#กว่าจะเป็นกัปตันจอร์แดนเฮนเดอร์สัน ตอนที่ 3
บุคคลระดับตำนานมีมากมายแถวอู่ต่อเรือและเหมืองในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่วีระบุรุษเกิดขึ้นในสนามฟุตบอล
ข้อความโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์อู่ต่อเรือ วิลเลี่ยม ด็อกซ์เฟิร์ด ติดผนังผับแฮร์ริ่งตัน บอร์ด อินน์ ยังมีภาพบุคคลสำคัญกว่า คือบ๊อบบี้ เคอร์ กัปตันทีมคนล่าสุดของซันเดอร์แลนด์ที่ได้แชมป์รายการใหญ่ เอฟเอ คัพ นั่นก็ย้อนไปปี 1973
19 ปีหลังจากนั้น ซันเดอร์แลนด์มีโอกาสอีก แต่แพ้ลิเวอร์พูล 2-0 ที่เวมบลี่ย์ในปี 1992 เควิน บอลล์เป็นหนึ่งในทีมชุดดังกล่าว เขาเป็นคนใต้ มาจากเฮสติ้ง เหมือนพิลคิงตัน ไม่ใช่คนถิ่นนั้นแต่รู้เรื่องราวของภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นอย่างดี เขานับว่าตัวเองคือ แม็กเคมคนหนึ่ง (Mackem-คนซันเดอร์แลนด์) อยู่ที่นี่ยาวนาน ลงเล่นให้สโมสร 388 นัด
จนถึงปี 2011 เดอแร่ม คือเคานตี้ที่ปั้นนักเตะสู่พรีเมียร์ ลีกมากกว่าถื่นอื่นๆของประเทศ ไล่ตั้งแต่ปี 1992 เป็นต้นมา เฉลี่ย 9 คนต่อประชากร 100,000 คน ขณะที่ไทน์&เวียร์ และนอร์ทธัมเบอร์แลนด์ ติด 10 อันดับแรกเช่นกัน
ไม่นับผลงานของบ๊อบ เพสลี่ย์และอลัน เคนเนดี้ ทั้งสองได้เหรียญชนะเลิศยูโรเปี้ยน คัพรวมกัน 5 เหรียญ แชมป์ลีกอีก 11 สมัย ความสำเร็จทุกอย่างเกิดขึ้นที่ลิเวอร์พูล เคนเนดี้เกิดที่ซันเดอร์แลนด์ เพสลี่ย์มาจากเฮตตัน เอล โฮล เลยจากแฮร์ริงตันไปอีก 5 ไมล์
การวาดภาพฟุตบอลอังกฤษเป็นพีรามิด การแข่งขันระดับฐานรากของพีรามิดฟุตบอล ภาคตะวันออกเฉียงเหนือประสบความสำเร็จมากสุด ทีมจากนอร์ทธัมเบอร์แลนด์ชนะเลิศเอฟเอ คัพ วาส(FA Vase Trophy) รวมกัน 10 ครั้งระหว่าง 2008-2017 และแพ้ในนัดชิงอีก 2 ครั้ง
ในอดีต บิช็อป โอ๊คแลนด์ และครู้ก ทาวน์ ครองความยิ่งใหญ่ในรายการเอฟเอ อเมเจอร์ คัพมากสุด ปัจจุบันในเอฟเอ ซันเดย์ คัพ ทีมจากตะวันออกเฉียงเหนือยังครองความสำเร็จมากสุด เป็นแชมป์ 8 จาก 14 ครั้งล่าสุด
สถิตินี้ยืนยันว่า ทรัพยากรสำคัญของฟุตบอลอังกฤษเกิดขึ้นในแถบนี้ เพียงแต่พวกเขาไม่ประสบความสำเร็จในระดับสูงสุด อย่างมิดเดิ้ลส์โบรช์ได้แชมป์ลีก คัพ ครั้งล่าสุดเมื่อปี 2004 นั่นคือครั้งสุดท้ายที่ทีมแถบนี้ได้แชมป์รายการใหญ่ ส่วนนิวคาสเซิ่ลต้องย้อนกลับไปถึงปี 1955 เลยด้วยซ้ำ
