น 9 นัดกับทีมชุดใหญ่ของคลอปป์ในฤดูกาล 16-17 สจ๊วร์ตมีโอกาสเล่นในพรีเมียร์ ลีก 16 นาที

เขาต่อสัญญา 5 ปี กับลิเวอร์พูลเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2016 ก่อนตกลงย้ายลงไปเล่นในเดอะ แชมเปี้ยนชิพกับฮัลล์ ในเดือนกรกฎาคม 2017 ค่าตัว 8 ล้านปอนด์ ลิเวอร์พูลไม่ขอเป็นเงิน แต่ขอแลกกับแอนดี้ โรเบิร์ตสัน นักเตะทีมชาติสก๊อตแลนด์วัย 23 ปี ซึ่งกำลังเข้าแคมป์พรี-ซีซั่นกับฮัลล์ที่โปรตุเกส

แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ไม่ใช่ตัวเลือกอันดับหนึ่งของลิเวอร์พูล เคยมีการเจรจากันแล้ว แต่ลิเวอร์พูลไม่พร้อมจ่าย 10 ล้านปอนด์ตามที่ฮัลล์ต้องการ จากนั้น ทั้งสองทีมก็แยกย้ายกันไป ลิเวอร์พูลมาฮ่องกง และฮัลล์ไปโปรตุเกส ซึ่งโรเบิร์ตสันพร้อมย้ายจากฮัลล์ ไม่ว่าจะเป็นทีมไหนในพรีเมียร์ ลีกติดต่อเข้ามา

“ผมหงุดหงิดเลย โทรคุยกับตัวแทนผม วันละ 10-12 ครั้ง ต้องการให้เรื่องย้ายทีมได้ข้อสรุป” โรเบิร์ตสันเปิดเผยเมื่อปี 2018

สโต๊คมีมาร์ค ฮิวจ์สเป็น ผจก. ได้ที่ 13 ในพรีเมียร์ ลีก ฤดูกาล 16-17 สนใจโรเบิร์ตสันเช่นกัน และนักเตะเตรียมใจย้ายบ้านไปอยู่สตัฟเฟิร์ดเชียร์

เขาคิดว่า นั่นเป็นทีมเลือกที่ดีเหมือนกัน แม้จะต้องแย่งตำแหน่งกับเอริค ปีเตอร์ส อย่างไรก็ตามที ลิเวอร์พูลสามารถบรรลุข้อตกลงกับโรเบิร์ตสันได้ตอนสิ้นเดือนกรกฎาคม

ซึ่งคลอปป์ให้สัมภาษณ์ถึงโรเบิร์ตสันระหว่างทัวร์เอเชียกับรายการ พรีเมียร์ ลีก เอเชีย โทรฟี่ว่า เป็นตัวเสริมที่ดี

ผ่านมา 3 ปี โรเบิร์ตสันเป็นมากกว่าตัวเสริม เพราะตัวเลือก 2  อันดับแรก ณ เวลานั้นคือ อัลแบร์โต้ โมเรโน่และจอน ฟลานาแกน ย้ายไปหมดเรียบร้อย แอนดี้ โรเบิร์ตสันเป็นแบ๊คซ้ายอันดับ 1 ของทีมและลีกในสายตาของนักเตะด้วยกัน ขณะที่เจมส์ มิลเนอร์ ซึ่งบางทีเล่นตรงนี้ก่อนโรเบิร์ตสัน ได้กลับไปเล่นแดนกลางมากขึ้น

เมื่อโรเบิร์ตสันย้ายทีม ขณะนั้น ภรรยาเขา ราเชล โรเบิร์ตส์ท้องและใกล้คลอดเต็มที (เวลาต่อมา ภรรยาเขาคลอดลูกชาย ร็อคโค่  วันที่ 26 สิงหาคม 2017) การย้ายก็ลำบากเหมือนกัน ตอนนั้น ทีมชุดใหญ่ลิเวอร์พูลยังไม่กลับเมอร์ซี่ย์ไซด์ โรเบิร์ตสันต้องซ้อมกับนักเตะที่เหลืออยู่ ณ เมลวู้ด