พิลคิงตันและบอลล์ เช่นเดียวกับโค้ชอีกหลายคนในซันเดอร์แลนด์ ยอมรับว่า สาเหตุหลักเพราะสภาพการเงินของทีมแถบนี้ นิวคาสเซิ่ลเกือบทำลายอาถรรพ์ได้ยุคเซอร์จอห์น ฮอลล์เป็นเจ้าของทีม และพยายามทุ่มเงินมมากมายเพื่อปลุกชีพ ขณะที่ยุคอันรุ่งเรืองของมิดเดิ้ลส์โบรช์คือช่วงที่สตีฟ กิ๊บสัน พยายามลงทุนด้วยการดึงนักเตะจากต่างประเทศมาสู่ทีมทีไซด์
จำนวนนักเตะภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ในพรีเมียร์ ลีกมีการคาดว่า จอร์แดน เฮนเดอร์สันน่าจะเป็นกัปตันเลือดนอร์ธอีสต์ที่ได้ชูถ้วยชนะเลิศต่อจากสตีฟ บรูซ “เรามักปั้นนักเตะตัวเล็ก เทคนิคดี” บอลล์บอกแนวทางของเขา “เด็กเหล่านี้ไม่ใช่ตัวเลือกของผจก. สำหรับการเลือกกัปตันทีม แต่ถ้าเอาเด็กเหล่านี้มารวมกันเล่นในซันเดย์ ลีก ไม่มีทางแย่งบอลจากพวกเขาได้เหมือนกัน แต่การเล่นในพรีเมียร์ ลีก ต้องมีคุณสมบัติมากกว่านั้น”
บอลล์เป็น ผจก.ทีมยู 18 ของซันเดอร์แลนด์ช่วงเฮนเดอร์สันได้ทุนการศึกษา(เซ็นสัญญาเป็นนักเตะฝึกหัด) เหตุการณ์ที่บอลประทับใจคือ เฮนเดอร์สันและเพื่อนจากแฮร์ริงตันถ่ายวิดีโอพวกเขากันเอง แสดงทักษะการเล่นฟุตบอล เตะลูกบอลขึ้นหลังคาบอร์ด อินน์ แล้วรอให้บอลร่วงมาเพื่อโชว์ทักษะบังคับบอลล์ เฮนเดอร์สันอายุ 16 ปี สวมชุดซันเดอร์แลนด์ที่ผลิตโดยลอนสเดล (คลิปในโพสต์ที่แล้ว)
บอลล์เชื่อว่าคลิปดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า เฮนเดอร์สันรักฟุตบอลมากแค่ไหน “วัยรุ่นคนอื่นเอาความฝันมาทำเท่ๆ แต่จอร์แดนใช้ความฝันเป็นแรงขับเคลื่อนชีวิต” บอลล์กล่าว
เฮนเดอร์สันมีบางอย่างที่คล้ายบอลล์ในเรื่องนี้ เฮนเดอร์สันเกือบโดนซันเดอร์แลนด์ปล่อยตัว บอลโดนมาแล้วกับโคเวนทรีตอนเป็นวัยรุ่น ผิดหวัง วิ่งหางจุกตูดกลับบ้านที่เฮสติ้ง บอลล์ได้โอกาสอีกครั้งกับปอร์ทสมัธ เขาไม่ปล่อยโอกาสเป็นนักฟุตบอลอาชีพครั้งที่สองหลุดลอยไป ทุกเกมคือชีวิตสำหรับเขา ดังเกมสุดท้าย เฮนเดอร์สันก็เหมือนกัน “เขาใส่ใจผลงานตัวเอง ฟอร์มในวันเสาร์จะส่งผลต่อชีวิตเขาตลอดสัปดาห์ถัดมา”
บอลล์ใช้เวลาพูดคุยกับสตาฟโค้ชซันเดอร์แลนด์เกี่ยวกับนักเตะอายุ 16 ปีของทีมหลายครั้งและยาวนาน ลงรายละเอียดแต่ละคน วิเคราะห์ว่าจะกระตุ้นบางคนอย่างไรดี เตะก้นหรือตบไหล่ปลอบใจ จะเสริมอะไรให้เกมแต่ละคนได้อย่างไร เอลเลียตต์ ดิ๊กแมนย้ำกับบอลล์ว่า เฮนเดอร์สันต้องพัฒนาร่างกายให้แข็งแกร่งกว่านี้ บอลล์ถามกลับไป 3 ข้อ 1 เขามีความสามารถหรือไม่ 2 เขารักฟุตบอลหรือไม่ 3 ทัศนคติยอดเยี่ยมใช่ไหม คำตอบของดิ๊คแมนคือ ใช่กับทุกคำถาม ทำให้บอลล์มั่นใจว่า เขาได้เด็กที่มีความสามารถ เพื่อพัฒนาต่อ
“พอรู้จัก เขาคือเด็กที่คุณอยากให้โอกาสสักครั้ง” บอลล์คิดเช่นนั้นกับเฮนเดอร์สัน
“เขาเล่นตำแหน่งไหนก็ได้ นัมเบอร์ 7 11 10 4 หรือ 8” บอลล์บอก แม้เฮนเดอร์สันไม่ใช่นักเตะที่เร็วจนเล่นงานฟูล-แบ็คได้ แต่การเคลื่อนที่หาตำแหน่ง ทำให้เขาชดเชยสิ่งที่ขาดหายไป “เขาสามารถตัดเข้ามาด้านใน แล้ววิ่งผ่านศูนย์หน้า” บอลล์จำการเล่นของเฮนเดอร์สัน “เขาอึด เท่ากับฝ่ายตรงข้ามต้องทำงานหนักตลอด 90 นาที มีอะไรให้แก้ไขตลอด เราให้เขาเล่นศูนย์หน้าหนึ่งเกม เขาทำได้ดีนะ เขาเก็บบอลได้ ให้เวลาเพื่อนๆเติมขึ้นมา มีส่วนร่วม แม้เขาไมสามารถวิ่งทะลุแนวรับฝ่ายตรงข้ามได้ก็จริง”
คำแนะนำของบอลล์ต่อเฮนเดอร์สันเวลาเล่นคือ “คุณต้องดึงแฟนบอลมาอยู่ข้างคุณ” บอลล์ไม่ใช่นักเตะที่เทคนิคเลอเลิศ แต่ทัศนคติดี ทุ่มเท คนซันเดอร์แลนด์ชอบนักเตะแบบนี้ มีการมอบรางวัลในความสำเร็จให้บอลล์สำหรับการสร้างชื่อเสียงให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขายิงประตูได้หลายลูกจากตำแหน่งมิดฟิลด์ 9/10 ลูกยิงด้วยเท้าซ้าย ทั้งที่เขาถนัดเท้าขวา
“คุณมีหน้าที่ดูแลทุกส่วนของร่างกายให้ดีที่สุด” บอลล์อธิบายให้เฮนเดอร์สันฟัง ดังนั้นแทนที่จะเล่นด้วยเท้าขวาอย่างเดียว เขาพยายามพัฒนาเท้าซ้ายด้วย อันดับแรกคือการสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ บอลล์ออกแบบการฝึกให้เฮนเดอร์สัน ร่วมกับกองหลังร่วมรุ่น จอห์น อีแกน ปัจจุบันอยู่เชฟฟิลด์ ยูฯ ซึ่งต้องการพัฒนาเทคนิคการโหม่งให้แม่นยำกว่าเดิม เขาให้เฮนเดอร์สันเปิดบอลโด่งชนคาน จากนั้นให้อีแกนหาจังหวะโหม่ง
แบบนี้ทำให้ขาของเฮนเดอร์สันแข็งแรงและเปิดบอลแม่นขึ้น และอีแกนมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อบอลที่คำนวนทิศทางได้ยาก หรือเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ได้ดีกว่า
สก๊อตต์ เพียร์ซ จำได้ว่า บอลล์ต้องการให้ทีมยู 18 ของซันเดอร์แลนด์เล่นโดยมีเอกลักษณ์ ประมาณว่า ไม่ต้องสวมเสื้อซันเดอร์แลนด์ คู่ต่อสู้ก็รู้ว่า พวกเขาเจอใคร บอลล์ยอมรับว่าเขาโชคดีที่มีโอกาสโค้ชนักเตะที่มีความรับผิดชอบต่อตนเองและสโมสร ไม่เคยต้องเคี่ยวเรื่องระเบียบวินัยมากนัก