ลิเวอร์พูลต้องการแบ๊คซ้าย อาจมีอัลแบร์โต้ โมเรโน่อยู่กับจริง แต่เจมส์ มิลเนอร์ต้องเล่นแบ๊คซ้ายมากกว่า โดยนักเตะอังกฤษเล่น 36 นัดในลีก และโมเรโน่เล่น 2 นัด บวกเป็นตัวสำรองอีก 10 นัด ใครคือคนที่เหมาะสม เริ่มตั้งแต่ เอเมอร์สัน พัลมิเอรี่ นักเตะบราซิลซึ่งผลงานดีกับโรม่า เช่นเดียวกับโม ซาลาห์ ทีมคว้ารองแชมป์สคูเด๊ตโต้ แพ้ยูเวนตุส 4 คะแนน

แต่พัลมิเอรี่บาดเจ็บเอ็นร้อยหวาย ทำให้ลิเวอร์พูลต้องเปลี่ยนเป้าหมาย อีกหนึ่งทางเลือกคือ ริซ่า เดอร์มิซี่ นักเตะเดนมาร์กของเรอับ เบตีส เขาเปิดเผยกับ Tipsbladet ในเวลาต่อมา ลิเวอร์พูลยื่นข้อเสนอให้เบตีส โดยขอแลกตัวกับโมเรโน่ “โมเรโน่ปฏิเสธที่จะย้ายทีม ลิเวอร์พูลต้องหาทางขายโมเรโน่ก่อน ผมถึงมีโอกาสย้าย ผมก็รอว่าเมื่อไร เรื่องนี้จะเกิดขึ้น” Tipbladet  เปิดเผยว่า เดอร์มีซี่พูดแบบนั้น

“โมเรโน่มีสัญญาที่ดีกับลิเวอร์พูล ไม่น่าแปลกใจที่เขาไม่ยอมย้าย  ซึ่งผมเข้าใจนะ แต่เขาต้องยอมย้ายออก ผมถึงมีโอกาสย้ายไปลิเวอร์พูล” นั่นบ่งบอกหลักการดำเนินธุรกิจของลิเวอร์พูลตั้งแต่แรก

เลยจากเดอร์มีซี่คือ เบน ชิลเวลล์ ดาวรุ่งเลสเตอร์ที่มีโอกาสลงเล่นเดอะ แชมเปี้ยนชิพกับฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ด้วยสัญญายืมตัวปี 2015-16 คนที่แนะนำให้คลอปป์ซื้อชิลเวลล์คือ เดวิด วากเนอร์ ผจก.เดอะ เทอร์เรียร์

เลสเตอร์ตั้งค่าตัวชิลเวลล์ไว้ 10 ล้านปอนด์ เพิ่งอายุ 18  ปี ลิเวอร์พูลขอต่อเหลือ 7 ล้านปอนด์ แต่เลสเตอร์ปฏิเสธ ซึ่งทีมเชื่อมั่นว่า นักเตะดาวรุ่งคนนี้ต้องอนาคตไกลแน่นอน 2 สัปดาห์ หลังปฏิเสธข้อเสนอลิเวอร์พูล เลสเตอร์ต่อสัญญาระยะยาวกับชิลเวลล์ จนกระทั่งต่อมาขายให้เชลซีด้วยค่าตัว 50  ล้านปอนด์ เลสเตอร์คงดีใจที่ตอนนั้น ตั้งมั่นใจมาตรฐานของตัวเอง

ที่สำคัญ แสดงว่า ลิเวอร์พูลก็มองไม่ผิดเหมือนกัน แต่ติดด้วยราคา

เลยจากชิลเวลล์ ยังมีอีกหลายคนที่ไมเคิ่ล เอ๊ดวาร์ดส์ เสนอทางเลือกให้คลอปป์ นอกจากเอเมอร์สัน เดอร์มีซี่ ยังมีเบนชาแม็ง เมนดี้ ไรอัน เซสซายง และโจช ไทม่อน ฟูล-แบ๊คอีกคนของฮัลล์ ซิตี้

ถึงปัจจุบัน ตัวเทียบเคียงที่ลิเวอร์พูลมอง น่าจะมีแค่ชิลเวลล์ที่ผลงานทะลุเป้าเหมือนโรเบิร์ตสัน

เอเมอร์สันย้ายมาเชลซีเมื่อปี 2018  ลงเล่น 52 นัด เดอร์มีซี่ย้ายไปลาซิโอในปี 2018 ก่อนโดนนีซยืมตัว เมนดี้ได้แชมป์ลีกกับแมนฯ ซิตี้ แต่ลงเล่นแค่ 46 นัดใน 3 ฤดูกาลที่เต็มไปด้วยการบาดเจ็บ เซสซายงย้ายไปท็อตแน่ม แต่ผลงานไม่ดี และไทมอนย้ายไป สโต๊ค