ดิ๊คแมนเชื่อว่า เพื่อนร่วมทีมของเฮนเดอร์สันมีความสำคัญต่อพัฒนาการของนักเตะ เท่ากับโค้ชและครอบครัว เหมือนการอยู่กับคนดีจะซึมซับสิ่งที่ดีงามไปด้วย ทีมพยายามละลายพฤติกรรมนักเตะ ห้ามมีอีโก้ “จอร์แดนมีความมั่นใจในตัวเองมาก แต่เขาไม่แสดงออกแบบนั้นเมื่ออยู่ต่อหน้าคุณ” ดิ๊คแมนอธิบาย “เขาค่อนข้างเก็บเนื้อเก็บตัว ไม่ชอบเป็นเป้าสนใจ เขาชื่นชมผลงานของคนอื่น แต่คนมักมองข้ามผลงานของเขา”
แม็คเนมี่ “ผมค่อนข้างวิจารณ์เขาเยอะตอนอายุ 18 เขาเก็บบอลกับตัวมากเกินไป ต้องออกบอลให้เร็วกว่านี้ เขาค่อนข้างห่วงบอล ไม่ชอบที่ผมวิจารณ์เท่าไร ก็แสดงออกทางสีหน้าเหมือนกัน แต่เขาปรับการเล่นในทางที่ดี เขารับฟังคำแนะนำนะ”
ดิ๊คแมน “เขาเล่นวันเสาร์กับทีมเยาวชน โดนเปลี่ยนตัวออกในนาที 60 แน่นอนเขาไม่พอใจ แต่เรามั่นใจได้ว่า รุ่งขึ้นเขาจะซ้อมมากกว่าเดิม ผ่านบอล ฟรีคิก เขามักแยกไปซ้อมในสนามบริเวณที่ไกลห้องแต่งตัวมากที่สุด เหมือนไม่อยากให้ใคร ทั้งโค้ชและเพื่อนร่วมทีม รู้ว่าเขาซ้อมมากกว่าคนอื่น เขาอาจเชื่อมั่นในความสามารถ แต่เขาคิดว่า สามารถปรับปรุงตัวเล่นให้ดีกว่าเดิม”
บอลล์เชื่อความตั้งอกตั้งใจของเฮนเดอร์สันส่งผลกับเพื่อนร่วมทีม ขณะเดียวกัน ความมุ่งมั่นของเพื่อนร่วมทีมส่งผลต่อการเล่นของเฮนเดอร์สัน เขาจำได้ว่าให้นักเตะพักสองวัน ตั้งแต่วันอังคาร ไม่ต้องมีใครมาสนามจนกระทั่งวันพฤหัส รุ่งขึ้นบอลล์มาโค้ชทีมชุดเด็กกว่า สิ่งที่เห็นคือ เฮนเดอร์สันและเพื่อนร่วมทีมอีก 5 คนมาซ้อมอยู่ไกลๆ เขาคิดในใจว่า “พวกนั้นจะมาทำอะไรกัน”
วันที่เฮนเดอร์สันและเพื่อนมาซ้อมกันเอง พวกเขาก็จริงจังเหมือนอยู่ภายใต้สายตาโค้ช เฮนเดอร์สันเน้นการเตะมุมและฟรีคิก บอลล์พยายามบอกเด็กเหล่านั้นว่า ต้องการให้พัก แต่สุดท้ายเขาก็ยอมจำนนเพราะเด็กเหล่ามีพลังเหลือเฟือ
“เด็กๆแข็งแรง แต่เราต้องพยายามดูแลให้พวกเขามีโอกาสเล่นได้ยาวนานที่สุด ฟุตบอลอาชีพ ต้องดูแลตัวเอง วันละ 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ แต่สมองอีกซีกก็บอกว่า นี่แหละที่เราต้องการจากนักเตะไม่ใช่เหรอ” บอลล์กำชับว่า อย่าซ้อมนานเกินไป แต่รู้ดีว่า เด็กๆกลุ่มเฮนเดอร์สันคงซ้อมอีกไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง
การเล่นทีมชุดเล็ก ข้างละห้าคน ใครยิงได้ห้าประตูก่อนชนะ เป็นแกนหลักในการซ้อม ทีมแพ้ต้องวิ่งรอบบริเวณศูนย์ฝึกซ้อม แน่นอน ไม่มีใครอยากแพ้ และบางทีการแข่งขันก็เลยเถิด ดุเดือดหนักหน่วง เขาอยากให้นักเตะพักก็จริง แต่บางที นักเตะเลือกที่จะวิ่งด้วยกัน ซี่งเขาไม่ขัดข้อง
บอลล์เชื่อว่า ต้องหล่อหลอมจิตใจของผู้ชนะให้นักเตะ เพราะระดับทีมชุดใหญ่ พวกเขาไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไร สัมผัสแห่งชัยชนะคือสิ่งจำเป็นต่อการพัฒนานักเตะ ให้แต่ละคนมีความสามารถเฉพาะตัวดีขึ้น ทีมเยาวชนของบอลล์เน้นเกมบนพื้น การต่อบอล เริ่มจากผู้รักษาประตู ไปยังฟูล-แบ็ค เข้าแดนกลางเว้นแต่ว่าเจอทีมที่แข็งแกร่งกว่า เขาจะเปลี่ยนแท็คติก หาทางส่งบอลไปแดนหน้าให้เร็วที่สุด ซึ่งเคยช่วยให้ทีมชนะ 6-0 “ผมบอกพวกเขาว่า เราต้องยืดหยุ่นในเรื่องวิธีการ”
เกมสำคัญที่โค้ชประใจเยาวชนซันเดอร์แลนด์คือ เจอเชฟฟิลด์ ยูฯ พวกเขาตาม2-0 ก่อนพลิกชนะ 3-2 ซึ่งโค้ชไม่พูดอะไรกับนักเตะเลยระหว่างพักครึ่ง แต่ให้พวกเขาหาวิธีกันเอง อีกเกมคือการเยือนชาร์ลตันระหว่างเข้ารอบรองเอฟเอ ยูธ คัพ 2008 พวกเขาแพ้แมนฯ ซิตี้อย่างหวุดหวิด จอนโจ้ เชลวี่ นักเตะอีกคนที่ย้ายไปเล่นลิเวอร์พูลก่อนเฮนเดอร์สัน เชลวี่อายุน้อยกว่าเฮนเดอร์สัน 1 ปี ในระดับเยาวชน ได้รับการยกย่องว่าเก่งที่สุดคนหนึ่งเหมือนกัน เขาติดทีมเยาวชนอังกฤษทุกระดับ ผิดกับเฮนเดอร์สันที่ไม่เคยมีโอกาส จนกระทั่งอายุ 19 ปี
ตอนเช้า โคลแบ็คไม่ค่อยสบาย แต่พยายามลงเล่น ความไม่สมบูรณ์ทำให้เฮนเดอร์สันและแดนกลางซันเดอร์แลนด์เจองานหนักกว่าเดิม บอลล์เล่าว่า นั่นคือเกมที่เหลือเชื่อ อาจเป็นเกมที่ดีที่สุดในระดับเยาวชน เฮนเดอร์สันยิงให้ทีมชนะจากระยะ 25 หลา เป็นครั้งเดียวที่บอลล์วิ่งแสดงความยินดีแบบสุดๆ ขณะเป็นโค้ช
“ผมชอบวินาทีนั้น ดูหน้าของจอร์แดน เห็นว่าเขารักฟุตบอลมากแค่ไหน”
บอลล์บอกว่า แค่นึกถึงประตูนั้นก็ทำให้เขาขนลุกแล้ว
ปล เมื่อวานนี้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน คว้ารางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาฟุตบอล FWA
บทความโดย :: กิตติกร อุดมผล
อ่านข่าวฟุตบอลต่างประเทศ :: ข่าวฟุตบอลวันนี้
บทความฟุตบอล :: บทความฟุตบอลก่อนหน้านี้
เว็บดูบอลออนไลน์ :: ดูบอลออนไลน์ฟรี