ลิเวอร์พูลมักพยายามหาทางเลือก  ยกเว้นกรณี เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ซึ่งถ้าพูดถึงเซนเตอร์แบ๊ค ทั้งทีมงานของเอ๊ดวาร์ดส์และคลอปป์บอกว่า แค่คนนี้คนเดียว ถ้าไม่ได้ก็ไม่เอา ตำแหน่งอื่นที่ลิเวอร์พูลแสวงหามา มีตัวเลือกมีการเจรจา ประเภทพลิกผันอนาคตทั้งนั้น ก่อนซาลาห์ย้ายด้วยค่าตัว 34 ล้านปอนด์จากโรม่า คลอปป์อยากได้ จูเลี่ยน บลันด์จากเลเวอร์คูเซ่น เช่นเดียว คริสเตียน พูลิซิสและจูเลี่ยน แดร็กซ์เลอร์ ก่อนได้ซาดิโอ มาเน่ ปี 2016 ลิเวอร์พูลพิจารณามาริโอ เกิตเซ่

ในที่สุดโชคชะตาทำให้พวกเขาได้ร่วมทีมกัน และกลายเป็นการเซ็นสัญญาที่คุ้มค่ามาก หากแบ๊คซ้ายของลิเวอร์พูลเป็น เอเมอร์สันหรือเดอร์มีซี่ ก็ไม่แน่ใจว่า จะเป็นอย่างไร คลอปป์อาจเก่งในการปั้น แต่ของที่จะปั้นก็ต้องดีด้วย

เหมือนเชลซีอยากได้อลิซง เบ๊คเกอร์ แต่ชะล่าใจนิดเดียว โดนลิเวอร์พูลแย่งมา และต้องจ่ายแพงกว่ากับเคป้า อาร์ริซาบาลาก้า

โลกของการซื้อขาย ไม่มีอะไรแน่นอน จนกว่าการเจรจาจะสิ้นสุดลง ทิโม แวร์เนอร์คือนักเตะลิเวอร์พูล จนกระทั่งเชลซีแทรกตัวเข้ามา พร้อมข้อเสนอที่นักเตะและสโมสรปฏิเสธไม่ได้

กรณีโรเบิร์ตสัน หากการเจรจากับฮัลล์ล้มเหลว ไม่รู้ว่าไมเคิ่ล เอ๊ดวาร์ดส์จะมีทีเด็ดอะไรมาให้เยอร์เก้น คลอปป์ หรือป่านนี้ ลิเวอร์พูลก็ไม่อาจเล่นได้แบบที่เราเห็น เพราะขาดนักเตะแบบร็อบโบ้

เพราะฉะนั้น บางทีเราต้องเชื่อใจวิธีการทำงานของสโมสร ทีมงานของไมเคิ่ล เอ๊ดวาร์ดส์ และเยอร์เก้น คลอปป์ที่เน้นวิธีการ ร่วมมือเป็นหนึ่งเดียว ไม่มีคนเก่งคนเดียว แต่คนเก่งหลายๆคน ทำให้ทีมประสบความสำเร็จ

ปล เมื่อวานนี้ อันเดรีย อันเญลี่ ประธานสมาคมสโมสรยุโรป เปิดเผยว่า  ECA และยูฟ่า ตกลงยอมชดเชยค่าลิขสิทธิ์ฟุตบอลถ้วยสโมสรยุโรปให้เจ้าของลิขสิทธิ์ทั้งหลายเป็นมูลค่ารวม 519 ล้านปอนด์ หารเฉลี่ยตามแต่ละทีมได้รับเงิน ซึ่งยูฟ่าจ่ายเงินให้สโมสรเรียบร้อย เท่ากับทุกทีมที่แข่งฟุตบอลถ้วยยุโรป ปี 2019-20 ต้องคืนเงินให้ยูฟ่า เพื่อนำไปชำระให้ผู้สนับสนุน

เหมือนทีมในพรีเมียร์ ลีกคืนเงินให้ผู้ถือลิขสิทธิ์ 330 ล้านปอนด์ บุนเดสลีกา ชดเชยคืน 180 ล้านปอนด์ แต่จะแบ่งชำระอย่างไร ต้องตกลงกันอีกที

 

 

บทความโดย  :: กิตติกร อุดมผล

อ่านข่าวฟุตบอลต่างประเทศ :: ข่าวฟุตบอลวันนี้

บทความฟุตบอล :: บทความฟุตบอลก่อนหน้านี้

เว็บดูบอลออนไลน์ :: ดูบอลออนไลน์ฟรี